A Haunting in Venice ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส
เรื่องย่อ
A Haunting in Venice
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนขนหัวลุก "ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส" เล่าถึงปริศนาอันน่าขนลุกที่มี แอร์กูล ปัวโรต์ นักสืบที่เกษียณตัวเองแล้ว เข้ามาเกี่ยวข้อง เขาใช้ชีวิตช่วงเกษียณอยู่ในเมืองที่หรูหราที่สุด จนกระทั่งเขาต้องไปเข้าร่วมพิธีกรรมติดต่อวิญญาณที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่สุดหลอนแห่งหนึ่งโดยไม่เต็มใจ และเมื่อแขกคนหนึ่งถูกฆาตกรรม นักสืบวัยเกษียณจึงถูกผลักเข้าไปในโลกอันดำมืดที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย
ความรู้สึกก่อนดู เห็นเรื่องนี้ทีแรก คิดว่าเป็นหนังผี ไม่คิดว่าเป็นภาคต่อหนังฆาตรกรรมบนรถไฟ และลุ่มแม่น้ำไนล์เลย เพราะจากโปสเตอร์ และตัวอย่าง ก็ดูเป็นหนังผีเลย แต่พอลองมาหาข้อมูลดู ก็รู้ว่าเป็นหนังของปัวโรต์นี่เอง ถึงแม้ภาคที่แล้ว จะดูดรอปลง และยืดๆ ทั้งที่ดาราดังเยอะ และสถานที่ ภาพ คืออลังมาก แต่ด้วยความที่ชอบหนังแนวนี้ สุดท้าย ก็ต้องดูอยู่ดี
ความรู้สึกหลังดูจบ
บอกเลยว่า สนุก เดินเรื่องเร็ว กระชับ ไม่ยืดเหมือนภาค2 เป็นภาคที่เดาตัวคนร้ายไม่ถูกเลย ชอบมากกว่าภาคที่แล้ว แต่น้อยกว่าภาคแรก
1 > 3 > 2 ตามลำดับ
บท เนื้อเรื่อง การเล่าเรื่อง คือดี ดูเพลิน ทำให้เราจดจ่อ และคิดตามปัวโรต์กับหนัง อย่างไม่หลุดโฟกัส เพื่อที่จะสังเกตุ และหาตัวคนร้าย ไปกับคุณยอดนักสืบ
บรรยากาศหนังมีความเป็นหนังผี มีJump scare ตุ้งแช่ และผสมผสานกับแนวสืบสวนสอบสวนของหนังได้อย่างลงตัว และใส่เรื่องความเชื่อกับความไม่เชื่อของแต่ละตัวละคร ไม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะเข้ากัน และมันดี
ชอบมุมกล้อง ที่ถ่ายให้เห็นมุมกว้าง การกระทำของแต่ละตัวละคร ให้เราได้สังเกตุ และคิดตาม ว่าสุดท้ายแล้ว ใครคือฆาตรกรตัวจริง
งานภาพ โทนสี แสง มุม คือชอบนะ สวยดี เข้ากับตรีมหนังภาคนี้ ถ่ายทอดนครเวนิสออกมาได้อย่างงดงาม
ถึงแม้ว่าจะไม่มีฉากอลังๆ เนื่องด้วยอาจจะทุนน้อยกว่าภาคก่อนๆ แต่ก็ถือว่า งานสร้างอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก
เหมือนภาคนี้งบจะน้อยกว่าภาคก่อนๆ แถวภาคที่แล้ว ก็รายได้น้อยมาก ถ้าเทียบกับภาคแรก
ภาค3 ไตรภาค ก็ยังรักษามาตรฐานงานสร้างได้ดี โดยที่ทุนไม่เยอะ การการทำแบบมุมกว้าง และเน้นมุมสูง การรู้จากใช้มุมกล้อง ทำให้ฉากในหนังมันดูใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ทั้งที่เป็นที่เดิมๆ แคบๆ แต่พอใช้เทคนิคนี้ ทำให้ดูแล้วรู้สึกอีกแบบ เหมือนดูหนังสเกลใหญ่ๆเลย เพียงเพราะเทคนิคการถ่ายภาพ ทำให้มุมมองที่ถ่ายทอดออกมา เปลี่ยนไปเยอะ และดูมีมิติ และทำให้ดูหนังสนุกขึ้น คหสต.นะ ไม่รู้ใครคิดเหมือนเรามั้ย ถือว่าฉลาดมาก ที่ถ่ายทำแบบนี้ กับหนังที่มีสถานที่จำกัดแบบนี้
นักแสดงก็แน่นอน ระดับตัวท็อปๆ เช่นเคย เหมือนทุกภาค และทุกคนเล่นดีมาก ชอบ มิเชล โหย่ว เล่นดีมาก เข้าถึงอารมณ์ เหมือนเป็นคนทรงจริงๆ
โดยรวมคือถือว่า ดีเกินคาดนะภาคนี้ ทีแรกคิดว่าจะดรอปลงเรื่อยๆ แต่กลับชอบภาคนี้เฉย สำหรับที่ชอบหนังแนวนักสืบ สอบสวน สอบสวน ไขคดีฆาตรกรรม หาตัวคนร้าย แนวนี้เหมือนเรา แนะนำเลย
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
ส่วนตัวคิดว่า ไม่ชอบดนตรีประกอบ ตอนบรรเลงตอนแรก ก็เข้ากับเวนิสดีนะ อันนี้ดี และฉากตุ้งแช่ ก็ทำได้ดี เสียงเข้ากับฉาก และได้อารมณ์ แต่ฉากอื่นๆ มันจะมีบรรเลงเพลงคลอๆมาตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเราว่ามันขัดกับอารมณ์หนัง และเสียงไม่เข้ากับฟีลหนังเท่าไหร่ ถ้าบางฉากไม่บรรเลงเลย หรือเปลี่ยนเป็นเสียงอื่น จะเข้ากับหนังกว่ามั้ย แต่เสียงนี้ ที่บรรเลงเรื่อยๆ บ่อยๆสุดในหนัง ฟังแล้วมันไม่ค่อยเข้ากับหนังเลย
สำหรับคะแนนความชอบ เอาไปเลย 8.5/10 คะแนน สนุกเกินคาด
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง สามารถมาแชร์กันได้ รออ่านอยู่นะ
A Haunting in Venice ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส (8.5/10) l สนุก..เป็นภาคที่เดาตัวคนร้ายไม่ถูกเลย (สปอยล์)
เรื่องย่อ
A Haunting in Venice
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนขนหัวลุก "ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส" เล่าถึงปริศนาอันน่าขนลุกที่มี แอร์กูล ปัวโรต์ นักสืบที่เกษียณตัวเองแล้ว เข้ามาเกี่ยวข้อง เขาใช้ชีวิตช่วงเกษียณอยู่ในเมืองที่หรูหราที่สุด จนกระทั่งเขาต้องไปเข้าร่วมพิธีกรรมติดต่อวิญญาณที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่สุดหลอนแห่งหนึ่งโดยไม่เต็มใจ และเมื่อแขกคนหนึ่งถูกฆาตกรรม นักสืบวัยเกษียณจึงถูกผลักเข้าไปในโลกอันดำมืดที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย
ความรู้สึกก่อนดู เห็นเรื่องนี้ทีแรก คิดว่าเป็นหนังผี ไม่คิดว่าเป็นภาคต่อหนังฆาตรกรรมบนรถไฟ และลุ่มแม่น้ำไนล์เลย เพราะจากโปสเตอร์ และตัวอย่าง ก็ดูเป็นหนังผีเลย แต่พอลองมาหาข้อมูลดู ก็รู้ว่าเป็นหนังของปัวโรต์นี่เอง ถึงแม้ภาคที่แล้ว จะดูดรอปลง และยืดๆ ทั้งที่ดาราดังเยอะ และสถานที่ ภาพ คืออลังมาก แต่ด้วยความที่ชอบหนังแนวนี้ สุดท้าย ก็ต้องดูอยู่ดี
ความรู้สึกหลังดูจบ
บอกเลยว่า สนุก เดินเรื่องเร็ว กระชับ ไม่ยืดเหมือนภาค2 เป็นภาคที่เดาตัวคนร้ายไม่ถูกเลย ชอบมากกว่าภาคที่แล้ว แต่น้อยกว่าภาคแรก
1 > 3 > 2 ตามลำดับ
บท เนื้อเรื่อง การเล่าเรื่อง คือดี ดูเพลิน ทำให้เราจดจ่อ และคิดตามปัวโรต์กับหนัง อย่างไม่หลุดโฟกัส เพื่อที่จะสังเกตุ และหาตัวคนร้าย ไปกับคุณยอดนักสืบ
บรรยากาศหนังมีความเป็นหนังผี มีJump scare ตุ้งแช่ และผสมผสานกับแนวสืบสวนสอบสวนของหนังได้อย่างลงตัว และใส่เรื่องความเชื่อกับความไม่เชื่อของแต่ละตัวละคร ไม่เชื่อว่าทุกอย่างมันจะเข้ากัน และมันดี
ชอบมุมกล้อง ที่ถ่ายให้เห็นมุมกว้าง การกระทำของแต่ละตัวละคร ให้เราได้สังเกตุ และคิดตาม ว่าสุดท้ายแล้ว ใครคือฆาตรกรตัวจริง
งานภาพ โทนสี แสง มุม คือชอบนะ สวยดี เข้ากับตรีมหนังภาคนี้ ถ่ายทอดนครเวนิสออกมาได้อย่างงดงาม
ถึงแม้ว่าจะไม่มีฉากอลังๆ เนื่องด้วยอาจจะทุนน้อยกว่าภาคก่อนๆ แต่ก็ถือว่า งานสร้างอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก
เหมือนภาคนี้งบจะน้อยกว่าภาคก่อนๆ แถวภาคที่แล้ว ก็รายได้น้อยมาก ถ้าเทียบกับภาคแรก
ภาค3 ไตรภาค ก็ยังรักษามาตรฐานงานสร้างได้ดี โดยที่ทุนไม่เยอะ การการทำแบบมุมกว้าง และเน้นมุมสูง การรู้จากใช้มุมกล้อง ทำให้ฉากในหนังมันดูใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ทั้งที่เป็นที่เดิมๆ แคบๆ แต่พอใช้เทคนิคนี้ ทำให้ดูแล้วรู้สึกอีกแบบ เหมือนดูหนังสเกลใหญ่ๆเลย เพียงเพราะเทคนิคการถ่ายภาพ ทำให้มุมมองที่ถ่ายทอดออกมา เปลี่ยนไปเยอะ และดูมีมิติ และทำให้ดูหนังสนุกขึ้น คหสต.นะ ไม่รู้ใครคิดเหมือนเรามั้ย ถือว่าฉลาดมาก ที่ถ่ายทำแบบนี้ กับหนังที่มีสถานที่จำกัดแบบนี้
นักแสดงก็แน่นอน ระดับตัวท็อปๆ เช่นเคย เหมือนทุกภาค และทุกคนเล่นดีมาก ชอบ มิเชล โหย่ว เล่นดีมาก เข้าถึงอารมณ์ เหมือนเป็นคนทรงจริงๆ
โดยรวมคือถือว่า ดีเกินคาดนะภาคนี้ ทีแรกคิดว่าจะดรอปลงเรื่อยๆ แต่กลับชอบภาคนี้เฉย สำหรับที่ชอบหนังแนวนักสืบ สอบสวน สอบสวน ไขคดีฆาตรกรรม หาตัวคนร้าย แนวนี้เหมือนเรา แนะนำเลย
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
ส่วนตัวคิดว่า ไม่ชอบดนตรีประกอบ ตอนบรรเลงตอนแรก ก็เข้ากับเวนิสดีนะ อันนี้ดี และฉากตุ้งแช่ ก็ทำได้ดี เสียงเข้ากับฉาก และได้อารมณ์ แต่ฉากอื่นๆ มันจะมีบรรเลงเพลงคลอๆมาตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเราว่ามันขัดกับอารมณ์หนัง และเสียงไม่เข้ากับฟีลหนังเท่าไหร่ ถ้าบางฉากไม่บรรเลงเลย หรือเปลี่ยนเป็นเสียงอื่น จะเข้ากับหนังกว่ามั้ย แต่เสียงนี้ ที่บรรเลงเรื่อยๆ บ่อยๆสุดในหนัง ฟังแล้วมันไม่ค่อยเข้ากับหนังเลย
สำหรับคะแนนความชอบ เอาไปเลย 8.5/10 คะแนน สนุกเกินคาด
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง สามารถมาแชร์กันได้ รออ่านอยู่นะ