JJNY : iLaw แซว'กกต.' ต้องใช้ CD กี่แผ่น│พ่อเมืองโคราชห่วงวิกฤตภัยแล้ง│สศช.ห่วงหนี้ครัวเรือน│ราคาข้าวเวียดนามยังคงแพงสุด

'ยิ่งชีพ' iLaw แซว 'กกต.' ถามต้องใช้ CD กี่แผ่น ส่ง 2 แสนกว่ารายชื่อ แก้ รธน.
https://prachatai.com/journal/2023/08/105656
 
 
ยิ่งชีพ iLaw แซว ประกาศ กกต. ที่ออกมาในปี 2566 แต่ยังระบุให้ส่งเอกสารผ่านแผ่นบันทึกข้อมูล หรือ CD อยู่ ถามต้องใช้ CD กี่แผ่นใส่ 205,739 รายชื่อประชาชน ในแคมเปญ #conforall เสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ
 
28 ส.ค. 2566 ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จาก iLaw ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ “ยิ่งชีพ (เป๋า)” แซว ประกาศ กกต. ที่ระบุให้สแกนไฟล์ PDF รายชื่อประชาชนเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ ใส่แผ่นบันทึกข้อมูล หรือ CD ถามต้องใช้ CD กี่แผ่นใส่ 205,739 รายชื่อ (ยอดวันที่ 27 ส.ค. 2566) ประชาชนในแคมเปญ #conforall เสนอคำถามประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 2560
 
ยิ่งชีพ ระบุ แม้ในประกาศ กกต. ให้ใส่อุปกรณ์บันทึกข้อมูลพกพา หรือ Flash Drive ได้ แต่ยิ่งชีพตั้งข้อสังเกตว่า “จากการอ่านประกาศฉบับนี้ แต่เขาเล่นเอา CD ขึ้นมาก่อน เหมือนอยากได้ CD มากกว่า ถ้าสแกนจนถึงไฟล์สุดท้ายแล้ว ไม่ยากเกินไป ก็จะลองทำเป็น CD ไป เขาจะได้รู้บ้างว่าประกาศมันก็สร้างงานให้ตัวเอง
 
ทั้งนี้ ยิ่งชีพ ยังกล่าวว่า เป็นความล้าหลังของประกาศ กกต. ซึ่งออกมาในปี 2566 แต่ยังระบุให้ใช้แผ่นบันทึกข้อมูล หรือ CD อยู่ และสร้างภาระให้แก่คนทำงาน
 
โดยยิ่งชีพทวิตข้อความดังนี้ 
 
ยอดรายชื่อ #conforall ทะลุไปปิดที่ 205,739 แล้ว อ่านประกาศกกต. บอกว่าตอนส่งให้สแกน PDF ใส่แผ่นบันทึกข้อมูล คืออะไร?? ซีดีหรือเปล่า?? นักคอมคำนวนแล้วว่า CD โบราณหนึ่งแผ่น จะใส่ PDF ได้ประมาณ 500 ไฟล์ แล้วเราจะต้องใช้ CD กี่แผ่น??? งานนี้ทำให้รู้ว่าเราไม่ตั้งใจเรียนคณิตศาสตร์
 
ตอนนี้หาวิธีใส่ CD ได้แล้ว คิดว่าน่าจะไม่กี่แผ่น และคิดว่าถ้าใส่ Flash Drive ไป ก็น่าจะได้ จากการอ่านประกาศฉบับนี้ แต่เขาเล่นเอา CD ขึ้นมาก่อน เหมือนอยากได้ CD มากกว่า ถ้าสแกนจนถึงไฟล์สุดท้ายแล้ว ไม่ยากเกินไป ก็จะลองทำเป็น CD ไป เขาจะได้รู้บ้างว่าประกาศมันก็สร้างงานให้ตัวเอง
หลายคนไม่เข้าใจจริงๆ เหรอว่าผมแค่ "แซว" ผมอ่านหนังสืออกและอ่านจนจบประโยคเป็น และอ่านหลายรอบมากๆๆๆ กับไอ้เรื่องนี้ แต่ประกาศนี้ออกปี 2566 มันไม่ควรจะเขียนเรื่อง CD เอาไว้ในประกาศแบบนี้แล้ว มันควรแล้วที่จะไฮไลท์ให้เห็นความล้าหลังของการทำงานในระบบนี้ และชี้ให้เห็นว่าสร้างภาระยังไง

https://twitter.com/yingcheep/status/1695790141955318089
 


พ่อเมืองโคราช ห่วงวิกฤต ภัยแล้ง น้ำในอ่างเก็บน้ำ 27 แห่ง เหลือแค่ 37 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7836410

พ่อเมืองโคราช ห่วง ภัยแล้ง เร่งหารือส่วนราชการ ย้ำทุกอำเภอตามติดสถานการณ์ใกล้ชิด หลังน้ำในอ่างเก็บน้ำ 27 แห่ง เหลือแค่ 37 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
 
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดฯ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา
 
โดยมีส่วนราชการ และนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ร่วมประชุมรายงานผลดำเนินงานและรับฟังแนวนโยบาย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ มีข้อสั่งการให้ทุกอำเภอติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและสถานการณ์น้ำภายในอ่างเก็บน้ำทุกพื้นที่ หลังพบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแต่ละแห่ง มีปริมาณน้ำลดลงจากภาวะฝนทิ้งช่วงและปรากฏการณ์เอลนีโญ
 
ซึ่งเน้นย้ำชลประทานจังหวัดฯ ให้บริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุมและให้เกิดประสิทธิภาพการใช้น้ำสูงสุดทั้งเพื่อการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ เพื่อภาคอุตสาหกรรม และการเกษตรเพาะปลูก เพราะสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำแต่ละแห่งปีนี้น่าเป็นห่วง มีน้ำเก็บกักคงเหลือเฉลี่ยไม่ถึง 50 % ต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
 
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา 4 แห่ง ได้แก่ 

1.อ่างลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 131 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 41% จากความจุทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร
 
2.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 32 % จากความจุทั้งหมด 165ล้านลูกบาศก์เมตร 

3.อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 56 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 39 % จากความจุทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร 

และ 4.อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 95 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 34% จากความจุ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร
 
ส่วนอ่างน้ำขนาดกลาง 23 แห่งของจังหวัด มีปริมาณน้ำในอ่างกักเก็บ รวมเหลืออยู่ที่ 117 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 35 % จากความจุทั้งหมด 331 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อรวมปริมาณน้ำเก็บกักของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวมทั้งหมด 27 แห่ง สรุปมีปริมาณน้ำเก็บกักคงเหลืออยู่ที่ 451 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 37 % เท่านั้น จากความจุทั้งหมด 1,216 ล้านลูกบาศก์เมตร


 
สศช.ห่วงหนี้ครัวเรือนไตรมาส 1 ปี 66 พุ่ง 3.6% ชี้แจกเงินดิจิทัล ต้องดูรายละเอียดให้ชัด
https://ch3plus.com/news/economy/morning/363705

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผยว่า หนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 1 ปี 2566 มีมูลค่า 15.96 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่คงที่เมื่อเทียบกับ ไตรมาสก่อนหน้า สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 90.6% ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน ซึ่งอยู่ที่ 91.4%

โดยเฉพาะหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัว 2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 4 ปี 65) ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 1.2% และสินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัว 5.4% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 4 ปี 65) ซึ่งอยู่ 4.4%

ด้านความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนภาพรวมลดลงเล็กน้อย โดยหนี้ NPLs มีมูลค่า 1.44 แสนล้านบาท หรือมีสัดส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.68% เพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 4 ปี 65) ซึ่งมีหนี้ NPLs อยู่ที่ 1.40 แสนล้านบาท สัดส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวม 2.62%

ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ หนี้เสียและความเสี่ยงของการเป็นหนี้เสียของสินเชื่อยานยนต์ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในไตรมาส1 ปี 2566 หนี้ NPL ของสินเชื่อยานยนต์มีมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มสูงถึง 30.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส

การติดกับดักหนี้ของลูกหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคิดเป็น 88% ของเงินให้กู้ยืมแก่สมาชิกสหกรณ์ทุกประเภท และส่วนใหญ่กู้เพื่อใช้สอยส่วนตัวและเพื่อชำระหนี้สินเดิม และเกือบครึ่ง เป็นหนี้ที่ไม่สร้างรายได้ อีกทั้งพบว่าทัศนคติทางการเงินที่ถูกต้องของคนไทยปัจจุบันลดลงเมื่อเทียบกับปี 2563

ด้านการจ้างงาน ไตรมาส 2 ปี 2566 ผู้มีงานทำมีจำนวนทั้งสิ้น 39.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 1.7% จาก การขยายตัวของการจ้างงานสาขานอกภาคเกษตรกรรมที่ 2.5% โดยสาขาโรงแรมและภัตตาคารยังขยายตัวได้ดี ต่อเนื่องที่ 11.7% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการเข้ามาอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่นเดียวกับสาขาก่อสร้าง สาขาการผลิต การค้าส่งและค้าปลีก และการขนส่งและเก็บสินค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคเกษตรกรรม การจ้างงานหดตัวลงเล็กน้อยจากปัญหาภัยแล้ง

สำหรับค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ 15,412 บาท และภาคเอกชน และ 14,032 บาทต่อคนต่อเดือน อัตราการว่างงานมีแนวโน้มดีขึ้น ลดลงจากปีก่อนมาอยู่ที่ 1.06% หรือมี ผู้ว่างงาน 4.3 แสนคน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยซึ่งอยู่ที่ 1.05% แต่ยังต้องติดตามปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคบริการ ส่วนหนึ่งมาจากเด็กจบใหม่ไม่ตรงกับตำแหน่งงานที่ว่าง

นอกจากนี้เลขาสศช. ยืนยันว่า สศช. ยังไม่ได้เสนอให้ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% แต่อย่างใด เป็นเพียงแนวทางการหารือในวงสัมมนาทางออกในการหารายได้เพื่อมาดูแลผู้สูงอายุเท่านั้น

ส่วนมาตรการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องไปดูวิธีการและรายละเอียดที่ชัดเจนก่อน ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ต้องดูภาระการคลังที่มีด้วย ส่วนข้ออ้างที่ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน บอกว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้หลังจากที่ไตรมาส 2 ชะลอตัว เลขาธิการสศช.ระบุว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากภาคการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปลาย ปี 65 บวกกับภาคการผลิตในอุตสาหกรรมที่ลดลง และการบริโภคของรัฐที่หายไป

ส่วนการเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทยในวันนี้ ก็เป็นเรื่องปกติที่หน่วยงานราชการจะเข้าไปให้ข้อมูลสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่