หลังจากเห็นแม่ของเขาถูกยิงโดยกองทหารเยอรมันที่บุกเข้ามา Artūrs วัยสิบหกปีจึงต้องเข้าสู่สนามรบอย่างไม่ได้ตั้งใจ
แม้ว่าเขาจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ และพ่อของเขาซึ่งเป็นอดีตพลแม่นปืนมีอายุเกินเกณฑ์ในกองทัพ
พวกเขาทั้งคู่ก็ถูกเกณฑ์ให้เป็นหนึ่งในกองพันระดับชาติแห่งแรกของลัตเวีย ซึ่งมี Edgars พี่ชายของ Arturs ประจำการอยู่แล้ว
Arturs เข้าสู่แนวรบด้านตะวันออก เข้ารับการฝึกด้วยความปรารถนาที่จะเจริญรอยตามพ่อของเขา
ส่วนพ่อของเขารู้สึกเสียใจที่ลูกชายคนเล็กต้องเข้าสู่สนามรบตั้งแต่ยังเด็ก
ในไม่ช้าความตื่นเต้นของการฝึกฝนก็ตามมาด้วยความเป็นจริง สนามเพลาะรอบตัวเพวกเขาที่จมอยู่ในโคลนตม
เหมือนเป็นสถานที่ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด Arturs เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งในสนามรบ ต่อสู้เคียงข้างพ่อและพี่ชายของเขา..
แต่สงครามไม่มีคำว่าปราณีและไม่เลือกชีวิตว่าจะเป็นใครมาจากไหน ทุกคนมีสิทธิตายได้เท่ากัน
และนั่นก็จึงทำให้ Arturs ต้องสูญเสียพ่อและพี่ชายไป
หลังจากที่ไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิต จากเด็กหนุ่มที่อ่อนโยน Arturs กลายเป็นคนแข็งกร้าว
ความโหดร้ายของสงครามเปลี่ยนตัวตนของเขาไปในที่สุด....
Blizzard of Souls ดัดแปลงจากหนังสือของ Aleksandrs Grins เป็นเรื่องราวนี้อิงจากประสบการณ์การทำสงครามของ Grins
ในฐานะพลทหารแม่นปืนกองพันลัตเวีย เหตุการณ์ในภูมิภาคบอลติกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
และภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นความสำเร็จด้านรายได้ที่มากที่สุดของลัตเวียในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาอีกด้วยครับ
ในงานถ่ายภาพถือว่าโดดเด่นครับ แม้ว่าจะยังห่างไกลกับหนังสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่าง 1917 ที่ฉากบู๊อลังการระเบิดกันสนั่นจอ
แต่สำหรับ Blizzard of Souls จะให้เห็นถึงภูมิประเทศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในยามค่ำคืน
ฉากการปะทะที่ซ่อนศัตรูไว้ในม่านหมอก ความมืดและกลุ่มควัน
ซึ่งการที่เราในฐานะผู้ชมมองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัดเจนนัก ยิ่งทำให้เหมือนกับว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายตลอดเวลา
ถือเป็นการใช้เทคนิคนำเสนอให้ฉากสงครามดูสมบูรณ์ได้ ไม่แพ้การใช้ effect มากมายของหนังจากค่ายใหญ่เลยทีเดียว....
แต่ที่ดูเป็นจุดอ่อนก็คือ ตัวหนังไม่ได้ปูพื้นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับ Arturs ให้มากกว่านี้
น่าเสียดายครับ ไม่เช่นนั้นคงเพิ่มความดราม่าขึ้นได้อีกพอสมควร
Blizzard of Souls เป็นอีก 1 หนังสงครามที่จะทำให้เราเข้าใจบริบทของชนชาติยุโรปตะวันออกอย่างลัตเวียมากยิ่งขึ้น
ซึ่งทุกประเทศในยุโรปต่างมีหนังสงครามที่สะท้อนมุมมองความสูญเสียของชาติตนทั้งสิ้นครับ
เพียงแค่เราไม่ค่อยมีโอกาสจะได้รับชมเท่านั้นเอง
และแน่นอนที่สุด..สงครามก่อให้เกิดความสูญเสียไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม ไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง
มีแต่ผู้แพ้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพใต้ฝ่าเท้าเท่านั้น ... นี่คือความจริงที่แสนเศร้าที่สุดครับ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Blizzard of Souls (2019) สงครามในหิมะและม่านหมอก ==
หลังจากเห็นแม่ของเขาถูกยิงโดยกองทหารเยอรมันที่บุกเข้ามา Artūrs วัยสิบหกปีจึงต้องเข้าสู่สนามรบอย่างไม่ได้ตั้งใจ
แม้ว่าเขาจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ และพ่อของเขาซึ่งเป็นอดีตพลแม่นปืนมีอายุเกินเกณฑ์ในกองทัพ
พวกเขาทั้งคู่ก็ถูกเกณฑ์ให้เป็นหนึ่งในกองพันระดับชาติแห่งแรกของลัตเวีย ซึ่งมี Edgars พี่ชายของ Arturs ประจำการอยู่แล้ว
Arturs เข้าสู่แนวรบด้านตะวันออก เข้ารับการฝึกด้วยความปรารถนาที่จะเจริญรอยตามพ่อของเขา
ส่วนพ่อของเขารู้สึกเสียใจที่ลูกชายคนเล็กต้องเข้าสู่สนามรบตั้งแต่ยังเด็ก
ในไม่ช้าความตื่นเต้นของการฝึกฝนก็ตามมาด้วยความเป็นจริง สนามเพลาะรอบตัวเพวกเขาที่จมอยู่ในโคลนตม
เหมือนเป็นสถานที่ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด Arturs เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งในสนามรบ ต่อสู้เคียงข้างพ่อและพี่ชายของเขา..
แต่สงครามไม่มีคำว่าปราณีและไม่เลือกชีวิตว่าจะเป็นใครมาจากไหน ทุกคนมีสิทธิตายได้เท่ากัน
และนั่นก็จึงทำให้ Arturs ต้องสูญเสียพ่อและพี่ชายไป
หลังจากที่ไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิต จากเด็กหนุ่มที่อ่อนโยน Arturs กลายเป็นคนแข็งกร้าว
ความโหดร้ายของสงครามเปลี่ยนตัวตนของเขาไปในที่สุด....
Blizzard of Souls ดัดแปลงจากหนังสือของ Aleksandrs Grins เป็นเรื่องราวนี้อิงจากประสบการณ์การทำสงครามของ Grins
ในฐานะพลทหารแม่นปืนกองพันลัตเวีย เหตุการณ์ในภูมิภาคบอลติกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
และภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นความสำเร็จด้านรายได้ที่มากที่สุดของลัตเวียในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาอีกด้วยครับ
ในงานถ่ายภาพถือว่าโดดเด่นครับ แม้ว่าจะยังห่างไกลกับหนังสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่าง 1917 ที่ฉากบู๊อลังการระเบิดกันสนั่นจอ
แต่สำหรับ Blizzard of Souls จะให้เห็นถึงภูมิประเทศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในยามค่ำคืน
ฉากการปะทะที่ซ่อนศัตรูไว้ในม่านหมอก ความมืดและกลุ่มควัน
ซึ่งการที่เราในฐานะผู้ชมมองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัดเจนนัก ยิ่งทำให้เหมือนกับว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายตลอดเวลา
ถือเป็นการใช้เทคนิคนำเสนอให้ฉากสงครามดูสมบูรณ์ได้ ไม่แพ้การใช้ effect มากมายของหนังจากค่ายใหญ่เลยทีเดียว....
แต่ที่ดูเป็นจุดอ่อนก็คือ ตัวหนังไม่ได้ปูพื้นถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับ Arturs ให้มากกว่านี้
น่าเสียดายครับ ไม่เช่นนั้นคงเพิ่มความดราม่าขึ้นได้อีกพอสมควร
Blizzard of Souls เป็นอีก 1 หนังสงครามที่จะทำให้เราเข้าใจบริบทของชนชาติยุโรปตะวันออกอย่างลัตเวียมากยิ่งขึ้น
ซึ่งทุกประเทศในยุโรปต่างมีหนังสงครามที่สะท้อนมุมมองความสูญเสียของชาติตนทั้งสิ้นครับ
เพียงแค่เราไม่ค่อยมีโอกาสจะได้รับชมเท่านั้นเอง
และแน่นอนที่สุด..สงครามก่อให้เกิดความสูญเสียไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม ไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง
มีแต่ผู้แพ้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพใต้ฝ่าเท้าเท่านั้น ... นี่คือความจริงที่แสนเศร้าที่สุดครับ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===