สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
มุมมองเราจากที่เคยเป็นหัวหน้าทัวร์พาคณะไปดูงานเส้นทาง เกาหลี-ปักกิ่ง ปี 2545 ( 21 ปีที่แล้ว)
- ไปดูงานบริษัทแดวูเครื่องจักรกลการเกษตร บริษัทดีลเลอร์เป็นบริษัทข้ามชาติมีชื่อเสียงออกเงินค่าทริปทั้งหมดให้
- พาพนักงานธนาคาร ธกส., กรุงไทย, ข้าราชการเกษตร พนง.ของดีลเลอร์ที่มาดูแล และเกษตรกร รวม 40 คน
- ผ่านเข้าช่อง ตม. โดนส่งเข้าห้องเย็น 2 คน
ผู้จัดการเขตของธนาคารกรุงไทย 1 คน ประวัติการเดินทางเต็มเล่ม สาเหตุเพราะหน้าไม่เหมือน
เกษตรกร 1 คน ประวัติการเดินทางมีประปราย โดนเพราะหน้าไม่เหมือนเหมือนกัน
เรา(ไกด์)แสดงเอกสารรายชื่อ ตั๋วเครื่องบิน กำหนดการดูงานมีชื่อโรงแรมที่พัก รวมทั้งจดหมายเชิญให้ไปดูงานระบุรายชื่อทุกคน
เราพูดภาษาอังกฤษ- ตม.ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่การที่เราพูดอังกฤษคล่องก็ทำให้ท่าทีของ ตม.อ่อนลงแต่ยังไม่ยอมปล่อย
สุดท้าย ตม.โทรไปหาชื่อผู้ประสานงานในเอกสาร คุยเกาหลีกับบ๊งเบ๊งๆ และปล่อยผ่าน
-ข้อสังเกต
- โปรแกรมเป็นดูงานเกาหลีและบินต่อไปเที่ยวปักกิ่ง มีเอกสารครบ
- ผจก.กรุงไทยหน้าตาภูมิฐาน ขาวตี๋ดูอาเสี่ย อายุ 50 กว่าปี มีนามบัตรแสดงอาชีพการงานเป็นหลักแหล่ง พาสปอร์ตมีวีซ่ายุโรป ซึ่งใครก็ไม่คิดว่าคนนี้จะติด ตม. และให้คนอื่นประเมินก็ไม่เข้าข่ายว่าเป็นคนที่จะไปโดดเพื่อเป็นผีน้อยแน่นอน
- เกษตรกรอีกคนก็ไม่ใช่พาสปอตหน้าขาว มีเที่ยวประปราย หน้าดำหยาบกร้านแบบเกษตรกรไร่อ้อยเข้าใจได้ว่าอาจถูกเพ่งเล็ง
- เราคิด(ในตอนนั้น) ว่าเกิดจาก ตม. ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง พอพูดคุยไม่เข้าใจ สื่อสารไม่ได้ก็โยนเข้าห้องเย็น เพราะถ้าเข้าใจภาษาอังกฤษ อ่านประเมินเอกสารได้ ก็น่าจะเข้าใจว่าเป็น Technical visit Trip ตั้งแต่แรกแล้ว รวมทั้งความ "โลกแคบ" ของ ตม. เกาหลีด้วย มีโปรแกรมฝังหัวว่าถ้าไทยต้องมายากจนต้องมาแอบทำงานแบบเดียว ถ้า จนท.เคยเห็นโลกกว้างมากขึ้น นางจะไม่คิดว่าเกาหลีคือจักรวาลที่มีประเทศอื่นเป็นดาวบริวารหมุนรอบเกาหลี
- ทุกประเทศมีคนจนคนรวย การไหลไปมาของแรงงานเพื่อหาแหล่งงานที่ดีที่สุดเป็นเรื่องปกติ อินโดจีนไหลมาไทยเพื่อค่าแรง 300 บาท ไทยไหลไปเกาหลี ญี่ปุ่น อิสราเอล เพื่อค่าแรง 1000 บาท รวมทั้งปัจจัยของการย้ายถิ่นอื่นๆ ด้วย แม้แต่ในไทยเองก็มีเกาหลีผีน้อยมาแอบแฝงทำงาน (ในวงการทัวร์ไทยมีไกด์ผี ทัวร์เถื่อน ร้านอาหาร ร้านช้อป จากเกาหลีไม่น้อยนะ)
- ที่เคยเจอมา ตม. เกาหลีน่าจะเลวร้ายสุด เพราะความไม่มีกฏเกณฑ์ระเบียบแบบแผน ภาษาที่อ่อนด้อยสื่อสารกับใครไม่เข้าใจ การใช้อคติในการประเมิน และทักษะในการประเมินต่ำต้อย
คำตอบของหัวข้อกระทู้ .. ไม่จำเป็นไม่ไปค่ะประเทศนี้ ไม่ได้อยากเห็นหรือคลั่งไคล้อะไรเป็นพิเศษ มีขึ้นไว้ในใจ 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา กับ เกาหลี ประเทศแรกดีกว่าหน่อยนึงเรื่องระเบียบกฏเกณฑ์ให้ขอวีซ่าก่อนไม่ได้คือไม่ได้ ไม่มี คชจ. อะไรงอกเงย แต่ประเทศหลังคือห่วยมาก ถ้า ตม. ไม่มีความสามารถในการประเมินก็ปิดฟรีวีซ่าไปเลย จะต้องให้เสียเวลาซื้อตั๋ว จองอะไรไป เสียเงินฟรีทำไม
- ไปดูงานบริษัทแดวูเครื่องจักรกลการเกษตร บริษัทดีลเลอร์เป็นบริษัทข้ามชาติมีชื่อเสียงออกเงินค่าทริปทั้งหมดให้
- พาพนักงานธนาคาร ธกส., กรุงไทย, ข้าราชการเกษตร พนง.ของดีลเลอร์ที่มาดูแล และเกษตรกร รวม 40 คน
- ผ่านเข้าช่อง ตม. โดนส่งเข้าห้องเย็น 2 คน
ผู้จัดการเขตของธนาคารกรุงไทย 1 คน ประวัติการเดินทางเต็มเล่ม สาเหตุเพราะหน้าไม่เหมือน
เกษตรกร 1 คน ประวัติการเดินทางมีประปราย โดนเพราะหน้าไม่เหมือนเหมือนกัน
เรา(ไกด์)แสดงเอกสารรายชื่อ ตั๋วเครื่องบิน กำหนดการดูงานมีชื่อโรงแรมที่พัก รวมทั้งจดหมายเชิญให้ไปดูงานระบุรายชื่อทุกคน
เราพูดภาษาอังกฤษ- ตม.ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่การที่เราพูดอังกฤษคล่องก็ทำให้ท่าทีของ ตม.อ่อนลงแต่ยังไม่ยอมปล่อย
สุดท้าย ตม.โทรไปหาชื่อผู้ประสานงานในเอกสาร คุยเกาหลีกับบ๊งเบ๊งๆ และปล่อยผ่าน
-ข้อสังเกต
- โปรแกรมเป็นดูงานเกาหลีและบินต่อไปเที่ยวปักกิ่ง มีเอกสารครบ
- ผจก.กรุงไทยหน้าตาภูมิฐาน ขาวตี๋ดูอาเสี่ย อายุ 50 กว่าปี มีนามบัตรแสดงอาชีพการงานเป็นหลักแหล่ง พาสปอร์ตมีวีซ่ายุโรป ซึ่งใครก็ไม่คิดว่าคนนี้จะติด ตม. และให้คนอื่นประเมินก็ไม่เข้าข่ายว่าเป็นคนที่จะไปโดดเพื่อเป็นผีน้อยแน่นอน
- เกษตรกรอีกคนก็ไม่ใช่พาสปอตหน้าขาว มีเที่ยวประปราย หน้าดำหยาบกร้านแบบเกษตรกรไร่อ้อยเข้าใจได้ว่าอาจถูกเพ่งเล็ง
- เราคิด(ในตอนนั้น) ว่าเกิดจาก ตม. ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง พอพูดคุยไม่เข้าใจ สื่อสารไม่ได้ก็โยนเข้าห้องเย็น เพราะถ้าเข้าใจภาษาอังกฤษ อ่านประเมินเอกสารได้ ก็น่าจะเข้าใจว่าเป็น Technical visit Trip ตั้งแต่แรกแล้ว รวมทั้งความ "โลกแคบ" ของ ตม. เกาหลีด้วย มีโปรแกรมฝังหัวว่าถ้าไทยต้องมายากจนต้องมาแอบทำงานแบบเดียว ถ้า จนท.เคยเห็นโลกกว้างมากขึ้น นางจะไม่คิดว่าเกาหลีคือจักรวาลที่มีประเทศอื่นเป็นดาวบริวารหมุนรอบเกาหลี
- ทุกประเทศมีคนจนคนรวย การไหลไปมาของแรงงานเพื่อหาแหล่งงานที่ดีที่สุดเป็นเรื่องปกติ อินโดจีนไหลมาไทยเพื่อค่าแรง 300 บาท ไทยไหลไปเกาหลี ญี่ปุ่น อิสราเอล เพื่อค่าแรง 1000 บาท รวมทั้งปัจจัยของการย้ายถิ่นอื่นๆ ด้วย แม้แต่ในไทยเองก็มีเกาหลีผีน้อยมาแอบแฝงทำงาน (ในวงการทัวร์ไทยมีไกด์ผี ทัวร์เถื่อน ร้านอาหาร ร้านช้อป จากเกาหลีไม่น้อยนะ)
- ที่เคยเจอมา ตม. เกาหลีน่าจะเลวร้ายสุด เพราะความไม่มีกฏเกณฑ์ระเบียบแบบแผน ภาษาที่อ่อนด้อยสื่อสารกับใครไม่เข้าใจ การใช้อคติในการประเมิน และทักษะในการประเมินต่ำต้อย
คำตอบของหัวข้อกระทู้ .. ไม่จำเป็นไม่ไปค่ะประเทศนี้ ไม่ได้อยากเห็นหรือคลั่งไคล้อะไรเป็นพิเศษ มีขึ้นไว้ในใจ 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา กับ เกาหลี ประเทศแรกดีกว่าหน่อยนึงเรื่องระเบียบกฏเกณฑ์ให้ขอวีซ่าก่อนไม่ได้คือไม่ได้ ไม่มี คชจ. อะไรงอกเงย แต่ประเทศหลังคือห่วยมาก ถ้า ตม. ไม่มีความสามารถในการประเมินก็ปิดฟรีวีซ่าไปเลย จะต้องให้เสียเวลาซื้อตั๋ว จองอะไรไป เสียเงินฟรีทำไม
แสดงความคิดเห็น
🇰🇷 ถ้าวันหนึ่งคุณ ติด ตม. เกาหลี และถูกส่งกลับ คุณจะโทษใคร ระหว่าง …..
2) โทษผีน้อย เป็นแสนๆ ที่หนีไปทำงานผิด กม + ไปมีเรื่อง ขายยา ขายตัว เป็นอาชญากร และอื่นๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุหลัก ของสถานการณ์ในปัจจุบัน และทำให้คนไม่รู้เรื่องโดนลูกหลง ติด ตม โดนส่งกลับ
3) โทษตัวเอง
3.1 โทษตัวเองที่เตรียมข้อมูลไม่ดี สื่อสารไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปไหนบ้าง ตายไมค์ ไปแบบไม่เตรียมตัว ทั้งๆที่รู้ว่าตอนนี้ ตม เกาหลีเค้าเข้มงวด
3.2 โทษตัวเอง ที่ไปหลุดโป๊ะโพสลงโซเชียล ว่าจะรวยกลับมา ว่าจะไปทำงาน แล้ว ตม ดันไปสืบเจอ
3.3 โทษตัวเอง ที่ไปเหวี่ยง ตม กลับ เพราะเจอ ตม ดุ เลยกวนเค้ากลับ เพราะเข้าใจไปเองว่าเขาเหยียดคนไทย ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นแบบนี้กับทุกชาติ
3.4 โทษตัวเอง เพราะมีประวัติ ใช้ฟรีวีซ่า มากกว่าจุดประสงค์แค่ไปเที่ยวมาก่อนหน้า
3.5 โทษตัวเอง เพราะตั้งใจจะแอบโดดในทริปนี้ แต่พอโดนส่งกลับเลยทำโพสด่า โพสแบนเกาหลี บิดสตอรี่แบบเนียนๆ
4) ไม่ต้องโทษใคร ยอมรับจำนนต่อฟ้าดิน 😂
อยากทราบความคิดเห็นครับ แต่คิดว่าคงมีแต่คนโทษ ตม แหละ เกาหลีผิดทุกอย่าง