เริ่มจากเมื่อปลายปี พ.ศ.2565 เรากับแฟนได้ทำการซื้อรถกับบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ รอบจ่ายของงวดรถเราจะเป็นวันที่ 2 ของทุกเดือน ต้นปี พ.ศ.2566 เราก็ผ่อนตรงปกติ แต่พอเดือนเมษาบริษัทที่เราทำงานอยู่มีปัญหาแล้วปิดตัวลง ทำให้เราตกงาน ส่วนแฟนระบบแอพที่แฟนวิ่งไรเดอร์อยู่ก็ปรับใหม่ทำให้แฟนเรามีรายได้ลดลงทำให้เกิดการชำระล่าช้าช่วงเดือนเมษายน 66 เดือนเมษายนเราไม่ได้จ่าย พอเข้าเดือน พฤษภาคมวันที่ 31 เราจ่ายของเดือนเมษายนแต่เราไม่ได้จ่ายค่าติดตามแต่เราจ่ายค่าปรับล่าช้าเขาอย่างเดียว งวดรถเดือนพฤษภาคมกับเดือนมิถุนายนเราไม่ได้จ่ายเพราะเรากับแฟนยังไม่ได้งานประจำทำ เราพึ่งมาได้ทำงานประจำตอนกลางเดือนมิถุนายนแต่มันไม่พอ เพราะทางไฟแนนซ์ให้เราจ่ายเป็นก้อนเพื่อโป๊ะ เดือนพฤษภาคม เดือนมิถุนายนและกำลังจะก้าวไปเดือนกรกฎาคม ยอดหมื่นกว่ารวมค่าติดตามของเขาแล้ว ซึ่งเราปรึกษากับแฟนปรึกษากับทางบ้านแล้วว่าเราควรเอารถไปคืนไฟแนนซ์ เรารู้ดีว่าการเอารถไปคืนมันไม่ได้จบ เพราะมันจะมีการฟ้องส่วนต่าง แต่มันก็สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ดีกว่ายื้อรถไว้
เราเอารถไปคืนไฟแนนซ์วันที่ 6 เดือนกรกฎาคม ตอนบ่าย 2 เราได้ให้แฟนถ่ายรูปตอนไปคืนรถที่ร้านที่เราไปออกรถกันมา หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเรื่องก็เงียบไปไม่มีคนโทรตามอะไรมาอีกแล้ว
แต่เมื่อ 12 สิงหาคมทางบ้านแจ้งเราว่ามีจดหมายแจ้งส่วนต่างมาที่บ้านแต่ในจดหมายพิมพ์วันที่ 16 กรกฎาคม แต่มาถึงบ้านวันที่ 12 สิงหา เราก็รู้จำนวนส่วนต่างมาคือ 40,000 กว่าบาท เราก็รอทางไฟแนนซ์เขาฟ้องเพื่อที่จะรอไปไกล่เกลี่ยที่ศาล เราไม่ได้จะบิดหรืออะไร
แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสิทุกคน เมื่อวันศุกร์ที่ 15 เดือน กันยายน มีคนที่อ้างว่าเป็นอัยการของศาลโทรมาหาพี่ชายเรา ให้เราโทรกลับหาเบอร์นี้ เราพยายามติดต่อเขาหลายรอบมากแต่ติดต่อไม่ได้ แต่พอเช้าวันที่ 18 คนที่อ้างว่าเป็นอัยการติดต่อเรามาบอกเราว่าศาลพิจารณาคดีไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 15 แต่เราไม่ไปติดต่อไม่ได้ เขาเลยจะให้เราจ่ายเป็นก้อนเพื่อล้มคดี เราตกใจมากเพราะไม่มีหมายศาลอะไรมาที่บ้านเลยแล้วเป็นไปไม่ได้ว่าเราให้ที่อยู่ผิดเพราะจดหมายแจ้งส่วนต่างยังมาถูกเลยทุกคน เราเลยบอกกับเขาว่าขอปรึกษากับครอบครัวก่อนพอวางสายเราเลยโทรไปเช็คที่ศาลเขตที่เราไปออกรถถ้ามีการพิจารณาคดีไปแล้วชื่อเราจะขึ้นแต่ไม่มีชื่อเราเลย เราเลยคิดว่าเป็นพวกมิจฉาชีพหรือไม่ก็ไฟแนนซ์ให้มาทวงกับเรา พอเราโทรกลับไปหาบริษัท เราถามว่าพิจารณาคดีศาลของเขตไหนเขาก็ไม่ยอมตอบเรามาเหวี่ยงใส่เราว่าไม่ใช่หน้าที่ ที่เขาต้องบอก เรื่องในส่วนวันนี้ก็จบไป
แล้ววันที่ 10 ตุลาคมได้มีคนโทรมาหาแฟนเรา ช่วงบ่ายเราเลยโทรกลับไป เขาอ้างว่าเป็นทนายของบริษัทไฟแนนซ์ วันที่ 10 ตุลาคมตรงกับวันจันทร์ แล้วก็เหมือนรอบที่แล้วเลยทุกคนเขาบอกว่าพิจารณาคดีไปเมื่อวันศุกร์ แล้วก็เหมือนเดิมเขาให้เราจ่ายเป็นก้อนเพื่อล้มคดีแต่ลดให้เราเหลือแค่ 15,000 บาท ถ้าไม่จ่ายเขาบอกเราว่าจะยึดบ้าน แต่บ้านไม่ใช่ชื่อเรา เราไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย เราเลยถามเขาว่าจะขึ้นศาลกันแล้วทำไมไม่มีหมายศาลมาบ้านเลย เขาให้คำตอบเราว่าเรายังไม่บรรลุนิติภาวะ เราก็งงมีแบบนี้ด้วยหรอ เราก็บอกเหมือนเดิมว่าขอปรึกษากับครอบครัวก่อน เราเลยโทรไปหา
ทนายอาสาของรัฐ เล่ารายละเอียดให้เขาฟัง เขาบอกเป็นไปไม่ได้ที่หมายศาลมันจะออกไม่ได้ ที่เขาให้เราออกรถได้ก็เพราะเราบรรลุนิติภาวะแล้ว
แล้ววันที่ 25 ตุลาคม ก็มีเบอร์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจตรีอะไรสักอย่างโทรหาพี่ชายเราว่าจะเข้ามายึดบ้านที่ไม่ใช่ทรัพย์สินของเรา หลอกสอบถามข้อมูลเราจากพี่ชายเรา
เราแค่อยากรู้ว่ามีคนโดนเหมือนเราบ้างไหม เราจะแก้ปัญหายังไงดี ทำไมไม่มีหมายศาลมาสักที เราขก.เสียสุขภาพจิตที่หาเรื่องโทรมาขู่ เอาเรื่องแม่เรามาขู่ว่าจะยึดบ้านแม่เราถ้าเราไม่จ่าย เราแค่อยากรู้เลยว่าทำไมไม่ส่งหมายศาลมาดีๆนะได้ไกล่เกลี่ยให้มันจบๆเราก็ไม่ได้อยากจะบิด
ปล.ทุกสายเรามีการบันทึกเสียงไว้ เพราะโทรศัพท์บันทึกเสียงให้อัตโนมัติ
บริษัทไฟแนนซ์ให้คนมาทวงหนี้อ้างว่าพิจารณาคดีไปแล้วแต่ไม่มีหมายศาลมาที่บ้านต้องทำยังไง?
เราเอารถไปคืนไฟแนนซ์วันที่ 6 เดือนกรกฎาคม ตอนบ่าย 2 เราได้ให้แฟนถ่ายรูปตอนไปคืนรถที่ร้านที่เราไปออกรถกันมา หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเรื่องก็เงียบไปไม่มีคนโทรตามอะไรมาอีกแล้ว
แต่เมื่อ 12 สิงหาคมทางบ้านแจ้งเราว่ามีจดหมายแจ้งส่วนต่างมาที่บ้านแต่ในจดหมายพิมพ์วันที่ 16 กรกฎาคม แต่มาถึงบ้านวันที่ 12 สิงหา เราก็รู้จำนวนส่วนต่างมาคือ 40,000 กว่าบาท เราก็รอทางไฟแนนซ์เขาฟ้องเพื่อที่จะรอไปไกล่เกลี่ยที่ศาล เราไม่ได้จะบิดหรืออะไร
แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสิทุกคน เมื่อวันศุกร์ที่ 15 เดือน กันยายน มีคนที่อ้างว่าเป็นอัยการของศาลโทรมาหาพี่ชายเรา ให้เราโทรกลับหาเบอร์นี้ เราพยายามติดต่อเขาหลายรอบมากแต่ติดต่อไม่ได้ แต่พอเช้าวันที่ 18 คนที่อ้างว่าเป็นอัยการติดต่อเรามาบอกเราว่าศาลพิจารณาคดีไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 15 แต่เราไม่ไปติดต่อไม่ได้ เขาเลยจะให้เราจ่ายเป็นก้อนเพื่อล้มคดี เราตกใจมากเพราะไม่มีหมายศาลอะไรมาที่บ้านเลยแล้วเป็นไปไม่ได้ว่าเราให้ที่อยู่ผิดเพราะจดหมายแจ้งส่วนต่างยังมาถูกเลยทุกคน เราเลยบอกกับเขาว่าขอปรึกษากับครอบครัวก่อนพอวางสายเราเลยโทรไปเช็คที่ศาลเขตที่เราไปออกรถถ้ามีการพิจารณาคดีไปแล้วชื่อเราจะขึ้นแต่ไม่มีชื่อเราเลย เราเลยคิดว่าเป็นพวกมิจฉาชีพหรือไม่ก็ไฟแนนซ์ให้มาทวงกับเรา พอเราโทรกลับไปหาบริษัท เราถามว่าพิจารณาคดีศาลของเขตไหนเขาก็ไม่ยอมตอบเรามาเหวี่ยงใส่เราว่าไม่ใช่หน้าที่ ที่เขาต้องบอก เรื่องในส่วนวันนี้ก็จบไป
แล้ววันที่ 10 ตุลาคมได้มีคนโทรมาหาแฟนเรา ช่วงบ่ายเราเลยโทรกลับไป เขาอ้างว่าเป็นทนายของบริษัทไฟแนนซ์ วันที่ 10 ตุลาคมตรงกับวันจันทร์ แล้วก็เหมือนรอบที่แล้วเลยทุกคนเขาบอกว่าพิจารณาคดีไปเมื่อวันศุกร์ แล้วก็เหมือนเดิมเขาให้เราจ่ายเป็นก้อนเพื่อล้มคดีแต่ลดให้เราเหลือแค่ 15,000 บาท ถ้าไม่จ่ายเขาบอกเราว่าจะยึดบ้าน แต่บ้านไม่ใช่ชื่อเรา เราไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย เราเลยถามเขาว่าจะขึ้นศาลกันแล้วทำไมไม่มีหมายศาลมาบ้านเลย เขาให้คำตอบเราว่าเรายังไม่บรรลุนิติภาวะ เราก็งงมีแบบนี้ด้วยหรอ เราก็บอกเหมือนเดิมว่าขอปรึกษากับครอบครัวก่อน เราเลยโทรไปหา
ทนายอาสาของรัฐ เล่ารายละเอียดให้เขาฟัง เขาบอกเป็นไปไม่ได้ที่หมายศาลมันจะออกไม่ได้ ที่เขาให้เราออกรถได้ก็เพราะเราบรรลุนิติภาวะแล้ว
แล้ววันที่ 25 ตุลาคม ก็มีเบอร์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจตรีอะไรสักอย่างโทรหาพี่ชายเราว่าจะเข้ามายึดบ้านที่ไม่ใช่ทรัพย์สินของเรา หลอกสอบถามข้อมูลเราจากพี่ชายเรา
เราแค่อยากรู้ว่ามีคนโดนเหมือนเราบ้างไหม เราจะแก้ปัญหายังไงดี ทำไมไม่มีหมายศาลมาสักที เราขก.เสียสุขภาพจิตที่หาเรื่องโทรมาขู่ เอาเรื่องแม่เรามาขู่ว่าจะยึดบ้านแม่เราถ้าเราไม่จ่าย เราแค่อยากรู้เลยว่าทำไมไม่ส่งหมายศาลมาดีๆนะได้ไกล่เกลี่ยให้มันจบๆเราก็ไม่ได้อยากจะบิด
ปล.ทุกสายเรามีการบันทึกเสียงไว้ เพราะโทรศัพท์บันทึกเสียงให้อัตโนมัติ