ตอนนี้ แฟนที่คบกันมา เกือบ 4 ปี เป็นโรคมะเร็ง ครอบครัวไม่ให้คบต่อ โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ได้แต่งงานกันอย่าไปเอาจริงเอาจังมาก ไปหาเขา เยี่ยมเขา มันเป็นการประกาศให้คนอื่นรู้ว่ามีอะไรกันแล้ว เดี๋ยวญาติๆ เขาจะคิดว่า เราไปเกาะเขากิน ให้ทำใจยอมรับและถอยออกมา เขามีพ่อแม่ดูแลอยู่แหละ แต่เรา 2 คนรักกันมาก ถึงขั้นวาดฝันอนาคตจะอยู่ด้วยกัน เรารักเขา ไม่อยากทอดทิ้งเขา เป็นห่วงเขามาก
ต้องท้าวความก่อนว่า
เมื่อก่อน เราถูกกดดันจากครอบครัว ทั้งเรื่องเรียน เล่น รัก การงาน การดำเนินชีวิต ในแบบฉบับของคนโบราณมาตลอด แต่ในหัวเราต่อต้านสุด ๆ พอเราจะออกนอกกรอบหน่อย ก็จะถูกขู่ทางวาจาเสมอ เดี๋ยวพ่อไม่สบายบ้างแหละ เราเป็นคนรักครอบครัวนะ เราก็ไม่อยากให้พ่อเราเจ็บป่วยเพราะท่านจะคิดมากเรื่องของเรา
ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เราก็เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็ถูกพ่อแม่กีดกันมาตลอด ด้วยอาชีพที่เขาทำ มันไม่ใช่ รับราชาการ ทำให้ต้องเลิกรากันไป มาเจอแฟนคนปัจจุบัน เขาไม่ได้รับราชการหรอก แต่เราถูกใจเขามาก เพราะเขาเข้ากับเราได้ทุกอย่าง เขาทำให้เราสบายใจ อาจจะเพราะเราไม่เคยได้ความรู้สึกสบายใจจากครอบครัว เราจึงแพ้กับคนแบบนี้เป็นได้ เรารักเขาและตัดสินใจว่าถ้าไม่มีใครก่อนอายุ 35 บั้นปลายชีวิตจะไปบวช พอแฟนคนปัจจุบันเข้ามาแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่พามาแนะนำ
แฟนเราทำงานอยู่ต่างจังหวัด จึงเจอกันไม่บ่อย เวลามาหา ก็จะเช่าห้องนอน แล้วพาเราไปเที่ยว แต่แม่เป็นคนเอ่ยกับปากเองว่า "มาพักที่บ้านก็ได้นะ" เขาก็มาพักที่บ้าน แล้วพอเขาไป แม่ก็มากดดันเราใหญ่ ว่าเขาไม่ได้รับราชการ ต้องรับราชการนะ อ่ะ ก็ให้เขาอ่านหนังสือสอบราชการ เขาก็ยอม แม่บอกต้องให้เขามาอยู่ที่บ้านเราเท่านั้นนะ เราก็ไปคุยกับเขา เขาก็ตกลง ขนาดเขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวเขาก็ยอมที่จะมาอยู่กับเรา ที่พ่อแม่เขาอยู่ต่างจังหวัด
ในวันนี้เราคบกันเกือบจะ 4 ปีแล้ว เขาได้ป่วยเป็นโรคร้ายกระทันหัน พ่อแม่เรามองว่าดวงเรากับเขาไม่สมพงษ์กัน แต่เราไปดูหมอมาก่อนจะพาเขาเข้าบ้านมาแล้วว่า "เป็นนาคตัวเดียวกัน" เหมาะสมกัน แต่เราก็ไม่พูด เพราะพูดอะไรไปท่านก็ไม่ฟัง อยากจะให้เราเลิกกับเขาให้ได้ พ่อกับแม่กดดันเราทุกวิถีทาง ไม่ยอมให้เดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ยอมให้ไปไหน เราเครียดมาก และตอนนี้เราก็เรียนด้วย ทำงานด้วย เราอยากให้เขาหาย หายสนิท ถ้าไม่ได้คู่กันจริง ๆ ก็ขอให้จากเป็น อยากจากตายเลย และเราก็เลือกเดินทางดูแลเขาให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่พ่อแม่ เป็นห่วงมาก ไม่เข้าใจเรา แค่เราขอแค่ช่วงนี้ ถึงแม้จะเป็นสุดสัปดาห์ ที่ไปถี่ อยากไปให้กำลังใจเขา ก็ฟันธงเราไปต่าง ๆ นานา ว่า ให้เงินเขาใช่ไหม เขาเป็นแบบนี้จะเลี้ยงเขาไปตลอดใช่ไหม พ่อคิดกระทั่งว่า เราจะหนีไปดูแลเขาที่ต่างจังหวัดแล้ว พ่อกับแม่ก็จะขายบ้านหลังที่อยู่ไป หน้าเราดูป่วยพูดอะไรก็ไม่ฟังแล้ว สารพัด
อยากให้พ่อแม่ได้เข้าใจเราจัง ว่า ตั้งแต่เด็ก เราก็ไม่เคยทำหน้าที่ลูกบกพร่อง เพียงแต่เรากำลังเจอสถานการณ์ที่มันย่ำแย่ เราไม่ได้จะไปจากเขาไปไหน เราก็ยังทำหน้าที่ลูก การงาน การเรียนเหมือนเดิม เราไม่ได้จะไปกู้หนี้ยืมสินมารักษาแฟน หรือเลี้ยงแฟน แต่เขาก็มัดมือชก บอกแทนเราไปแล้ว ทำไมพวกเขารู้ดีจัง
ตอนนี้ เราทุกทรมานมาก ไม่อยากเกิดมา มีชีวิตที่ต้องเจ็บป่วยแต่เด็ก ให้พ่อแม่มาเฝ้าไข้แล้วมาพูดถึงความกตัญญู ไม่อยากเกิดมาแล้วเลือกชีวิตของตนเองไม่ได้ ไม่อยากเกิดมาเพื่อเป็นภาระใคร ไม่อยากเกิดมาแล้วไม่มีความสุข
ตอนนี้ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะครอบครัว ญาติ ก็มาจาก สิ่งที่ปลูกฝังมาจากสมัยเก่า ที่ต้องรักษาหน้าตา ของพ่อแม่พี่น้อง ชีวิตทำไมมันเหนื่อยจัง
ทรัพย์สินเงินทอง ไม่ได้ต้องการ ต้องการแค่ความสบายใจ
ถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะทำยังไง ตอนนี้เราหาทางออกไม่ได้ เครียดมาก
ต้องท้าวความก่อนว่า
เมื่อก่อน เราถูกกดดันจากครอบครัว ทั้งเรื่องเรียน เล่น รัก การงาน การดำเนินชีวิต ในแบบฉบับของคนโบราณมาตลอด แต่ในหัวเราต่อต้านสุด ๆ พอเราจะออกนอกกรอบหน่อย ก็จะถูกขู่ทางวาจาเสมอ เดี๋ยวพ่อไม่สบายบ้างแหละ เราเป็นคนรักครอบครัวนะ เราก็ไม่อยากให้พ่อเราเจ็บป่วยเพราะท่านจะคิดมากเรื่องของเรา
ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เราก็เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็ถูกพ่อแม่กีดกันมาตลอด ด้วยอาชีพที่เขาทำ มันไม่ใช่ รับราชาการ ทำให้ต้องเลิกรากันไป มาเจอแฟนคนปัจจุบัน เขาไม่ได้รับราชการหรอก แต่เราถูกใจเขามาก เพราะเขาเข้ากับเราได้ทุกอย่าง เขาทำให้เราสบายใจ อาจจะเพราะเราไม่เคยได้ความรู้สึกสบายใจจากครอบครัว เราจึงแพ้กับคนแบบนี้เป็นได้ เรารักเขาและตัดสินใจว่าถ้าไม่มีใครก่อนอายุ 35 บั้นปลายชีวิตจะไปบวช พอแฟนคนปัจจุบันเข้ามาแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่พามาแนะนำ
แฟนเราทำงานอยู่ต่างจังหวัด จึงเจอกันไม่บ่อย เวลามาหา ก็จะเช่าห้องนอน แล้วพาเราไปเที่ยว แต่แม่เป็นคนเอ่ยกับปากเองว่า "มาพักที่บ้านก็ได้นะ" เขาก็มาพักที่บ้าน แล้วพอเขาไป แม่ก็มากดดันเราใหญ่ ว่าเขาไม่ได้รับราชการ ต้องรับราชการนะ อ่ะ ก็ให้เขาอ่านหนังสือสอบราชการ เขาก็ยอม แม่บอกต้องให้เขามาอยู่ที่บ้านเราเท่านั้นนะ เราก็ไปคุยกับเขา เขาก็ตกลง ขนาดเขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวเขาก็ยอมที่จะมาอยู่กับเรา ที่พ่อแม่เขาอยู่ต่างจังหวัด
ในวันนี้เราคบกันเกือบจะ 4 ปีแล้ว เขาได้ป่วยเป็นโรคร้ายกระทันหัน พ่อแม่เรามองว่าดวงเรากับเขาไม่สมพงษ์กัน แต่เราไปดูหมอมาก่อนจะพาเขาเข้าบ้านมาแล้วว่า "เป็นนาคตัวเดียวกัน" เหมาะสมกัน แต่เราก็ไม่พูด เพราะพูดอะไรไปท่านก็ไม่ฟัง อยากจะให้เราเลิกกับเขาให้ได้ พ่อกับแม่กดดันเราทุกวิถีทาง ไม่ยอมให้เดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ยอมให้ไปไหน เราเครียดมาก และตอนนี้เราก็เรียนด้วย ทำงานด้วย เราอยากให้เขาหาย หายสนิท ถ้าไม่ได้คู่กันจริง ๆ ก็ขอให้จากเป็น อยากจากตายเลย และเราก็เลือกเดินทางดูแลเขาให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่พ่อแม่ เป็นห่วงมาก ไม่เข้าใจเรา แค่เราขอแค่ช่วงนี้ ถึงแม้จะเป็นสุดสัปดาห์ ที่ไปถี่ อยากไปให้กำลังใจเขา ก็ฟันธงเราไปต่าง ๆ นานา ว่า ให้เงินเขาใช่ไหม เขาเป็นแบบนี้จะเลี้ยงเขาไปตลอดใช่ไหม พ่อคิดกระทั่งว่า เราจะหนีไปดูแลเขาที่ต่างจังหวัดแล้ว พ่อกับแม่ก็จะขายบ้านหลังที่อยู่ไป หน้าเราดูป่วยพูดอะไรก็ไม่ฟังแล้ว สารพัด
อยากให้พ่อแม่ได้เข้าใจเราจัง ว่า ตั้งแต่เด็ก เราก็ไม่เคยทำหน้าที่ลูกบกพร่อง เพียงแต่เรากำลังเจอสถานการณ์ที่มันย่ำแย่ เราไม่ได้จะไปจากเขาไปไหน เราก็ยังทำหน้าที่ลูก การงาน การเรียนเหมือนเดิม เราไม่ได้จะไปกู้หนี้ยืมสินมารักษาแฟน หรือเลี้ยงแฟน แต่เขาก็มัดมือชก บอกแทนเราไปแล้ว ทำไมพวกเขารู้ดีจัง
ตอนนี้ เราทุกทรมานมาก ไม่อยากเกิดมา มีชีวิตที่ต้องเจ็บป่วยแต่เด็ก ให้พ่อแม่มาเฝ้าไข้แล้วมาพูดถึงความกตัญญู ไม่อยากเกิดมาแล้วเลือกชีวิตของตนเองไม่ได้ ไม่อยากเกิดมาเพื่อเป็นภาระใคร ไม่อยากเกิดมาแล้วไม่มีความสุข
ตอนนี้ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะครอบครัว ญาติ ก็มาจาก สิ่งที่ปลูกฝังมาจากสมัยเก่า ที่ต้องรักษาหน้าตา ของพ่อแม่พี่น้อง ชีวิตทำไมมันเหนื่อยจัง
ทรัพย์สินเงินทอง ไม่ได้ต้องการ ต้องการแค่ความสบายใจ