หอนาฬิกาแห่งแรกในสยาม ( ประเทศไทย): “พระที่นั่งภูวดลทัศไนย” หอนาฬิกาอารยะ แห่ง สยาม
ถูกสร้างขึ้นมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ 4 ทรงให้อารยะประเทศว่าสยาม ทันสมัย ..แทนที่ใช้เครื่อง..นับทุบโมง ตีฆ้อง และกลอง..ในการบอกเวลา.
......น้อยคนนักที่จะรู้ประวัติศาสตร์ของหอนาฬิกา "พระที่นั่งภูวดลทัศไนย" หรือหอที่เห็น...ในภาพนี้ว่าเป็นหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นมาก่อน.. หอนาฬิกาบิ๊กเบน แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ...และเป็นหอที่ทำให้ประเทศไทย..มีเวลามาตรฐานเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเวลามาตรฐาน..ก่อนที่ประเทศตะวันตก..จะกำหนดเส้นลองจิจูด 0° ที่ผ่านหอดูดาวกรีนิช ..กรุงลอนดอน.. สหราชอาณาจักรเป็นจุดแรก...ของการกำเนิดเวลา..อันเป็นมาตรฐานเวลาของสากล..
"…จะเป็นเหตุให้เขาหัวเราะเยาะเย้ยได้ว่าเมืองเรา ใช้เครื่องมือนับทุ่มโมง เวลาหยาบคายนักไม่สมควรเลย เพราะเหตุฉะนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพินิจพิจารณาตรวจตราคำนวณความดำเนินพระอาทิตย์ ..ให้ฤดูทั้งปวงสอบกับนาฬิกา ที่ดีมาหลายปีทรงทราบถ้วนถี่ทุกประการ แจ้งในพระราชหฤทัยแล้ว…"
ปีพ.ศ. 2395 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ก่อสร้างพระราชมณเฑียรที่ประทับขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ณ บริเวณสวนขวา แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2400 พระราชทานนามหมู่พระราชมณเฑียรนั้นว่า "พระอภิเนานิเวศน์" ทรงประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรและขึ้นประทับเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 6 ขึ้น 4 ค่ำ พ.ศ. 2402
"พระอภิเนานิเวศน์" ประกอบด้วยพระที่นั่งต่างๆ หลายองค์ องค์หนึ่งคือ "พระที่นั่งภูวดลทัศไนย" ตั้งอยู่ด้านเหนือของพระที่นั่งอนันตสมาคม (เดิม) ซึ่งเป็นพระที่นั่งตึกสูง 5 ชั้น ชั้นบนสุดติดตั้งนาฬิกาขนาดใหญ่ทั้ง 4 ด้าน.. มีพระราชประสงค์ให้ใช้เป็นหอนาฬิกาหลวง เพื่อทำหน้าที่บอกและรักษาเวลามาตรฐาน เพื่อมิให้สยามถูกเย้ยหยันจากต่างชาติว่ายังใช้การตีกลองบอกเวลาซึ่งมักจะคลาดเคลื่อนอยู่เสมอ ดังปรากฏในประกาศรัชกาลที่ 4 ฉบับที่ 306, พ.ศ. 2411
"พระที่นั่งภูวดลทัศไนย" และ "พระอภิเนานิเวศน์"ทั้งหมดถูกรื้อลงในสมัยรัชกาลที่ 5 ..โดยนายคาร์โล อาเลกรี. วิศวกรโยธาชาวอิตาเลียนที่รับราชการในยุคนั้น ..เข้ามาตรวจสภาพพระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระอภิเนาว์นิเวศน์.
พบว่าพระที่นั่งองค์นี้ชำรุดเสียหายมาก เนื่องจากพื้นที่ในก่อสร้างนั้น ..เดิมเคยเป็นสระน้ำที่นำดินมาถม จึงทำให้อาคารทรุด..เสียหายหนัก..ลงจนต้องรื้อทิ้งอย่างน่าเสียดาย.. จนทำให้รัชกาลที่ 5 จึงมีพระราชกระแสให้รื้อและเก็บเสาและศิลาที่ยังได้ไว้ใช้ในการอื่น.
ความสนใจพระหฤทัยทางดาราศาสตร์ของ..พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว( รัชกาลที่4)
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยดาราศาสตร์เมื่อทรงพระเยาว์ ระหว่างที่ทรงผนวชอยู่ในสมณเพศเป็นเวลา 27 ปี ทรงมีกรณียกิจหลายด้าน ทรงศึกษาภาษามคธ (บาลี) จนสามารถแปลพระปริยัติธรรม..ได้อย่างแม่นยำทรงใช้เวลาศึกษาภาษาละติน และ ภาษาอังกฤษ รวมทั้งศาสตร์แขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปรัชญาไปจนถึง.. เรขาคณิต ตรีโกณมิติ. วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดาราศาสตร์...ที่ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ
หนึ่งในพระปรีชาสามารถที่ทำให้พระองค์ได้รับการยอมรับ...จากอารยะสากล ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง..ได้อย่างแม่นยำ.
.ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 ล่วงหน้า 2 ปี และปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตรงตาม...ที่พระองค์ทรงคำนวณไว้ทุกประการ.. พระอัจฉริยภาพของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ..จนชาวไทยและชาวโลกถวายพระราชสมัญญานามทรงเป็น ....พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
ภาพการเฝ้าดูการเกิดสุริยุปราคา
รวมกับ.คณะฝรั่งต่างชาติ
เครื่องมือดาราศาสตร์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้แก่แผนที่ดวงดาว.. และเครื่องมือวัดมุมดาว หรือ เซกส์แทนต์ ( Sextant )
ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์วัดบวรนิเวศวิหาร...
โต๊ะทรงคำนวณในพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นโต๊ะไม้สัก..ด้านบนของโต๊ะมีบานเปิด. พื้นบนบานเปิดเป็น
กระดานชนวน
ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
และ
เครื่องมือปฏิทินปักษ์ขคณณา ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคิดค้นวิธีคำนวณปักษ์
เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวันธรรมสวนะ ให้ภิกษุสงฆ์ทำสังฆกรรมให้ถูกต้องตามคติของดวงจันทร์..
น่าภูมิใจ ..ที่ไทยเราเรามีพระมหากษัตริย์.นักวิทยาศาสตร์ของไทย
..เล่าสู่กันฟัง..ช่างไก่
ที่มาข้อมูล : นิตยสารศิลปะวัฒนธรรม,พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, และ เพจอ้างอิงฯ
หอนาฬิกาแห่งแรกในสยาม หอนาฬิกา( ประเทศไทย) หอนาฬิกาพระที่นั่งภูวดลทัศไนย .....เล่าสู่กันฟัง..ช่างไก่
ถูกสร้างขึ้นมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ 4 ทรงให้อารยะประเทศว่าสยาม ทันสมัย ..แทนที่ใช้เครื่อง..นับทุบโมง ตีฆ้อง และกลอง..ในการบอกเวลา.
......น้อยคนนักที่จะรู้ประวัติศาสตร์ของหอนาฬิกา "พระที่นั่งภูวดลทัศไนย" หรือหอที่เห็น...ในภาพนี้ว่าเป็นหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นมาก่อน.. หอนาฬิกาบิ๊กเบน แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ...และเป็นหอที่ทำให้ประเทศไทย..มีเวลามาตรฐานเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเวลามาตรฐาน..ก่อนที่ประเทศตะวันตก..จะกำหนดเส้นลองจิจูด 0° ที่ผ่านหอดูดาวกรีนิช ..กรุงลอนดอน.. สหราชอาณาจักรเป็นจุดแรก...ของการกำเนิดเวลา..อันเป็นมาตรฐานเวลาของสากล..
"…จะเป็นเหตุให้เขาหัวเราะเยาะเย้ยได้ว่าเมืองเรา ใช้เครื่องมือนับทุ่มโมง เวลาหยาบคายนักไม่สมควรเลย เพราะเหตุฉะนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพินิจพิจารณาตรวจตราคำนวณความดำเนินพระอาทิตย์ ..ให้ฤดูทั้งปวงสอบกับนาฬิกา ที่ดีมาหลายปีทรงทราบถ้วนถี่ทุกประการ แจ้งในพระราชหฤทัยแล้ว…"
ปีพ.ศ. 2395 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ก่อสร้างพระราชมณเฑียรที่ประทับขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ณ บริเวณสวนขวา แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2400 พระราชทานนามหมู่พระราชมณเฑียรนั้นว่า "พระอภิเนานิเวศน์" ทรงประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรและขึ้นประทับเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 6 ขึ้น 4 ค่ำ พ.ศ. 2402
"พระอภิเนานิเวศน์" ประกอบด้วยพระที่นั่งต่างๆ หลายองค์ องค์หนึ่งคือ "พระที่นั่งภูวดลทัศไนย" ตั้งอยู่ด้านเหนือของพระที่นั่งอนันตสมาคม (เดิม) ซึ่งเป็นพระที่นั่งตึกสูง 5 ชั้น ชั้นบนสุดติดตั้งนาฬิกาขนาดใหญ่ทั้ง 4 ด้าน.. มีพระราชประสงค์ให้ใช้เป็นหอนาฬิกาหลวง เพื่อทำหน้าที่บอกและรักษาเวลามาตรฐาน เพื่อมิให้สยามถูกเย้ยหยันจากต่างชาติว่ายังใช้การตีกลองบอกเวลาซึ่งมักจะคลาดเคลื่อนอยู่เสมอ ดังปรากฏในประกาศรัชกาลที่ 4 ฉบับที่ 306, พ.ศ. 2411
"พระที่นั่งภูวดลทัศไนย" และ "พระอภิเนานิเวศน์"ทั้งหมดถูกรื้อลงในสมัยรัชกาลที่ 5 ..โดยนายคาร์โล อาเลกรี. วิศวกรโยธาชาวอิตาเลียนที่รับราชการในยุคนั้น ..เข้ามาตรวจสภาพพระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระอภิเนาว์นิเวศน์.
พบว่าพระที่นั่งองค์นี้ชำรุดเสียหายมาก เนื่องจากพื้นที่ในก่อสร้างนั้น ..เดิมเคยเป็นสระน้ำที่นำดินมาถม จึงทำให้อาคารทรุด..เสียหายหนัก..ลงจนต้องรื้อทิ้งอย่างน่าเสียดาย.. จนทำให้รัชกาลที่ 5 จึงมีพระราชกระแสให้รื้อและเก็บเสาและศิลาที่ยังได้ไว้ใช้ในการอื่น.
ความสนใจพระหฤทัยทางดาราศาสตร์ของ..พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว( รัชกาลที่4)
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยดาราศาสตร์เมื่อทรงพระเยาว์ ระหว่างที่ทรงผนวชอยู่ในสมณเพศเป็นเวลา 27 ปี ทรงมีกรณียกิจหลายด้าน ทรงศึกษาภาษามคธ (บาลี) จนสามารถแปลพระปริยัติธรรม..ได้อย่างแม่นยำทรงใช้เวลาศึกษาภาษาละติน และ ภาษาอังกฤษ รวมทั้งศาสตร์แขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปรัชญาไปจนถึง.. เรขาคณิต ตรีโกณมิติ. วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดาราศาสตร์...ที่ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ
หนึ่งในพระปรีชาสามารถที่ทำให้พระองค์ได้รับการยอมรับ...จากอารยะสากล ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง..ได้อย่างแม่นยำ.
.ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 ล่วงหน้า 2 ปี และปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตรงตาม...ที่พระองค์ทรงคำนวณไว้ทุกประการ.. พระอัจฉริยภาพของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ..จนชาวไทยและชาวโลกถวายพระราชสมัญญานามทรงเป็น ....พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
ภาพการเฝ้าดูการเกิดสุริยุปราคา
รวมกับ.คณะฝรั่งต่างชาติ
เครื่องมือดาราศาสตร์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้แก่แผนที่ดวงดาว.. และเครื่องมือวัดมุมดาว หรือ เซกส์แทนต์ ( Sextant )
ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์วัดบวรนิเวศวิหาร...
โต๊ะทรงคำนวณในพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นโต๊ะไม้สัก..ด้านบนของโต๊ะมีบานเปิด. พื้นบนบานเปิดเป็น
กระดานชนวน
ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
และ
เครื่องมือปฏิทินปักษ์ขคณณา ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงคิดค้นวิธีคำนวณปักษ์
เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวันธรรมสวนะ ให้ภิกษุสงฆ์ทำสังฆกรรมให้ถูกต้องตามคติของดวงจันทร์..
น่าภูมิใจ ..ที่ไทยเราเรามีพระมหากษัตริย์.นักวิทยาศาสตร์ของไทย
..เล่าสู่กันฟัง..ช่างไก่
ที่มาข้อมูล : นิตยสารศิลปะวัฒนธรรม,พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, และ เพจอ้างอิงฯ