คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 32
ความอ้วนหรือไม่อ้วน มันขึ้นอยู่กับ
1.Intake = การรับเข้า หมายถึงการกิน ถ้ากินพลังงานเข้าไปเยอะ ก็ตั้งต้นเยอะ
2.Absorption = การดูดซึม บางคนกินแล้วดูดซึมไม่ดี ชอบถ่าย กินแล้วถ่าย เหมือนนักกินจุบางคน เค้าก็ block ตรงนี้ทิ้งไปแล้วส่วนหนึ่ง
3.Metabolism = การจัดการกับสารอาหาร ตรงนี้ยีนส์ จะมีผลมาก ทั้งพวกการนำพลังงานเข้าเซลล์ การเผาผลาญระดับเซลล์ บางคนกินแล้วอ้วนง่าย บางคนกินแล้วอ้วนยาก ตรงนี้บุญทำกรรมแต่งจริงๆครับ
4.Energy Expenditure = การใช้พลังงานออกไป
.................
ส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงแต่ 1 กับ 4 คือ กินแล้ว และ ออกกำลังเยอะๆ ทำไมยังอ้วน
ก็เพราะประเมินองค์ประกอบผิดไป ยังเหลือ 2 กับ 3
ที่สำคัญคือ แม้จะชั่งกันระหว่าง 1 กับ 4 มันก็ยากนะที่จะทำให้ 4 มีระดับเดียวกับ 1
เพราะการกินอาหารอร่อย มันง่าย ยัดๆเข้าไปปล่อยให้ย่อย
แต่การออกกำลังกาย คือต้องทำให้กล้ามเนื้อขยับเพื่อดึงพลังงานออกไป ถ้ากล้ามเนื้อไม่ได้ใหญ่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ แปลว่าเราต้องใช้เวลาและกำลังใจการออกกำลังกายอย่างมาก ถึงจะสูสีกับที่กินเข้าไปด้วยความอยาก
....................
คำแนะนำจึงเป็น คุมให้ได้ตั้งแต่ประตูแรก คือ กินแต่พอประมาณ อร่อยบ้างพอเป็นน้ำจิ้ม แต่ไม่เยอะ
ถ้าเราเอาเข้าไม่เยอะ ตั้งแต่ต้น เวลาเผาผลาญมันก็สมดุลกันง่าย ออกกำลังแค่พอรู้สึกว่ากล้ามเนื้อได้บริหารให้สดชื่นหรือหน่วงๆหน่อย
พอเวลาผ่านไปสัก 1-2 เดือน เริ่มชิน ร่างกายก็จะบอกเองว่าอยากกินเพิ่มประมาณไหนครับ
..................
ดังนั้นตอบคำถาม จขกท อ้วนเพราะกรรมพันธ์มีจริงไหม ตอบว่า มีส่วนจริงๆ แต่ละคนมีข้อ 2 และ 3 ไม่เหมือนกัน
ถ้าดูดซึมได้น้อยและเผาผลาญดีด้วย ก็จะอ้วนยากกว่าคนทั่วไปพอสมควร แบบกินข้าวสองจานตอนอายุ 25-30 ก็ยังไม่อ้วน ผิดกับคนทั่วไป ถ้ากิน 2 จานบ่อยๆนี่เริ่มฉุแล้ว ถือว่าเป็นความโชคดีของเจ้าของยีนส์เหมือนกัน เพราะกินได้เยอะอ้วนยาก
แต่ก็ไม่ใช่เป็นปัจจัยเดียว ถ้าเราตั้งใจ control 1 กับ 4 ให้สมดุล ชีวิตก็จะไม่อ้วนได้ครับ
2 กับ 3 คือ พรสวรรค์
1 กับ 4 คือ พรแสวง
1.Intake = การรับเข้า หมายถึงการกิน ถ้ากินพลังงานเข้าไปเยอะ ก็ตั้งต้นเยอะ
2.Absorption = การดูดซึม บางคนกินแล้วดูดซึมไม่ดี ชอบถ่าย กินแล้วถ่าย เหมือนนักกินจุบางคน เค้าก็ block ตรงนี้ทิ้งไปแล้วส่วนหนึ่ง
3.Metabolism = การจัดการกับสารอาหาร ตรงนี้ยีนส์ จะมีผลมาก ทั้งพวกการนำพลังงานเข้าเซลล์ การเผาผลาญระดับเซลล์ บางคนกินแล้วอ้วนง่าย บางคนกินแล้วอ้วนยาก ตรงนี้บุญทำกรรมแต่งจริงๆครับ
4.Energy Expenditure = การใช้พลังงานออกไป
.................
ส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงแต่ 1 กับ 4 คือ กินแล้ว และ ออกกำลังเยอะๆ ทำไมยังอ้วน
ก็เพราะประเมินองค์ประกอบผิดไป ยังเหลือ 2 กับ 3
ที่สำคัญคือ แม้จะชั่งกันระหว่าง 1 กับ 4 มันก็ยากนะที่จะทำให้ 4 มีระดับเดียวกับ 1
เพราะการกินอาหารอร่อย มันง่าย ยัดๆเข้าไปปล่อยให้ย่อย
แต่การออกกำลังกาย คือต้องทำให้กล้ามเนื้อขยับเพื่อดึงพลังงานออกไป ถ้ากล้ามเนื้อไม่ได้ใหญ่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ แปลว่าเราต้องใช้เวลาและกำลังใจการออกกำลังกายอย่างมาก ถึงจะสูสีกับที่กินเข้าไปด้วยความอยาก
....................
คำแนะนำจึงเป็น คุมให้ได้ตั้งแต่ประตูแรก คือ กินแต่พอประมาณ อร่อยบ้างพอเป็นน้ำจิ้ม แต่ไม่เยอะ
ถ้าเราเอาเข้าไม่เยอะ ตั้งแต่ต้น เวลาเผาผลาญมันก็สมดุลกันง่าย ออกกำลังแค่พอรู้สึกว่ากล้ามเนื้อได้บริหารให้สดชื่นหรือหน่วงๆหน่อย
พอเวลาผ่านไปสัก 1-2 เดือน เริ่มชิน ร่างกายก็จะบอกเองว่าอยากกินเพิ่มประมาณไหนครับ
..................
ดังนั้นตอบคำถาม จขกท อ้วนเพราะกรรมพันธ์มีจริงไหม ตอบว่า มีส่วนจริงๆ แต่ละคนมีข้อ 2 และ 3 ไม่เหมือนกัน
ถ้าดูดซึมได้น้อยและเผาผลาญดีด้วย ก็จะอ้วนยากกว่าคนทั่วไปพอสมควร แบบกินข้าวสองจานตอนอายุ 25-30 ก็ยังไม่อ้วน ผิดกับคนทั่วไป ถ้ากิน 2 จานบ่อยๆนี่เริ่มฉุแล้ว ถือว่าเป็นความโชคดีของเจ้าของยีนส์เหมือนกัน เพราะกินได้เยอะอ้วนยาก
แต่ก็ไม่ใช่เป็นปัจจัยเดียว ถ้าเราตั้งใจ control 1 กับ 4 ให้สมดุล ชีวิตก็จะไม่อ้วนได้ครับ
2 กับ 3 คือ พรสวรรค์
1 กับ 4 คือ พรแสวง
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 15
ยีนส์อ้วน (FTO Gene) ส่งผลยังไงต่อความอ้วน จากงานวิจัยที่เขาเปรียบเทียบคนที่มียีนส์อ้วน ทั้งคนที่อ้วนและไม่อ้วน คนที่ไม่มียีนส์อ้วน ทั้งที่อ้วนและไม่อ้วน ผลที่ได้คือ
คนที่มียีนส์อ้วนถ้าโภชนาการดี ออกกำลังกาย ก็ไม่อ้วน คนที่มียีนส์อ้วนโภชนาการแย่ ไม่ค่อยอกกำลังกาย ก็อ้วน
คนที่ไม่มียีนส์อ้วนถ้าโภชนาการดี ออกกำลังกาย ก็ไม่อ้วน คนที่ไม่มียีนส์อ้วนโภชนาการแย่ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ก็อ้วน
ยีนอาจทำให้อ้วนได้ง่ายกว่าคนที่ไม่มียีนดังกล่าว แต่ปัจจัยที่ส่งผลหลักๆคือ Lifestyle ครับ
นอกจากนั้นยังมีงานที่เขานำฝาแฝดมาเปรียบเทียบกันด้วย ว่าส่งผลยังไง ก็สรุปว่ามันขึ้นกับ Lifestyle มากกว่าครับ ลองไปอ่านรายละเอียดต่อได้ครับ ผมเคยพิมพ์ไว้
https://www.fatfighting.net/article-2022-11-11-physical-activity-and-health-findings-from-finnish-monozygotic-twin-pairs-discordant-for-physical-activity/
คนที่มียีนส์อ้วนถ้าโภชนาการดี ออกกำลังกาย ก็ไม่อ้วน คนที่มียีนส์อ้วนโภชนาการแย่ ไม่ค่อยอกกำลังกาย ก็อ้วน
คนที่ไม่มียีนส์อ้วนถ้าโภชนาการดี ออกกำลังกาย ก็ไม่อ้วน คนที่ไม่มียีนส์อ้วนโภชนาการแย่ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ก็อ้วน
ยีนอาจทำให้อ้วนได้ง่ายกว่าคนที่ไม่มียีนดังกล่าว แต่ปัจจัยที่ส่งผลหลักๆคือ Lifestyle ครับ
นอกจากนั้นยังมีงานที่เขานำฝาแฝดมาเปรียบเทียบกันด้วย ว่าส่งผลยังไง ก็สรุปว่ามันขึ้นกับ Lifestyle มากกว่าครับ ลองไปอ่านรายละเอียดต่อได้ครับ ผมเคยพิมพ์ไว้
https://www.fatfighting.net/article-2022-11-11-physical-activity-and-health-findings-from-finnish-monozygotic-twin-pairs-discordant-for-physical-activity/
แสดงความคิดเห็น
สรุป "อ้วนเพราะกรรมพันธุ์" มันมีจริง ๆ หรือเปล่าครับ?
แต่บางคนก็บอกว่าอ้วนเพราะกรรมพันธุ์มันไม่มีจริง เป็นเพราะพฤติกรรมการกินมากกว่า