ขอคำแนะนำการแก้ไขปัญหาครอบครัว

กำลังตัดสินใจว่าจะแยกกันอยู่กับพ่อของลูกวัย 4 เดือน  อยากขอคำแนะนำ
หรือช่วยดึงสติแม่คนนี้หน่อยค่ะ ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
เล่าก่อนว่าเราเป็นเด็กมีปม ครอบครัวอยู่กันครบแต่พ่อแม่มีทะเลาะกัน มีใช้ความรุนแรงบ้าง
พ่อเราชอบด่าแม่ด้วยคำหยาบเวลาทะเลาะ ทำลายข้าวของพังเสียหายเวลาทะเลาะ  มีตบตีกันบ้างนานๆครั้ง
ทะเลาะทีไรก็ไล่แม่ออกจากบ้าน แม่เราเลิกๆ หนีๆ แต่สุดท้ายก็กลับมาดีกัน
ตอนเด็กเราตั้งคำถามในใจหลายครั้งว่าทำไมแม่ต้องทน ทำไมแม่ไม่เลิกให้มันจบๆ
เบื่อมากๆ แม่ได้แต่ตอบว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ 
เราจึงตั้งธงในใจว่า เราจะไม่เอาคนแบบพ่อมาเป็นสามี และจะไม่มีครอบครัวแบบนี้
ไม่อยากให้ลูกต้องมารู้สึกแบบเรา
พอเรามีแฟน เราก็บอกแฟนว่าเราไม่ชอบแบบนี้นะ ไม่พูดหยาบ ด่าหยาบ
ไม่ทำลายข้าวของ ก็โอเครับทราบ
ช่วงเป็นแฟนก็มีทะเลาะกันหนักๆแล้วทำลายของบ้าง หลักๆเป็นโทรศัพท์ พัดลม
แต่เค้าก็ขอโทษและรู้สึกผิดทุกครั้ง และก็เราเองก็ให้อภัยทุกครั้ง
เพราะคิดว่าความผิดส่วนนึงก็มาจากเราที่ยั่วโมโหเค้า

คบกันมา 7 ปี ก็แต่งงานกัน ในมุมของแฟนและสามีเค้าทำหน้าที่ดีทุกอย่าง
แต่เราเองก็ยังไม่มั่นใจ กว่าจะจดทะเบียนสมรสก็ปาไปปีที่ 5 หลังจากแต่งงาน 
และยอมปล่อยมีลูกตอนปีที่ 10 หลังจากแต่งงาน (แต่งปี 56 มีลูกปี 66)
ระยะเวลารวม 16 ปี คิดว่าน่าจะยอมรับนิสัยใจคอซึ่งกันและกันได้
แต่เปล่าเลยชีวิตจริงมันเพิ่งเริ่มตอนมีลูกต่างหาก 
ตั้งแต่ท้องจนคลอดเค้าเองเป็นพ่อที่ดีนะ ดูแลดีทุกอย่าง ช่วยเราดูลูกอย่างดี
จนครอบครัวเราต่างชมว่าพ่อช่วยเลี้ยงลูกดีมาก 
ตอนเป็นแฟนทะเลาะกันประปรายแต่ก็ปรับๆกันไป

แต่พอมีลูกไม่รู้เป็นเพราะการอดนอน ฮอร์โมน หรืออะไรก็แล้วแต่ 
เวลาทะเลาะแล้วเราจะนิ่ง ถามไม่อยากตอบ เพราะเราเหนื่อย
เราไม่อยากพูดเพราะเราไม่อยากทะเลาะ เราปล่อยให้เวลาทำงาน ทำให้จิดใจเราสงบเอง
จนเมื่อพร้อมเราจะคุยดีถ้าเค้าคุยดีๆ แบบอยู่ๆก็หายเองก็มี แต่แค่รอเวลา 
แต่กลายเป็นเค้าเข้าหน้าเราไม่ติด ไม่รู้จะเข้าหาเราตอนไหน
เค้าเบื่อที่จะเป็นฝ่ายมาคุยกะเราดีๆก่อน(เค้ามาบอกตอนดีกันแล้ว)
เราเองก็ปรับอยากได้อะไร ให้ทำอะไรก็จะบอก
แต่มันก็มีบางครั้งที่คิดว่า มันต้องบอกทุกครั้งหรอ คิดเองทำเองบ้างได้ไหม 
บอกให้ทำก็ว่าสั่ง ไม่บอกก็ไม่ทำแล้วก็ว่าเราไม่บอก
คือเราต้องคิดให้หนักก่อนพูดทุกครั้งว่าจะต้องใช้คำพูดแบบไหน 

จนเราเริ่มไม่อยากเอ่ยปากให้เค้าทำอะไรให้ เพราะขี้เกียจคิดเยอะ พอทำเองก็เหนื่อย
พอเหนื่อยก็หงุดหงิด บึ้งตึงใส่เค้าหลังๆเวลาทะเลาะ เรานิ่ง ไม่พูด
เค้าจึงเริ่มด่าเราหยาบๆ ให้คำหยาบ ขึ้นกู  เป็นวรนุชอะไรถามไม่ตอบ ให้ของลับ
ทำลายข้าวของทุกครั้ง (ตั้งแต่คลอดลูกมาได้ 4 เดือน เกิดขึ้น 2 ครั้งแล้ว) ในขณะที่อุ้มลูกอยู่ ทำต่อหน้าลูก

ซึ่งปัญหาหลักๆที่ทะเลาะคือ
1.เค้านอนกรนเสียงดังมาก เรานอนไม่ได้ ลูกก็ตื่นบ่อย
ซึ่งข้อนี้เราก็เคยบอกก่อนเป็นแฟนว่าเรานอนไม่ได้ถ้ากรน
แต่ถ้าเราหลับไปแล้วเค้ากรนได้ เราจะไม่ตื่น แต่พอมีลูกเราต้องตื่นบ่อยมาปั๊มนม
ให้ลูกกินนม กลายเป็นว่าเราไม่ได้นอนเลย
เมื่อก่อนเค้าไม่กรนแต่หลังๆอายุ น้ำหนักเริ่มเยอะ ทำให้เค้ากรนดังมาก 
พอเค้ากรนเราปลุกเค้าก็นอนไม่ได้ด้วย 
ก็แก้ปัญหาเค้าไปนอนข้างนอกห้อง(ไม่มีแอร์) เราจะให้เค้าทำอะไรก็ไปปลุก
แต่เราก็ไม่ได้ไปปลุกเลยนะ
หลังๆเอาลูกกินนม เรอ เรารับจบคนเดียว ขี้เกียจอุ้มลูกออกไป

2. ตอนยังไม่ครบ 3 เดือน เราทำงานบ้านเอง ทำงานของลูกเอง
เพราะอยากให้เค้าพักผ่อนเต็มที่
ไม่อยากให้เค้ารู้สึกว่าเค้าไปทำงานแล้วเราเลี้ยงลูกอยู่บ้านเฉยๆ
แล้วเค้ายังต้องกลับมาทำ ซึ่งเราทำได้
พอเรากลับมาทำงานประจำทำให้เราเหนื่อย
หนักอยู่คนเดียวแล้วเราไม่อยากพูดให้เค้าทำอะไรให้
เพราะเวลาบอกไปแล้วเค้าไม่ทำทันที ไม่ทันใจ เค้ารอเวลาจนมันไม่ทันการณ์บ้าง
เช่น บอกให้ซักผ้าแล้วมาล้างขวดนม เค้าทำนะ
แต่เค้าจะเดี๋ยวก่อน จนเรารอไม่ไหวลุกมาทำเอง
เพราะเคยรอแล้วมันช้าจนแดดหมด ฝนตก ผ้าเหม็นอับ ขวดนมเกือบไม่พอ 

3. เมื่อก่อนเค้ารู้สึกตัวไวมาก เราแค่ลุกเค้าก็จะตื่นเค้าจะรู้สึกตัว
เดี๋ยวนี้(หลังมีลูก) ถ้าจะให้ช่วยทำอะไรตอนเค้านอนไปแล้ว
เค้าไม่อิดออดนะ แต่เรียกนานมากกว่าจะตื่น ไปสะกิดก็นานมาก
และแน่นอนเรียกจนลูกตื่นก่อน สะกิดจนแรง
จนบ่อยครั้งทั้งเราและเค้าเริ่มมีอารมณ์ในการเรียกหรือสะกิดกัน 

4. ตั้งแต่ท้องจนคลอดมาเราไม่มีอารมณ์เรื่องอย่างว่าเลย
และเค้าก็เทียวขออยู่ แต่เราเหนื่อย ไม่หวาน
ไม่ให้เวลาเค้าเพราะทุกวินาทีเราทุ่มเทกับลูก
ลูกนอนเราก็อยากแต่จะนอนเพราะอดนอน

นี่คือปัญหาหลักๆในการทะเลาะกัน ดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยใช่ไหมคะ
แต่มันนำพานิสัยที่เรามีปมและปักธงไว้ในใจเรามาตลอด
และตอนนี้เราพยายามคิดว่าเราจะปรับตัวอะไรได้อีกไหม
เราจะแก้ปัญหายังไงเพื่อจะรักษาครอบครัวไว้
หรือเราจะไม่รักษาสถานะครอบครัวไว้ดี มันคิดไม่ออก
จนครั้งนี้ทะเลาะกันอีก เหมือนเดิมและนับเป็นครั้งที่ 3
เราเอ่ยปากขอแยกกันอยู่ เราไม่อยากยอมรับและให้มันเกิดขึ้น
จนกระทั่งลูกโตและอยู่ในสถานะแบบเรา 
เพราะเราคิดว่าความรุนแรงมันมีมากขึ้นเรื่อยๆ
และคงไม่จบแค่ครั้งนี้ ในอนาคตมันอาจจะเกิดขึ้นอีกแน่ๆ

แต่ในมุมของพ่อเค้าช่วยเลี้ยงลูกดีมาก ลูกชายชอบเล่นกับพ่อมาก ลูกหัวเราะ ยิ้ม กับพ่อ 
ส่วนคนเป็นแม่ลูกก็ยิ้ม หัวเราะบ้าง แต่ไม่มากเท่าที่เค้าเล่นกับพ่อ 
จนทำให้เราคิดหนักว่าหากจะเลิกกัน ลูกชายจะไม่ยิ้ม
จะไม่หัวเราะ ไม่มีความสุขเท่าตอนนี้หรือเปล่า 
เสียงหัวเราะลูกเวลาที่อยู่กับพ่อยิ่งทำให้เราคิดหนัก
(ตอนเรื่องของแม่ ลูกไม่ได้ใกล้ชิดกับพ่อแบบนี้นะคะ พ่อเราเห็นแก่ตัวกว่านี้เยอะ)
ตัดเรื่องความพร้อมทางการเงิน เรามีงานประจำทำ
เงินเดือนสามารถเลี้ยงดูลูกได้
ปัจจุบันเอาลูกเข้าเนิร์สตั้งแต่ 3 เดือนและกลับมาทำงาน 
เพราะเราไม่มั่นใจในความสัมพันธ์นี่แหละจึงกอดงานประจำไว้แน่น 
เราควรทำยังไงดี

Edit : การเว้นวรรค
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่