ผมเข้าใจว่ามี 3 แบบที่ผมคิดขึ้นมาเองคือ
1 โบราณสถานที่ถูกสร้างบนผิวดินปกติ แต่เวลาผ่านไปหลักพันปี ลมพัดฝุ่นดินหรือทรายค่อย ๆ กลบจนเป็นภูเขาและเป็นป่าในที่สุด อย่างอุทยานศรีเทพก็คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ คำถามคือ ที่ฝุ่นหรือดินกลบมิดขนาดนี้เป็นเพราะตัวโบราณสถานตั้งสูงกว่าพื้นดินจึงมีโอกาสดักจับฝุ่นหินดินทรายมากกว่าที่ราบเรียบถูกไหม
2 โบราณสถานที่อยู่ใต้น้ำในปัจจุบันโดยเฉพาะแม่น้ำขนาดใหญ่หรือในทะเลนี้ แสดงว่าแต่ก่อนบริเวณดังกล่าวน้ำยังท่วมไม่ถึงถูกไหม หรือเส้นทางแม่น้ำเปลี่ยนเกิดการกัดเซาะ ต่อมาน้ำท่วมลึกกว่าเดิมจมมิดหายไปเป็นพัน ๆ ปี มนุษย์ถึงจะค้นพบถูกไหม ไม่รวมกรณีสร้างเขื่อนท่วมนะครับ
3 ซากอารยธรรมจีนโบราณบางแห่งก็ถูกคนพบบนภูเขาแบบตั้งใจเอาไปฝังบนเขา บางแห่งก็ขุดเจอใต้ดินราบเรียบทั่วไปหรือใต้ทะเลทรายที่ลึกลงไป แสดงว่าสมัยก่อนบริเวณดังกล่าวอาจจะเป็นดินปกติที่ไม่ได้หนาเท่าปัจจุบัน อาจเกิดจากน้ำท่วม พายุทะเลทรายพัดไปมาจนกลบสูงขึ้นไปมาก แบบนี้ถูกไหม
สอบถามเรื่องโบราณสถานที่ถูกดินกลบไว้
1 โบราณสถานที่ถูกสร้างบนผิวดินปกติ แต่เวลาผ่านไปหลักพันปี ลมพัดฝุ่นดินหรือทรายค่อย ๆ กลบจนเป็นภูเขาและเป็นป่าในที่สุด อย่างอุทยานศรีเทพก็คิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ คำถามคือ ที่ฝุ่นหรือดินกลบมิดขนาดนี้เป็นเพราะตัวโบราณสถานตั้งสูงกว่าพื้นดินจึงมีโอกาสดักจับฝุ่นหินดินทรายมากกว่าที่ราบเรียบถูกไหม
2 โบราณสถานที่อยู่ใต้น้ำในปัจจุบันโดยเฉพาะแม่น้ำขนาดใหญ่หรือในทะเลนี้ แสดงว่าแต่ก่อนบริเวณดังกล่าวน้ำยังท่วมไม่ถึงถูกไหม หรือเส้นทางแม่น้ำเปลี่ยนเกิดการกัดเซาะ ต่อมาน้ำท่วมลึกกว่าเดิมจมมิดหายไปเป็นพัน ๆ ปี มนุษย์ถึงจะค้นพบถูกไหม ไม่รวมกรณีสร้างเขื่อนท่วมนะครับ
3 ซากอารยธรรมจีนโบราณบางแห่งก็ถูกคนพบบนภูเขาแบบตั้งใจเอาไปฝังบนเขา บางแห่งก็ขุดเจอใต้ดินราบเรียบทั่วไปหรือใต้ทะเลทรายที่ลึกลงไป แสดงว่าสมัยก่อนบริเวณดังกล่าวอาจจะเป็นดินปกติที่ไม่ได้หนาเท่าปัจจุบัน อาจเกิดจากน้ำท่วม พายุทะเลทรายพัดไปมาจนกลบสูงขึ้นไปมาก แบบนี้ถูกไหม