เราอยากแชร์ประสบการณ์ในการทำกายภาพบำบัดเพื่อการรักษากระดูกสันหลังคดของเรา แต่จะขอสงวนไม่เปิดเผยข้อมูลในการรักษา เนื่องจากร่างกายและเคสของคนแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป ไม่มีการรักษาที่ตายตัว และต้องควบคุมโดยนักกายภาพฯ เพราะฉะนั้นควรปรึกษานักกายภาพฯถึงวิธีการรักษาของคุณให้เหมาะสมกับตัวคุณก่อนนะคะ
ร่างกายของคนเราไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยง่าย คนเราทุกคนเผลอปรับเปลี่ยนร่างกายตนเองไปในทุกๆวัน ทั้งจากท่านั่ง ท่าเดิน ท่านอน และการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ แน่นอนว่าตัวเราเอง เอาความสบายและความเคยชินเป็นที่ตั้ง เราอาจไม่รู้ว่าเรากำลังทำท่าทางต่างๆเหล่านั้นแบบผิดวิธี และหากเราไม่ได้รู้สึกว่ามีการเจ็บปวดจากภายในร่างกาย เช่น ปวดหลังหรือเจ็บตรงไหน หรือ ถ้าไม่ได้รู้สึกว่าตัวเราเองบิดเบี้ยวมากจนเกินไป จะมีใครไปนั่งเช็คว่า ‘ฉันมีอะไรผิดปกติตรงไหนบ้างหรือเปล่า’
ในเคสของเรา เราเป็นกระดูกสันหลังคดมานาน เราเป็นมาตั้งแต่เด็ก เริ่มเป็นตั้งแต่ช่วงการเปลี่ยนวัย แต่เราไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่มีอาการปวดหลัง อย่างมากก็แค่เดินหลังเบี้ยวไม่เท่ากันแค่นั้น
รู้อย่างนี้แล้วทำไมไม่รักษาตั้งแต่เด็กล่ะ เอาจริงๆ หากเรารักษาในตอนนั้นก็คงจะมีกระดูกสันหลังที่ตรงอย่างรวดเร็ว แต่ตัวเราในตอนนั้น คือเด็กคนหนึ่ง ที่ไม่มีความคิดอยากจะทำ ยังอยากจะเล่น อยากจะสนุก อยากจะทำอะไรต่างๆมากกว่าการทำกายภาพฯ หรือการต้องออกกำลังกายทุกวัน ดังนั้นคงไม่มีความอดทนเพียงพอที่จะรักษาแบบต่อเนื่องแน่ๆ
จนมาตอนที่เราคิดที่จะอยากมีบุคลิกภาพที่ดี อยากพัฒนาตัวเอง อยากที่จะเดินแล้วดูสง่าผ่าเผย ถึงได้สนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับกระดูกสันหลังว่าจะมีวิธีอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้ฉันมีท่าทางการเดินที่ดีขึ้น
เราขอมาต่อในเม้นนะ มันยาวมาก
กายภาพบำบัดกับ กระดูกสันหลังคด
ร่างกายของคนเราไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยง่าย คนเราทุกคนเผลอปรับเปลี่ยนร่างกายตนเองไปในทุกๆวัน ทั้งจากท่านั่ง ท่าเดิน ท่านอน และการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ แน่นอนว่าตัวเราเอง เอาความสบายและความเคยชินเป็นที่ตั้ง เราอาจไม่รู้ว่าเรากำลังทำท่าทางต่างๆเหล่านั้นแบบผิดวิธี และหากเราไม่ได้รู้สึกว่ามีการเจ็บปวดจากภายในร่างกาย เช่น ปวดหลังหรือเจ็บตรงไหน หรือ ถ้าไม่ได้รู้สึกว่าตัวเราเองบิดเบี้ยวมากจนเกินไป จะมีใครไปนั่งเช็คว่า ‘ฉันมีอะไรผิดปกติตรงไหนบ้างหรือเปล่า’
ในเคสของเรา เราเป็นกระดูกสันหลังคดมานาน เราเป็นมาตั้งแต่เด็ก เริ่มเป็นตั้งแต่ช่วงการเปลี่ยนวัย แต่เราไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่มีอาการปวดหลัง อย่างมากก็แค่เดินหลังเบี้ยวไม่เท่ากันแค่นั้น
รู้อย่างนี้แล้วทำไมไม่รักษาตั้งแต่เด็กล่ะ เอาจริงๆ หากเรารักษาในตอนนั้นก็คงจะมีกระดูกสันหลังที่ตรงอย่างรวดเร็ว แต่ตัวเราในตอนนั้น คือเด็กคนหนึ่ง ที่ไม่มีความคิดอยากจะทำ ยังอยากจะเล่น อยากจะสนุก อยากจะทำอะไรต่างๆมากกว่าการทำกายภาพฯ หรือการต้องออกกำลังกายทุกวัน ดังนั้นคงไม่มีความอดทนเพียงพอที่จะรักษาแบบต่อเนื่องแน่ๆ
จนมาตอนที่เราคิดที่จะอยากมีบุคลิกภาพที่ดี อยากพัฒนาตัวเอง อยากที่จะเดินแล้วดูสง่าผ่าเผย ถึงได้สนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับกระดูกสันหลังว่าจะมีวิธีอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้ฉันมีท่าทางการเดินที่ดีขึ้น
เราขอมาต่อในเม้นนะ มันยาวมาก