[CR] ความสำเร็จบนความพยายาม ณ ดอยหลวงเชียงดาว

จบทริปปี ‘59 ด้วยการปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาที่สูงที่สุด แม้จะมีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยรองมาจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก
แต่ทั้งสองที่นี้เราสามารถเดินทางด้วยรถยนต์และรถอื่นๆได้อย่างสบาย ต่างจากดอยหลวงเชียงดาวซึ่งแม่ว่าจะมีความสูงเป็นอันดับ 3
แต่ระยะทางยากลำบาก และไม่สามารถนั่งรถไปถึงได้ จะต้องเดินอย่างเดียว ซึ่งก็ถือว่าเป็นความท้าทายสำหรับนักปีนเขาที่รักธรรมชาติและอยากจะมา
ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ หนึ่งในนั้นก็คงนี้ไม่พ้นแก้งค์โหดของเราคะ....ไปลุยกันเลยคะ
ดอยหลวงเชียงดาว สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ในสมัยโบราณดอยเชียงดาวถูกเรียกว่า “ดอยอ่างสลุง” ซึ่งชาวเชียงใหม่เชื่อกันตามตำนานเมืองเชียงใหม่ว่า
เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาพร้อม พระอรหันต์ 8 องค์ทรงลงสรงน้ำในสลุงทองคำหรือบริเวณอ่างสลุงนั่นเอง
บางคนเรียกดอยแห่งนี้ว่า “ดอยหลวง” เนื่องจากเป็นดอยที่มีขนาดสูงใหญ่ (“หลวง” แปลว่า “ใหญ่”)
เพี้ยนเป็น “ดอยหลวงเพียงดาว” จนกระทั่งกลายมาเป็น “ดอยหลวงเชียงดาว” หรือ “ดอยเชียงดาว” นั่นเอง
    10 ธค. 2559  เราเดินทางด้วยรถตู้พร้อมหน้ากันและออกเดินทางโดยมีจุดนัดพบที่การประปานครหลวง (Adventure group) กลุ่มเดิม
จริงๆ แล้วสารร่างก็ไม่ได้พร้อมมากเท่าไร เพราะความรู้สึกตอนไปปีนเขาช้างเผือกยังอบอวนอยู่ไม่น้อย
และนี่เป็นสถานที่ที่ถือว่าโหดและไกลกว่าเดิมด้วย ตามสไตล์ของตัวเองเลยคะไม่มีการฟิตร่างกายใดๆ มาก่อนเหมือนเคย
ทำให้ท้อใจอยู่เบาๆ แต่ว่าสถานที่นี้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดของนักปีกป่ายจริงๆ จึงตัดสินใจเดินทางมาด้วยความหวังว่า
เราจะต่อสู้กับความกลัวในใจไปให้ได้อีกครั้งเหมือนเช่นเคย

การเดินทางครั้งนี้ แม้สมาชิกจะปะปนไปด้วยจำนวนอายุที่หลากหลาย แต่ทุกคนก็สู้ไม่ถอย
เราเดินทางหลับบ้างตื่นบ้างเป็นระยะ จนมาถึงที่พักสำหรับทานอาหารเช้า ล้างหน้าล้างตา เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายกันที่
“เชียงดาวกู๊ดวิว รีสอร์ท แอนด์ สปา” ที่นี่บรรยากาศดีแบบควันออกปากเลยคะ หนาวมาก น้ำค้างก็มา หมอกก็มี
ทำเอาเราถอดใจ..ใช้เวลาแปรงฟันอย่างรวดเร็วโดยไม่อาบน้ำ...อิอิ
    หลังจากทานอาหารเช้ากันเรียบร้อย พวกเราก็พร้อมออกเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายโหดแห่งนี้แล้วหละ
“ปางวัว” คือจุดรับส่งนักปีนป่าย และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางเพื่อไปพิชิตยอดดอยของเรา
หลังจากนั้นเราก็นำสัมภาระบางส่วนที่จำเป็นพกติดตัวไปแต่พอดี ส่วนที่เหลือพวกเต้นท์และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับนอนค้างด้านบน
ยกให้เป็นหน้าที่ของลูกหาบจัดการทะยอยลำเลียงขึ้นไปล่วงหน้าค่ะ

การเดินทางไปยังดอยหลวงเชียงดาวด้วยรถส่วนตัวจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะใช้ทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง
ประมาณกิโลเมตรที่ 71-72 แยกซ้ายที่บ้านแม่นะ สู่หน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด
และมีจุดเริ่มต้นเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 5-7 ชั่วโมง ที่บริเวณถ้ำเชียงดาว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อคนนำทาง
ลูกหาบ รวมทั้งรถไปส่งที่จุดเริ่มเดินได้ โดยค่าเช่ารถประมาณ 900 บาท ค่าจ้างลูกหาบประมาณวันละ 300 บาทต่อลูกหาบหนึ่งคน
บนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมตัวไปด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอน อาหาร และน้ำ
ส่วนเส้นทางการเดินลงนั้น นิยมใช้ทางสายบ้านถ้ำซึ่งอยู่ใกล้กับถ้ำเชียงดาว เป็นทางสูงชันสามารถวิ่งลงได้แบบเร็วๆ ได้ (อย่างระมัดระวัง)
ซึ่งทางนี้จะไม่เหมาะกับการขึ้นเพราะมันจะเหนื่อยและใช้เวลานานค่ะ
ก่อนเดินขึ้น ถ่ายภาพที่ระทึกกันหน่อย (ก่อนเริ่มเดิน..ก็จะสดใสแบบนี้แหละจ๊ะ)
เส้นทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวที่อนุญาติให้ขึ้นมี 2 เส้นทาง
1. เส้นทางเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง เดินสบายที่สุดแต่ต้องเช่ารถขึ้นไปส่งค่อนข้างไกลใช้เวลานั่งรถไปถึงจุดเริ่ม เดินเท้าประมาณชั่วโมงครึ่ง
เป็นเส้นทางที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจากตลอดเส้นทางไม่ชันมาก แต่ถือเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุดจากจุดเริ่มต้นขึ้นไปถึงยอดดอยประมาณ 8.5 ก.ม.
การเดินเท้าเริ่มที่เด่นหญ้าขัด (หน่วยฯ ขุนห้วยแม่กอก) มีจุดพักแรมระหว่างทางที่ดงท้อและปลายทาง
ที่อ่างสลุงระหว่างทางจะมีทั้งพันธุ์ไม้ทั่วไปและพันธุ์ไม้หายาก
2. เส้นทางปางวัว-อ่างสลุง ระยะทางประมาณ 6.5 ก.ม.เส้นทางค่อนข้างชันในช่วงแรก เริ่มที่ปางวัว (บ.นาเลาใหม่) มีจุดพักแรมระหว่างทางที่ดงไผ่หก
และปลายทางที่อ่างสลุง รถเก๋งนั้นนำไปจอดฝากไว้ที่ สนง.เขตฯ เชียงดาวได้ค่ะ
โดยทั้งสองเส้นทางจะมาบรรจบกันที่สามแยก หลังจากนั้นจะต้องเดินต่อไปยังเส้นทางเดียวกันไปอ่างสลุง ซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์
เส้นทางทั้งสองเส้นสามารถใช้บริการรถกระบะท้องถิ่นไปยังจุดเริ่มต้นเดินเท้าเส้นทางรถเด่นหญ้าขัดเป็นทางลูกรังรถรับจ้าง
จะราคาแพงกว่าเส้นทางปางวัวซึ่งเป็นถนนราดยาง  เราเลือกเดินทางตามเส้นทางที่ 2 คะ
มริปเขาหลวงนี้เราถ่ายรูประหว่างทางน้อยมากค่ะ และตั้งใจเดินมาก ไม่แม้จะเดินชมธรรมชาติเลยเพราะมันเหนื่อยและร้อนมากค่ะ
    มาถึงจุดพักกางเต้นท์แล้ว แต่ยังไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดของดอยหลวงเชียงดาวนะ แต่เราเดินมาเร็วมากเลยไม่อยากจะคุย แอ่แฮ่!!!
กว่าจะมาถึงที่นี่ต้องแอบหลังก้อนหินใหญ่ ๆ บ้าง นั่งพักทานอาหารที่เตรียมกันมาบ้าง ทุกอย่างอร่อยมากแม้กระทั่งน้ำเปล่า
แต่เราก็เจอปัญหานิดหน่อย เมื่อลูกหาบของเราตามเรามาไม่ทัน และเราต้องรอสัมภาระทั้งหมด
รวมถึงเต้นท์ก็อยู่กับลูกหาบด้วย เราจึงต้องนั่งเล่น นอนเล่นชมวิวไปเรื่อยๆ
และกว่าแก้งค์ลูกหาบของเราจะมาถึง ก็เกือบทำให้เราไม่มีพื้นที่ในการกางเต้นท์ซะแล้ว
ในที่สุดลูกหาบของเราก็มาถึงจนได้ พวกเรารีบช่วยกันกางเต้นท์กันอย่างรวดเร็ว
เพื่อจะได้มีเวลาเหลือพอที่จะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดิน อากาศก็เริ่มเย็นท้องก็เริ่มร้องแล้ว
และแล้วเราก็ไม่ทันพระอาทิตย์ตก เพราะเสียเวลากางเต้นท์อยู่พักใหญ่
จึงต้องปิดฉากการเดินทางด้วยท้องฟ้าสีทองที่กำลังลับขอบฟ้าด้วยภาพนี้ ฉันจะไปกินข้าวไข่เจียวละหิวมาก
เจอกันตอนเช้า..เราจะรีบตื่นไปพบกับก้อนเมฆทะเลหมอกอันอวบอุย

  ค่ำคืนตลอดราตรีนี้แสนทรมานมาก ด้วยอากาศที่เย็นจัด การนอนแบบแนวเอียงทำมุม 30 องศานั้นทรมานพอควร
เราจึงตื่นออกมายืดขานอกเต้นท์ และสิ่งที่เจอคือดาวน้อยระยิบระยับบนทองฟ้า แต่เราไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อเก็บความทรงจำนี้ไว้ได้
เพราะอากาศที่เย็นจัด+กล้องก็ชื้นไปด้วยน้ำค้าง ทำได้แค่เพียงบันทึกภาพไว้ด้วยสายตา แล้วรีบมุดกลับเข้าไปในเต้นท์ด้วยรอยยิ้มเบา ๆ
เช้าวันใหม่บนยอดดอยหลวง อากาศเย็นควันออกปาก กาแฟยามเช้าถือเป็นสวรรค์ของคนง่วงนอนให้ได้กระปรี่กระเป่า
พร้อมลุยปีนป่ายอีกครั้งเพื่อจุดสูงสุดที่เรากำลังตามหา...แดดมาไวมาก (ทะเลหมอกหายเฉย) แต่วิวแบบพาโนราม่าคือสวยจับตาค่ะ
    หลังจากเก็บภาพและบันทึกความประทับใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องรีบมาทานอาหารและเก็บสัมภาระ
พร้อมเดินทางลงจากดอยหลวงนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนจะฟ้ามืดซะก่อน เพราะคืนนี้เราจะต้องรีบลงไปแช่น้ำแร่กันที่ดอยสะเก็ดนะฮะ
หลังจากเมื่อยล้าสะสมกันมาตั้งแต่เมื่อวาน สวรรค์รอเราอยู่ข้างหน้าละนะ รีบเดินกันเร็ว ฮึ๊บๆๆ...

ขาลงนี่แบบว่าอย่างไว เดินไปเก็บขยะไปด้วย สงสารป่าไม้จริงๆ (เที่ยวธรรมชาติไม่ทำลายธรรมชาตินะคะ) ขยะเต็มเป๋ละเนี่ยะ...
ก่อนออกเดินทางไปแช่น้ำแร่..สิ่งที่ว่าสวรรค์ไม่ใช่สิ่งใดนอกจากน้ำกระป๋องแดงเย็นชื่นใจ จัดไปหลายเฮือกเลยจ๊ะ...ฟินนนนน...
เมื่อสมาชิกมาพร้อมแล้ว เราก็ออกเดินทางและแอบแวะ “ระเบียงดาว” สักเล็กหน่อย ซึ่งที่นี่เราเคยมาเที่ยวพักนอนค้างกันมาแล้วเมื่อปีก่อน
เพียงไม่กี่ปีที่นี่เติบโตจนมีห้องพักต่อยาวเรียงราวเยอะเลย ต่อไปอีก 5-10 ปีจะเป็นไงหละเนี่ยะ?
    มาถึงแล้วบ่อน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด มีทั้งบ่อแช่เท้า แช่ตัวแบบกลางแจ้ง บ่อต้มไข่ก็มีด้วยนะ
หรืออยากส่วนตัวที่นี่ก็มีเป็นห้องอาบน้ำให้ด้วย ซึ่งเค้าจะต่อท่อน้ำแร่เข้ามาในห้องเลยค่ะ
เราไม่ได้อาบน้ำมา 2 วัน น้ำพุร้อนกับอากาศหนาวเย็นแบบนี้มันช่างดีงามเสียจริง 55+

    หลังจากผ่อนคลายสบายอารมณ์แล้ว ท้องก็ร้องตามระเบียบ เราแวะข้างทางหาไรกินก่อนเข้าที่พัก
เราพักกันที่โฮมสเตย์เฮือนแม่ธัญญา อ.ดอยสะเก็ด
จากน้ำพุร้อนขับย้อนมาประมาณ 500 เมตร จะเจอกับป้ายทางเข้า ให้เลี้ยวเข้าซอยไปอีก 300 เมตรก็ถึงที่พักค่ะ
    ก่อนจะลากลับพวกเรามาพักชิมกาแฟบนบ้านต้นไม้ “The Giant Chiangmai” กันก่อน
คนเยอะเวอร์..ที่พักที่นี่ก็ราคาสูงนิดหน่อยนะ แต่ถ้าคิดว่าซื้อวิวก็น่าจะคุ้มอยู่ค่ะ เพราะบรรยากาศเค้าดีจริงๆ    
ทริปนี้ถือว่าคุ้มกับความเหนื่อยอยู่นะ
ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน กำลังดีสำหรับคนเวลาน้อย และอยากมาสัมผัสกับความงามตามธรรมชาติ
- ขอบคุณที่รับชมนะคะ -
ชื่อสินค้า:   ดอยหลวงเชียงดาว 10-12 ธันวาคม 2559
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่