คือ แฟนเก่าเราเขาเป็นPTSDค่ะ เราขอบอกก่อนนะคะว่าเราไม่ได้เป็นคนบอกเลิกเขา และเรายังคงคุยกับเขาอยู่ เราเข้าใจว่าอาการของPTSDเป็นยังไงเราเลยพยายามที่จะอยู่ข้างๆเขาให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เราทำได้คือโทรค่ะเพราะเขาอยู่ต่างประเทศ
ทั้งที่เลิกกันไปแล้วแต่เรายังเป็นทุกอย่างให้กับเขา พยายามทำให้เขามีความสุข เวลาเขาที่เขานอนไม่หลับก็จะรับสายของเขาและนอนไปด้วยกัน เราพยายามทำทุกอย่างให้เขาสบายใจและไม่คิดมาก
เรารู้จุดยืนของตัวเอง เราพยายามไม่ทำเกินคำว่าเพื่อนถึงแม้เราจะอยากบอกรักเขามากแค่ไหนก็ตาม เราพยายามทำให้เขารู้สึกสบายใจเวลาคุยกับเราและพยายามทำให้เขาไม่นึกถึงแต่เรื่องแย่ๆ
แต่มาวันนี้เขาไปดื่มกับเพื่อนกับครอบครัวมาและเขาเมามันเลยทำให้สมองของเขามันคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ ใช่ค่ะโรคPTSDกำเริบ เราพยายามสงบสติอารมณ์เขาลงแล้วค่ะ ตอนนีเขากำลังพักผ่อน
เราใจว่าการที่PTSDมันกำเริบเป็นยังไงเพราะเราเคยเสียเพื่อนไปจากโรคPTSDค่ะเราเลยศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้มาโดยตลอดแต่เราไม่รู้ว่ามันจะกำเริบอีกมั้ยเพราะเราก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆเขา เรากลัวเราแพนิคมากๆเลยค่ะ
แต่ดีที่เขายังมีสติอยู่นิดๆเขาเลยส่งข้อความมาว่าเหมือนโรคจะกำเริบ เราคือหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหูอื้อ มือเท้าเย็นไปหมดสิ่งที่ทำได้ในตอนนั้นคือโทร ต้องโทรเท่านั้น และตอนโทรก็ใช่ว่าจิตใจจะอยู่กับเนื้อกับตัวนะคะกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ก็ใช้เวลาพอสมควร
เราเกือบเสียเขาไปแล้วค่ะ ถ้าเราไม่โทรไปห้ามก่อน
เราเลยอยากบอกกับคนที่มีแฟนหรือคนรอบตัวเป็นโรคเกี่ยวกับทางจิต อยู่ข้างๆพวกเขาไว้และเข้าใจเขาด้วยนะคะ บางทีเขาไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นแต่เพราะสิ่งรอบตัวของเขาทำให้เขาเป็นแบบนี้
ทั้งนี้เขาไปหาหมอตามปกตินะคะ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิดถ้าคุณอยากไปพบจิตแพทย์
แฟนเก่าเป็นPTSD
ทั้งที่เลิกกันไปแล้วแต่เรายังเป็นทุกอย่างให้กับเขา พยายามทำให้เขามีความสุข เวลาเขาที่เขานอนไม่หลับก็จะรับสายของเขาและนอนไปด้วยกัน เราพยายามทำทุกอย่างให้เขาสบายใจและไม่คิดมาก
เรารู้จุดยืนของตัวเอง เราพยายามไม่ทำเกินคำว่าเพื่อนถึงแม้เราจะอยากบอกรักเขามากแค่ไหนก็ตาม เราพยายามทำให้เขารู้สึกสบายใจเวลาคุยกับเราและพยายามทำให้เขาไม่นึกถึงแต่เรื่องแย่ๆ
แต่มาวันนี้เขาไปดื่มกับเพื่อนกับครอบครัวมาและเขาเมามันเลยทำให้สมองของเขามันคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ ใช่ค่ะโรคPTSDกำเริบ เราพยายามสงบสติอารมณ์เขาลงแล้วค่ะ ตอนนีเขากำลังพักผ่อน
เราใจว่าการที่PTSDมันกำเริบเป็นยังไงเพราะเราเคยเสียเพื่อนไปจากโรคPTSDค่ะเราเลยศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้มาโดยตลอดแต่เราไม่รู้ว่ามันจะกำเริบอีกมั้ยเพราะเราก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆเขา เรากลัวเราแพนิคมากๆเลยค่ะ
แต่ดีที่เขายังมีสติอยู่นิดๆเขาเลยส่งข้อความมาว่าเหมือนโรคจะกำเริบ เราคือหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหูอื้อ มือเท้าเย็นไปหมดสิ่งที่ทำได้ในตอนนั้นคือโทร ต้องโทรเท่านั้น และตอนโทรก็ใช่ว่าจิตใจจะอยู่กับเนื้อกับตัวนะคะกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ก็ใช้เวลาพอสมควร
เราเกือบเสียเขาไปแล้วค่ะ ถ้าเราไม่โทรไปห้ามก่อน
เราเลยอยากบอกกับคนที่มีแฟนหรือคนรอบตัวเป็นโรคเกี่ยวกับทางจิต อยู่ข้างๆพวกเขาไว้และเข้าใจเขาด้วยนะคะ บางทีเขาไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นแต่เพราะสิ่งรอบตัวของเขาทำให้เขาเป็นแบบนี้
ทั้งนี้เขาไปหาหมอตามปกตินะคะ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยสักนิดถ้าคุณอยากไปพบจิตแพทย์