ต้องบอกก่อนว่ารถเราเป็นรถเก่าเกือบ 20 ปีแล้วค่ะ เวลามีปัญหาก็ซ่อมตามอาการ แต่อาการล่าสุดคือเวลาเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบคันเร่ง รถจะมีการสั่นทุกครั้ง เวลาถอยหลังก็สั่น เลี้ยวโค้งหรือขึ้นเนินคือสั่นตลอดซึ่งบางทีเหยียบเบรคแล้วรถไม่หยุดก็มีตอนขึ้นเนินค่อนข้างอันตรายมาก แต่จะหยุดเมื่อขับไปเรื่อยๆ เราไปหาช่างซ่อมรถมาแต่ก็ไม่มีใครซ่อมหายเลยเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา
อู่ที่ 1 บอกเป็นที่หัวเทียน ให้เปลี่ยนทั้งหมด 4 ตัวแต่ก็ไม่หาย ช่างเลยวินิจฉัยใหม่ว่าน่าจะเป็นที่ยางแท่นเครื่องเปลี่ยนมา 1 ตัวไม่หายอีก เค้าบอกว่าที่ไม่หายต้องเปลี่ยนให้ครบทุกตัว เราก็เริ่มรู้สึกว่าแล้วถ้าเปลี่ยนครบทุกตัวแล้วไม่หายอีกล่ะ ไปๆมาๆบอกเป็นที่แอร์เพราะก่อนหน้านี้เราเพิ่งเปลี่ยนสายแอร์ที่รั่วไป เราก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วแต่ก็ขับไปหาร้านแอร์นะ ร้านแอร์ก็บอกว่าไม่ใช่ที่แอร์เป็นที่เกียร์ถ้าจะให้เค้าถอดแอร์มาเช็คดูได้แต่มีค่าใช้จ่ายหลายพันนะ เราก็เครียดอีกถ้าเอามาเช็คแล้วไม่หายเราก็ต้องเสียเงินฟรี วันนั้นเราเลยโทรหาอู่ที่เราซ่อมกับร้านแอร์ให้คุยกันสรุปเค้าทะเลาะกันเราเลยไม่ไปอู่ที่ 1 กับร้านแอร์อีกเลยไม่รู้จะเชื่อใคร อู่นี้หมดไป 3,000 กว่า ส่วนเปลี่ยนท่อสายแอร์ที่รั่ว+เติมน้ำยาแอร์รวม 2,100 (ตอนนั้นที่ทำเพราะแอรืไม่เย็นไม่เกี่ยวกับรถสั่น)
อู่ที่ 2 บอกว่าให้ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ เปลี่ยนพัดลมแอร์ แล้วตอนนั้นกระจกฝั่งคนขับมีปัญหาด้วยเลยเปลี่ยนมอเตอร์กระจกหมดไป หมดไป 3,600 กว่าบาทสรุปล้างลิ้นปีผีเสื้อก็ไม่หาย...
อู่ที่ 3 บอกว่าน่าจะเป็นที่ยางแท่นเครื่อง เราก็เลยให้เค้าเช็คราคามาว่าเท่าไหร่จนเค้าลืมไม่ได้เช็คให้ซักที แต่ทำอย่างอื่นให้แทน
- เปลี่ยนปีกนกล่างซ้าย-ขวา
- ลูกหมากแร็คใน 2 ตัว
- ลูกหมากแร็คนอก 2ตัว
- เปลี่ยนช็ค
- เปลี่ยนCentral lock ฝั่งคนนั่ง อู่นี้หมดไปรวม 8,530 บาท
แต่รถยังกระตุกเหมือนเดิมนะคะ อยากให้ซ่อมอันที่มันสั่นแต่ช่างซ่อมอันอื่นให้555เราทนขับรถสภาพสั่นแบบนี้มาเกือบปี จนวันนึงไฟน้ำมันเครื่องกระพริบแล้วก็หายไป นึกว่าตัวเองตาฝาดเห็นแบบนี้มาทั้งหมด 3 รอบจนมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดแล้ว เลยไปหาอู่ที่ 3 ดูอาการให้สรุปน้ำมันเครื่องหมดไม่เหลือติดก้านเลย ทั้งๆที่ยังไม่ครบ 10,000 โลด้วยซ้ำยังดีที่เครื่องไม่น็อค ตรงนี้เราพลาดเองที่ไม่ได้เช็คน้ำมันเครื่องเลย มัวแต่เช็คหม้อน้ำ เพราะเคยหม้อน้ำรั่วมา 2 ครั้ง
เราก็เลยถามว่าเช็คราคายางแท่นเครื่องให้รึยังคะ หนูอยากให้รถมันหายซักที เค้าแลยบอกว่าลองจูนเกียร์ดูไหมเพราะก่อนหน้านี้เคยมี 2 คัน เครื่องสั่นเหมือนกันแต่พอจูนเกียร์ก็หาย เราเลยตัดสินใจทำเลยทิ้งรถไว้ที่อู่ 1 วัน ช่างไลน์มานึกว่าจะได้ฟังข่าวดีสรุปจูนแล้วก็ไม่หาย คือเราเครียดมากหมดปัญญาแล้ว ช่างก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยจะเอารถมาคืน แต่เค้าก็ถามมาว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ล่าสุดเมื่อไหร่ เราก็บอกว่าหนูจำไม่ได้จริงๆค่ะว่าเปลี่ยนเมื่อไหร่ เคยถ่ายแต่น้ำมันเครื่องเพราะไม่ค่อยเห็นช่างถามว่าจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วยไหมนานๆทีถึงจะถาม บวกกับการที่เราไม่รู้ว่าต้องเปลี่ยนตอนไหนมันไม่มีอะไรเตือนและคิดว่าไม่สำคัญ ช่างเลยบอกว่าจะลองถ่ายน้ำมันเกียร์ดูไหม เราก็ไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พี่เปลี่ยนเลยค่ะแล้วก็ทำตัวล็อคประตูที่มันล็อคไม่ได้อีกฝั่งนึงให้หนูด้วยค่ะครั้งที่แล้วพี่ลืมทำ สรุปว่าน้ำมันเกียร์ถ่ายออกมาดำมากมีกลิ่นคลัทช์ไหม้ แต่รถเราหายสั่นดีใจมากสรุปเป็นที่ไม่ได้ถ่ายน้ำมันเกียร์ ช่างบอกว่าดีเกียร์ไม่พังเกือบได้เปลี่ยนเกียร์อีกเป็นหมื่น รวมค่าเสียหายถ่ายน้ำมันเครื่อง+น้ำมันเกียร์เปลี่ยน Central lock รวม 5,000 บาท
ถ้าใครได้เอ่านหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆและอย่ามองข้ามเรื่องถ่ายน้ำมันเกียร์นะคะ ช่างแนะนำมาว่าต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งที่ 3 ที่เรามาถ่ายน้ำมันเครื่องค่ะ
แชร์ประสบการณ์รถเกือบพัง เพราะไม่ได้ถ่ายน้ำมันเกียร์
อู่ที่ 1 บอกเป็นที่หัวเทียน ให้เปลี่ยนทั้งหมด 4 ตัวแต่ก็ไม่หาย ช่างเลยวินิจฉัยใหม่ว่าน่าจะเป็นที่ยางแท่นเครื่องเปลี่ยนมา 1 ตัวไม่หายอีก เค้าบอกว่าที่ไม่หายต้องเปลี่ยนให้ครบทุกตัว เราก็เริ่มรู้สึกว่าแล้วถ้าเปลี่ยนครบทุกตัวแล้วไม่หายอีกล่ะ ไปๆมาๆบอกเป็นที่แอร์เพราะก่อนหน้านี้เราเพิ่งเปลี่ยนสายแอร์ที่รั่วไป เราก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วแต่ก็ขับไปหาร้านแอร์นะ ร้านแอร์ก็บอกว่าไม่ใช่ที่แอร์เป็นที่เกียร์ถ้าจะให้เค้าถอดแอร์มาเช็คดูได้แต่มีค่าใช้จ่ายหลายพันนะ เราก็เครียดอีกถ้าเอามาเช็คแล้วไม่หายเราก็ต้องเสียเงินฟรี วันนั้นเราเลยโทรหาอู่ที่เราซ่อมกับร้านแอร์ให้คุยกันสรุปเค้าทะเลาะกันเราเลยไม่ไปอู่ที่ 1 กับร้านแอร์อีกเลยไม่รู้จะเชื่อใคร อู่นี้หมดไป 3,000 กว่า ส่วนเปลี่ยนท่อสายแอร์ที่รั่ว+เติมน้ำยาแอร์รวม 2,100 (ตอนนั้นที่ทำเพราะแอรืไม่เย็นไม่เกี่ยวกับรถสั่น)
อู่ที่ 2 บอกว่าให้ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ เปลี่ยนพัดลมแอร์ แล้วตอนนั้นกระจกฝั่งคนขับมีปัญหาด้วยเลยเปลี่ยนมอเตอร์กระจกหมดไป หมดไป 3,600 กว่าบาทสรุปล้างลิ้นปีผีเสื้อก็ไม่หาย...
อู่ที่ 3 บอกว่าน่าจะเป็นที่ยางแท่นเครื่อง เราก็เลยให้เค้าเช็คราคามาว่าเท่าไหร่จนเค้าลืมไม่ได้เช็คให้ซักที แต่ทำอย่างอื่นให้แทน
- เปลี่ยนปีกนกล่างซ้าย-ขวา
- ลูกหมากแร็คใน 2 ตัว
- ลูกหมากแร็คนอก 2ตัว
- เปลี่ยนช็ค
- เปลี่ยนCentral lock ฝั่งคนนั่ง อู่นี้หมดไปรวม 8,530 บาท
แต่รถยังกระตุกเหมือนเดิมนะคะ อยากให้ซ่อมอันที่มันสั่นแต่ช่างซ่อมอันอื่นให้555เราทนขับรถสภาพสั่นแบบนี้มาเกือบปี จนวันนึงไฟน้ำมันเครื่องกระพริบแล้วก็หายไป นึกว่าตัวเองตาฝาดเห็นแบบนี้มาทั้งหมด 3 รอบจนมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดแล้ว เลยไปหาอู่ที่ 3 ดูอาการให้สรุปน้ำมันเครื่องหมดไม่เหลือติดก้านเลย ทั้งๆที่ยังไม่ครบ 10,000 โลด้วยซ้ำยังดีที่เครื่องไม่น็อค ตรงนี้เราพลาดเองที่ไม่ได้เช็คน้ำมันเครื่องเลย มัวแต่เช็คหม้อน้ำ เพราะเคยหม้อน้ำรั่วมา 2 ครั้ง
เราก็เลยถามว่าเช็คราคายางแท่นเครื่องให้รึยังคะ หนูอยากให้รถมันหายซักที เค้าแลยบอกว่าลองจูนเกียร์ดูไหมเพราะก่อนหน้านี้เคยมี 2 คัน เครื่องสั่นเหมือนกันแต่พอจูนเกียร์ก็หาย เราเลยตัดสินใจทำเลยทิ้งรถไว้ที่อู่ 1 วัน ช่างไลน์มานึกว่าจะได้ฟังข่าวดีสรุปจูนแล้วก็ไม่หาย คือเราเครียดมากหมดปัญญาแล้ว ช่างก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยจะเอารถมาคืน แต่เค้าก็ถามมาว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ล่าสุดเมื่อไหร่ เราก็บอกว่าหนูจำไม่ได้จริงๆค่ะว่าเปลี่ยนเมื่อไหร่ เคยถ่ายแต่น้ำมันเครื่องเพราะไม่ค่อยเห็นช่างถามว่าจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วยไหมนานๆทีถึงจะถาม บวกกับการที่เราไม่รู้ว่าต้องเปลี่ยนตอนไหนมันไม่มีอะไรเตือนและคิดว่าไม่สำคัญ ช่างเลยบอกว่าจะลองถ่ายน้ำมันเกียร์ดูไหม เราก็ไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พี่เปลี่ยนเลยค่ะแล้วก็ทำตัวล็อคประตูที่มันล็อคไม่ได้อีกฝั่งนึงให้หนูด้วยค่ะครั้งที่แล้วพี่ลืมทำ สรุปว่าน้ำมันเกียร์ถ่ายออกมาดำมากมีกลิ่นคลัทช์ไหม้ แต่รถเราหายสั่นดีใจมากสรุปเป็นที่ไม่ได้ถ่ายน้ำมันเกียร์ ช่างบอกว่าดีเกียร์ไม่พังเกือบได้เปลี่ยนเกียร์อีกเป็นหมื่น รวมค่าเสียหายถ่ายน้ำมันเครื่อง+น้ำมันเกียร์เปลี่ยน Central lock รวม 5,000 บาท
ถ้าใครได้เอ่านหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆและอย่ามองข้ามเรื่องถ่ายน้ำมันเกียร์นะคะ ช่างแนะนำมาว่าต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งที่ 3 ที่เรามาถ่ายน้ำมันเครื่องค่ะ