เกริ่นก่อนว่าคู่เราเป็น LGBTQ และเรากับแฟนอายุห่างกันพอสมควร
เนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัวของแฟน แฟนเราไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ แม้แต่กับครอบครัว จะมีเพียงเพื่อนสนิทของเค้าแค่ 1-2 คนเท่านั้นที่ทราบ
เรากับแฟนคบกันมาจะเข้าปีที่ 4 แล้ว ระหว่างทางก็มีหลายเหตุการณ์ที่ส่อแววว่าจะต้องเลิกกัน เพราะเหตุผลนานาประการ แต่ที่สุดแล้ว พวกเราก็ผ่านมันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ณ ตอนนี้ต้องบอกว่า ผ่านอะไรกันมาเยอะ จริง ๆ แล้วต่างคนต่างก็รู้สึกว่าเติมเต็มซึ่งกันและกัน แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของความรู้สึก มันก็มีบ้างที่จะไม่ลงรอย ก็คงเหมือนลิ้นกับฟัน
เข้าเรื่องเลยละกัน
สำหรับกระทู้นี้ ใจความหลักอยู่ที่ เพื่อนร่วมงานของแฟน ขอให้นามสมมุติว่าคุณ "เค" ก็แล้วกัน คุณเคเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกับแฟนเรา และเป็นคนที่คอยสนับสนุนแฟนเราในที่ทำงานอยู่หลายครั้ง เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนนึง ด้วยความที่สนิทกัน แฟนเรากับคุณเคจึงมักไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ อ้อ ลืมบอกว่า เค้าทำงานด้วยกันมานานกว่าระยะเวลาที่เราคบกับแฟน ก็คงไม่แปลกที่แฟนเราและคุณเคจะสนิทกันมาก
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า ตั้งแต่เราตกลงคบกับแฟน แฟนก็มักจะเล่าถึงคุณเคให้ฟังบ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องงานบ้าง เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวบ้าง
แต่สิ่งหนึ่งก็คือ เพื่อนที่ทำงานคนอื่น ๆ มักจะแซวคุณเคกับแฟนเราบ่อยมากเหมือนกัน ทำนองว่าสองคนนี้มีอะไรในกอไผ่
และเมื่อไม่นานมานี้ (หลังจากที่แฟนคบกับเราแล้ว) คุณเคเพิ่งจะสารภาพกับแฟนว่า ตัวคุณเคเองมีแฟนแล้วและเป็นคู่รัก LGBTQ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนเราบอกว่า เค้าไม่เคยทราบมาก่อนและไม่เคยรู้สึกถึงความพิเศษในเวลาที่ไปไหนมาไหนกับคุณเค เหมือนแฟนเราต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ
แต่ก็นะ ไม่รู้ว่าแฟนเราซื่อหรือเซ่อ คนรอบข้างกว่า 90% มักจะแซวคุณเคกับแฟนเราเสมอ เหมือนว่าคุณเคนั้นเอ็นดูและให้ความสำคัญกับแฟนเราเป็นพิเศษ จนเพื่อนร่วมงานตั้งให้สองคนนี้เป็น "คู่จิ้น" กัน -..-
ตัวเราก็เข้าใจเรื่องนี้นะ เพียงแต่ว่า บางทีเราก็อดรู้สึกไม่ได้ ว่า สองคนนี้มีอะไรที่มากเกินไปหรือเปล่า คือเราก็ไม่ได้จ้องจับผิดแฟนตัวเอง แต่มันก็รู้สึกไม่สบายใจน่ะ
ก่อนหน้าที่จะคบกับเรา แฟนเราไปเที่ยวที่บ้านคุณเคบ่อย ๆ ไปกิน ไปเที่ยว สังสรรค์กันเป็นปกติ แต่พอคบกับเราแล้ว พวกเค้าก็เพลา ๆ ลงบ้าง
และล่าสุด ไม่นานนี้ แฟนเราอาสาขับรถไปส่งคุณเคดูงานที่ต่างจังหวัด ที่จริงแล้ว ที่ทำงานเค้าก็มีบริการรถไปส่งยังจังหวัดที่ดูงานนะ หรือไม่ก็ให้เบิกค่าใช้จ่ายเดินทางได้ แต่เราไม่ทราบด้วยเหตุผลกลใด แฟนเราจึงต้องขับรถไปส่งคุณเคถึงที่แบบนี้
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราเคยคุยเรื่องคุณเคหลายครั้งแล้ว แฟนเราก็พอทราบว่าเราไม่ค่อยพอใจที่แฟนมักจะสนิทกับคุณเคเป็นพิเศษ ตอนที่เราไปเที่ยวหาแฟน มีสายคุณเคโทรเข้ามาบ่อย ๆ แฟนเราก็มักจะเลี่ยงไม่รับสายคุณเคนะ อ้างว่าเดี๋ยวคุณเคคุยนานไม่ได้ทำงาน แต่เอาจริง พอลับหลังเรา เค้าก็คุยกันบ่อย เหมือนว่า ถ้าไม่มีเราขวาง ก็คงคุยกันได้สะดวก
เรื่องที่แฟนอาสาพาคุณเคไปต่างจังหวัดนั้น เราก็แอบน้อยใจบ้างนะ เพราะแฟนเราแทบไม่เคยไปไหนไกล ๆ กับเราเลยสักครั้ง ไม่มีความพิเศษใด ๆ มักจะอ้างเสมอว่างานยุ่ง มีภารกิจส่วนตัวทางบ้าน ไม่สามารถไปไหนมาไหนกับเราได้ เหตุผลต่าง ๆ นานา
มาถึงจุดนี้ เราไม่อยากเปิดประเด็นคุยกับแฟนเราเรื่องนี้แล้วล่ะ
เราเลือกที่จะเงียบ เพราะพูดไปทีไร สุดท้ายกลายเป็นเราไม่เข้าใจเค้า เค้าก็มักพูดตลอดว่า นั่นเรื่องงาน ทำไงได้ นั่นเรื่องครอบครัว ทำไงได้
และการเงียบนี้ มันอาจจะกลายเป็นจุดจบของความสัมพันธ์ เราไม่ได้อยากสูญเสียความสัมพันธ์นี้ แต่เราก็ไม่อยากเสียความสบายใจของตัวเองอีกแล้วเหมือนกัน
ทุกคนมีความเห็นยังไงกันบ้าง รบกวนช่วยแชร์หน่อย เราอยากหาเพื่อนคุย แต่เราเพื่อนน้อย และความสัมพันธ์ของเรากับแฟนก็ถูกปิดเป็นความลับตามที่แฟนเราขอ เราจึงไม่มีใครให้ปรึกษา อัดอั้น เลยมาขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอความเห็นทุกคนกันหน่อยนะ
แฟนสนิทกับเพื่อนร่วมงานที่แอบชอบมาก ควรทำไง?
เนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัวของแฟน แฟนเราไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ แม้แต่กับครอบครัว จะมีเพียงเพื่อนสนิทของเค้าแค่ 1-2 คนเท่านั้นที่ทราบ
เรากับแฟนคบกันมาจะเข้าปีที่ 4 แล้ว ระหว่างทางก็มีหลายเหตุการณ์ที่ส่อแววว่าจะต้องเลิกกัน เพราะเหตุผลนานาประการ แต่ที่สุดแล้ว พวกเราก็ผ่านมันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ณ ตอนนี้ต้องบอกว่า ผ่านอะไรกันมาเยอะ จริง ๆ แล้วต่างคนต่างก็รู้สึกว่าเติมเต็มซึ่งกันและกัน แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของความรู้สึก มันก็มีบ้างที่จะไม่ลงรอย ก็คงเหมือนลิ้นกับฟัน
เข้าเรื่องเลยละกัน
สำหรับกระทู้นี้ ใจความหลักอยู่ที่ เพื่อนร่วมงานของแฟน ขอให้นามสมมุติว่าคุณ "เค" ก็แล้วกัน คุณเคเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกับแฟนเรา และเป็นคนที่คอยสนับสนุนแฟนเราในที่ทำงานอยู่หลายครั้ง เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนนึง ด้วยความที่สนิทกัน แฟนเรากับคุณเคจึงมักไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ อ้อ ลืมบอกว่า เค้าทำงานด้วยกันมานานกว่าระยะเวลาที่เราคบกับแฟน ก็คงไม่แปลกที่แฟนเราและคุณเคจะสนิทกันมาก
แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า ตั้งแต่เราตกลงคบกับแฟน แฟนก็มักจะเล่าถึงคุณเคให้ฟังบ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องงานบ้าง เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวบ้าง
แต่สิ่งหนึ่งก็คือ เพื่อนที่ทำงานคนอื่น ๆ มักจะแซวคุณเคกับแฟนเราบ่อยมากเหมือนกัน ทำนองว่าสองคนนี้มีอะไรในกอไผ่
และเมื่อไม่นานมานี้ (หลังจากที่แฟนคบกับเราแล้ว) คุณเคเพิ่งจะสารภาพกับแฟนว่า ตัวคุณเคเองมีแฟนแล้วและเป็นคู่รัก LGBTQ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนเราบอกว่า เค้าไม่เคยทราบมาก่อนและไม่เคยรู้สึกถึงความพิเศษในเวลาที่ไปไหนมาไหนกับคุณเค เหมือนแฟนเราต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ
แต่ก็นะ ไม่รู้ว่าแฟนเราซื่อหรือเซ่อ คนรอบข้างกว่า 90% มักจะแซวคุณเคกับแฟนเราเสมอ เหมือนว่าคุณเคนั้นเอ็นดูและให้ความสำคัญกับแฟนเราเป็นพิเศษ จนเพื่อนร่วมงานตั้งให้สองคนนี้เป็น "คู่จิ้น" กัน -..-
ตัวเราก็เข้าใจเรื่องนี้นะ เพียงแต่ว่า บางทีเราก็อดรู้สึกไม่ได้ ว่า สองคนนี้มีอะไรที่มากเกินไปหรือเปล่า คือเราก็ไม่ได้จ้องจับผิดแฟนตัวเอง แต่มันก็รู้สึกไม่สบายใจน่ะ
ก่อนหน้าที่จะคบกับเรา แฟนเราไปเที่ยวที่บ้านคุณเคบ่อย ๆ ไปกิน ไปเที่ยว สังสรรค์กันเป็นปกติ แต่พอคบกับเราแล้ว พวกเค้าก็เพลา ๆ ลงบ้าง
และล่าสุด ไม่นานนี้ แฟนเราอาสาขับรถไปส่งคุณเคดูงานที่ต่างจังหวัด ที่จริงแล้ว ที่ทำงานเค้าก็มีบริการรถไปส่งยังจังหวัดที่ดูงานนะ หรือไม่ก็ให้เบิกค่าใช้จ่ายเดินทางได้ แต่เราไม่ทราบด้วยเหตุผลกลใด แฟนเราจึงต้องขับรถไปส่งคุณเคถึงที่แบบนี้
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เราเคยคุยเรื่องคุณเคหลายครั้งแล้ว แฟนเราก็พอทราบว่าเราไม่ค่อยพอใจที่แฟนมักจะสนิทกับคุณเคเป็นพิเศษ ตอนที่เราไปเที่ยวหาแฟน มีสายคุณเคโทรเข้ามาบ่อย ๆ แฟนเราก็มักจะเลี่ยงไม่รับสายคุณเคนะ อ้างว่าเดี๋ยวคุณเคคุยนานไม่ได้ทำงาน แต่เอาจริง พอลับหลังเรา เค้าก็คุยกันบ่อย เหมือนว่า ถ้าไม่มีเราขวาง ก็คงคุยกันได้สะดวก
เรื่องที่แฟนอาสาพาคุณเคไปต่างจังหวัดนั้น เราก็แอบน้อยใจบ้างนะ เพราะแฟนเราแทบไม่เคยไปไหนไกล ๆ กับเราเลยสักครั้ง ไม่มีความพิเศษใด ๆ มักจะอ้างเสมอว่างานยุ่ง มีภารกิจส่วนตัวทางบ้าน ไม่สามารถไปไหนมาไหนกับเราได้ เหตุผลต่าง ๆ นานา
มาถึงจุดนี้ เราไม่อยากเปิดประเด็นคุยกับแฟนเราเรื่องนี้แล้วล่ะ
เราเลือกที่จะเงียบ เพราะพูดไปทีไร สุดท้ายกลายเป็นเราไม่เข้าใจเค้า เค้าก็มักพูดตลอดว่า นั่นเรื่องงาน ทำไงได้ นั่นเรื่องครอบครัว ทำไงได้
และการเงียบนี้ มันอาจจะกลายเป็นจุดจบของความสัมพันธ์ เราไม่ได้อยากสูญเสียความสัมพันธ์นี้ แต่เราก็ไม่อยากเสียความสบายใจของตัวเองอีกแล้วเหมือนกัน
ทุกคนมีความเห็นยังไงกันบ้าง รบกวนช่วยแชร์หน่อย เราอยากหาเพื่อนคุย แต่เราเพื่อนน้อย และความสัมพันธ์ของเรากับแฟนก็ถูกปิดเป็นความลับตามที่แฟนเราขอ เราจึงไม่มีใครให้ปรึกษา อัดอั้น เลยมาขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอความเห็นทุกคนกันหน่อยนะ