ทร. ของจริง ลบทุกคำครหา ส่งมอบเทคโนโลยีเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ในขั้นตอนทดสอบด้วยการบินจริงสำเร็จ
หลังจากเพจชื่อดัง CSI LA ออกมาแฉเผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อ "เป้าบินพิสัยกลาง" แบบไอพ่น 49.8 ล้าน อาจจะไม่มีความโปร่งใส
โดยเพจ CSI LA กล่าวอ้างว่า กองทัพเรือ เอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนในการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ด้วยการแก้เอกสารสัญญาสั่งซื้อระบบเป้าบิน Phoenix ราคา 49.8 ล้านบาท โดยระบุว่า "ที่บินไม่ได้ เพราะไม่ได้ซื้อรางส่งบินมาด้วย จากเดิมที่เคยเขียนว่าจะมีจ่ายเต็มหากได้รับมอบสินค้าแล้ว เป็นไปตรวจสอบของที่โรงงานโดยที่ไม่มีการทดสอบว่าบินได้หรือเปล่าก็ได้เงินแล้ว การซื้อระบบเป้าบินเจ็ตโดรนโดยซื้อรางส่งขึ้นบิน ไม่ต่างอะไรกับการซื้อจรวดโดยไม่ซื้อแท่นปล่อยจรวด" พร้อมทั้งกล่าวหาว่าในประเด็นการจัดหาซึ่งระบุว่า "ที่อ้างว่าประหยัดงบประมาณนั้น ก็เพียงแค่ซื้อตรงจากตัวแทนในประเทศไทยก็สามารถซื้อได้เต็มระบบแล้ว ทำไมต้องไปซื้อผ่านตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ด้วย"
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ออกมาตั้งโต๊ะชี้แจง กล่าวว่า จากข้อกล่าวหาว่า กองทัพเรือ ไม่ซื้อรางปล่อยเนื่องจากต้องการซื้อผ่านตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ขอชี้แจงว่า เริ่มแรกของโครงการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น เป็นการจัดหาเป้าบินฯ จำนวน 3 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ได้จัดหารางปล่อยใน TOR ตั้งแต่แรก เนื่องจากได้มีการสำรวจจากบริษัทต่างๆ ในขั้นตอนการสืบราคากลางก่อนเริ่มโครงการ โดยบริษัทต่างๆ แจ้งว่ารางปล่อยเดิมของ กองทัพเรือ ที่มีใช้ราชการอยู่สามารถใช้งานกับเป้าบินที่จะจัดหาใหม่ และสามารถใช้กับเป้าบินของเดิมที่กองทัพเรือ มีประจำการอยู่แล้วได้ เพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อย
ซึ่งหากกองทัพเรือ จัดหารางปล่อยด้วยจะต้องใช้งบประมาณถึง 17 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการในภาพรวม ซึ่งกองทัพเรือ พิจารณาแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารางปล่อยใหม่ และเป็นการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในทรัพยากรที่กองทัพเรือ มีอยู่จริง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 "กองทัพเรือ" ทดสอบการบินของเป้าบิน Setting to Work พิสัยกลางแบบไอพ่น 49.8 ล้าน ผ่านฉลุย พร้อมตรวจรับแล้ว ย้ำสามารถใช้งานได้โดยสมบูรณ์ และดำเนินการด้วยความโปร่งใส
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 66 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยกองทัพเรือ โดย กรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้ดำเนินการตรวจรับเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่นในขั้นตอนการบินทดสอบทดลองเป้าบินพิสัยกลาง ณ หาดยาว สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 15 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งผลการดำเนินการทดสอบทดลองเป้าบินเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสัญญา โดยรางปล่อยและเป้าบินสามารถใช้งานได้โดยสมบูรณ์ สำหรับการทดสอบทดลองการบินจริง (Setting to Work) ในครั้งนี้ ทางบริษัทผู้ผลิต ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการบินเป้าบินไอพ่นเข้ามาทดสอบทดลองด้วยการบินจริงร่วมกับ พล.ร.ท.เกรียง ชุณหชาติ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นไปตามสัญญา ซึ่งกรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า โครงการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น เป็นการจัดหาเป้าบินฯ จำนวน 3 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้มีความพยายาม ในการกล่าวหากองทัพเรือ ในส่วนของการจัดหารางปล่อยเป้าบินว่า ที่เป้าบินฯ บินไม่ได้ เพราะไม่ได้ซื้อรางส่งบินมาด้วย ไม่ต่างอะไรกับการซื้อจรวดโดยไม่ซื้อแท่นปล่อยจรวด ซึ่งกองทัพเรือได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า รางปล่อยเดิมของ กองทัพเรือ ที่มีใช้ราชการอยู่สามารถใช้งานกับเป้าบินที่จะจัดหาใหม่ และสามารถใช้กับเป้าบินของเดิมที่ กองทัพเรือ มีประจำการอยู่แล้วได้ เพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อย ซึ่งหาก กองทัพเรือ จัดหารางปล่อยด้วยจะต้องใช้งบประมาณถึง 17 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการในภาพรวม ซึ่ง กองทัพเรือ พิจารณาแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารางปล่อยใหม่ และเป็นการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในทรัพยากรที่กองทัพเรือมีอยู่จริง
ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่ากองทัพเรือดำเนินการด้วยความโปร่งใสมิได้มีผลประโยชน์หรือการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยกองทัพเรือขอเน้นย้ำว่า ในการจัดหายุทโธปกรณ์ต่างๆ ของกองทัพเรือนั้น กองทัพเรือจะคำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด และสามารถตรวจสอบได้
อ้างอิง
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2716226
สยบข่าว "เป้าบิน" ลบทุกคำครหา ! กองทัพเรือทดสอบการบินเป้าบิน พิสัยกลางแบบไอพ่น ผ่านฉลุย ยันทุกอย่างโปร่งใส่
หลังจากเพจชื่อดัง CSI LA ออกมาแฉเผยแพร่ข้อมูลการจัดซื้อ "เป้าบินพิสัยกลาง" แบบไอพ่น 49.8 ล้าน อาจจะไม่มีความโปร่งใส
โดยเพจ CSI LA กล่าวอ้างว่า กองทัพเรือ เอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนในการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น ด้วยการแก้เอกสารสัญญาสั่งซื้อระบบเป้าบิน Phoenix ราคา 49.8 ล้านบาท โดยระบุว่า "ที่บินไม่ได้ เพราะไม่ได้ซื้อรางส่งบินมาด้วย จากเดิมที่เคยเขียนว่าจะมีจ่ายเต็มหากได้รับมอบสินค้าแล้ว เป็นไปตรวจสอบของที่โรงงานโดยที่ไม่มีการทดสอบว่าบินได้หรือเปล่าก็ได้เงินแล้ว การซื้อระบบเป้าบินเจ็ตโดรนโดยซื้อรางส่งขึ้นบิน ไม่ต่างอะไรกับการซื้อจรวดโดยไม่ซื้อแท่นปล่อยจรวด" พร้อมทั้งกล่าวหาว่าในประเด็นการจัดหาซึ่งระบุว่า "ที่อ้างว่าประหยัดงบประมาณนั้น ก็เพียงแค่ซื้อตรงจากตัวแทนในประเทศไทยก็สามารถซื้อได้เต็มระบบแล้ว ทำไมต้องไปซื้อผ่านตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ด้วย"
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ออกมาตั้งโต๊ะชี้แจง กล่าวว่า จากข้อกล่าวหาว่า กองทัพเรือ ไม่ซื้อรางปล่อยเนื่องจากต้องการซื้อผ่านตัวแทนช่วง (ซาปั๊ว) ขอชี้แจงว่า เริ่มแรกของโครงการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น เป็นการจัดหาเป้าบินฯ จำนวน 3 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ได้จัดหารางปล่อยใน TOR ตั้งแต่แรก เนื่องจากได้มีการสำรวจจากบริษัทต่างๆ ในขั้นตอนการสืบราคากลางก่อนเริ่มโครงการ โดยบริษัทต่างๆ แจ้งว่ารางปล่อยเดิมของ กองทัพเรือ ที่มีใช้ราชการอยู่สามารถใช้งานกับเป้าบินที่จะจัดหาใหม่ และสามารถใช้กับเป้าบินของเดิมที่กองทัพเรือ มีประจำการอยู่แล้วได้ เพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อย ซึ่งหากกองทัพเรือ จัดหารางปล่อยด้วยจะต้องใช้งบประมาณถึง 17 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการในภาพรวม ซึ่งกองทัพเรือ พิจารณาแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารางปล่อยใหม่ และเป็นการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในทรัพยากรที่กองทัพเรือ มีอยู่จริง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 "กองทัพเรือ" ทดสอบการบินของเป้าบิน Setting to Work พิสัยกลางแบบไอพ่น 49.8 ล้าน ผ่านฉลุย พร้อมตรวจรับแล้ว ย้ำสามารถใช้งานได้โดยสมบูรณ์ และดำเนินการด้วยความโปร่งใส
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 66 พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยกองทัพเรือ โดย กรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้ดำเนินการตรวจรับเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่นในขั้นตอนการบินทดสอบทดลองเป้าบินพิสัยกลาง ณ หาดยาว สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 15 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งผลการดำเนินการทดสอบทดลองเป้าบินเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสัญญา โดยรางปล่อยและเป้าบินสามารถใช้งานได้โดยสมบูรณ์ สำหรับการทดสอบทดลองการบินจริง (Setting to Work) ในครั้งนี้ ทางบริษัทผู้ผลิต ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการบินเป้าบินไอพ่นเข้ามาทดสอบทดลองด้วยการบินจริงร่วมกับ พล.ร.ท.เกรียง ชุณหชาติ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นไปตามสัญญา ซึ่งกรมสรรพาวุธทหารเรือ ได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า โครงการจัดซื้อเป้าบินพิสัยกลางแบบไอพ่น เป็นการจัดหาเป้าบินฯ จำนวน 3 ระบบ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้มีความพยายาม ในการกล่าวหากองทัพเรือ ในส่วนของการจัดหารางปล่อยเป้าบินว่า ที่เป้าบินฯ บินไม่ได้ เพราะไม่ได้ซื้อรางส่งบินมาด้วย ไม่ต่างอะไรกับการซื้อจรวดโดยไม่ซื้อแท่นปล่อยจรวด ซึ่งกองทัพเรือได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า รางปล่อยเดิมของ กองทัพเรือ ที่มีใช้ราชการอยู่สามารถใช้งานกับเป้าบินที่จะจัดหาใหม่ และสามารถใช้กับเป้าบินของเดิมที่ กองทัพเรือ มีประจำการอยู่แล้วได้ เพียงแค่ปรับปรุงเล็กน้อย ซึ่งหาก กองทัพเรือ จัดหารางปล่อยด้วยจะต้องใช้งบประมาณถึง 17 ล้านบาท หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการในภาพรวม ซึ่ง กองทัพเรือ พิจารณาแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารางปล่อยใหม่ และเป็นการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในทรัพยากรที่กองทัพเรือมีอยู่จริง
ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่ากองทัพเรือดำเนินการด้วยความโปร่งใสมิได้มีผลประโยชน์หรือการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยกองทัพเรือขอเน้นย้ำว่า ในการจัดหายุทโธปกรณ์ต่างๆ ของกองทัพเรือนั้น กองทัพเรือจะคำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด และสามารถตรวจสอบได้
อ้างอิง
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2716226