ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะมีอาการหลงลืม อันเนื่องมาจากความสามารถในการทำงานของสมองที่ลดลง
แต่หากอาการหลงลืมที่เกิดขึ้น เริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัลไซเมอร์ในระยะแรกเริ่มได้

โรคอัลไซเมอร์ หรือ โรคสมองเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของสมองโดยตรง มักพบในผู้สูงอายุ
ส่งผลต่อการใช้ชีวิตหรือการทำกิจวัตรประจำวัน ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย หรือ ไม่ได้เลย ทำให้ต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้ "10 สัญญาณเตือน โรคอัลไซเมอร์ "
10 อาการของที่อาจจะสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์
1. ความจำถดถอย ผู้สูงอายุที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์ในระยะแรก จะไม่สามารถจดจำข้อมูลใหม่ๆ ที่เพิ่งได้รับ
โดยมักจะลืมเหตุการณ์สำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้น เช่น งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคนในครอบครัว ทริปท่องเที่ยว
หรือจำชื่อคนรู้จักไม่ได้ ลืมนัดหมายสำคัญ รวมถึงการมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ มักถามคำถามเดิมซ้ำๆ เนื่องจากลืมว่าเคยถามไปแล้ว
2. การทำกิจวัตรที่คุ้นเคยมีความยากลำบากมากขึ้น
ผู้ที่เริ่มเป็นอัลไซเมอร์มักใช้เวลาในการทำกิจวัตรประจำวันที่คุ้นเคยนานขึ้น
เช่น การรับประทานอาหาร การอาบน้ำ การแต่งตัว เป็นต้น และไม่สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ
ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถจัดเตรียมมื้ออาหาร เนื่องจากลืมขั้นตอนวิธีการปรุงอาหาร
ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เพื่อโทรออกได้ และในบางครั้งก็ไม่สามารถย้อนนึกกลับไปว่าตัวเองเข้ามาในห้องเพื่อทำสิ่งใด
3. มีปัญหาด้านการสื่อสาร
เนื่องจากสมองมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง การเรียบเรียงคำพูดและการสร้างประโยคจึงเป็นเรื่องยากมากขึ้น
ผู้ที่มีอาการอัลไซเมอร์มักจะลืมคำพูดที่ต้องการสื่อสาร ทำให้ต้องหยุดพูดระหว่างการสนทนา
หรืออาจใช้คำผิดความหมายที่ยากต่อการเข้าใจ และเรียกชื่อสิ่งของไม่ถูกต้อง
4. สับสนเรื่องเวลาและสถานที่
ผู้ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์จะสับสนเรื่องเวลาและสถานที่ จนหลายครั้งมักจะหลงทางในพื้นที่ที่คุ้นเคย
และเดินออกจากบ้านไปโดยไม่มีจุดหมาย และลืมว่าเดินทางไปสถานที่นั้นๆ ได้อย่างไร
ทำให้หาทางกลับบ้านเองไม่ได้ นอกจากนี้ยังลืมวันเวลา ลืมว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ เป็นวันอะไรของสัปดาห์
5. ตัดสินใจผิดพลาด ไม่อิงตามความเป็นจริง
โรคอัลไซเมอร์ทำให้ผู้ป่วยไม่อยู่กับความเป็นจริงและมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในหลายๆ เรื่อง
เช่น ผู้ป่วยอาจแต่งตัวไม่เหมาะสม ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าหนาหลายชั้นในวันที่อากาศร้อน
หรือสวมใส่เสื้อผ้าบางในวันที่อากาศหนาว ไปจนถึงการให้เงินผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล
6. ไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้
ผู้ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้ ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมที่ใช้ความคิดซับซ้อน
เช่น การคิดเลข การตีความ และการอ่านหนังสือ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้
7. ลืมของไว้ผิดที่และไม่สามารถนึกย้อนไปจัดลำดับเหตุการณ์ได้
ผู้ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้ ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมที่ใช้ความคิดซับซ้อน
เช่น การคิดเลข การตีความ และการอ่านหนังสือ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้
8. อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมและก้าวร้าวมากขึ้น เนื่องจากโรคอัลไซเมอร์มีผลกระทบต่อสภาวะอารมณ์
ทำให้หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน โดยสามารถเปลี่ยนจากอารมณ์ดี เป็นการร้องไห้ได้โดยไม่มีเหตุผล
รู้สึกโกรธ มีอาการสับสน ซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดระแวงคนรอบข้างและคนในครอบครัว และรู้สึกเศร้าเสียใจในบางครั้ง
9. มีปัญหาด้านการมองเห็นและสูญเสียการรับรู้ตำแหน่งของวัตถุ
ผู้ป่วยมักจะมีปัญหาด้านการมองเห็น ทำให้ไม่สามารถอ่านหนังสือและอ่านตัวเลขได้ รวมถึง ไม่สามารถกะระยะทาง
และรับรู้ความแตกต่างของสี หรือมองเห็นสีเปลี่ยนไป ทำให้มีปัญหาในการขับขี่ยานพาหนะและไม่สามารถปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง
10. เก็บตัวและไม่อยากพบเจอผู้คน
ผู้ป่วยมักจะปลีกตัวออกจากสังคมรอบข้าง กลายเป็นคนเก็บตัว และไม่อยากพบปะเพื่อนฝูง
รวมถึงหมดความสนใจในงานอดิเรกที่เคยชื่นชอบ เช่น การเล่นกีฬา การเข้างานสังคม
โดยผู้ป่วยจะต้องการอยู่เฉยๆ และใช้เวลาไปกับการดูทีวีหรือการนอนหลับที่มากผิดปกติ
วิธีพัฒนาสมอง ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
คนไข้ควรหมั่นฝึกทักษะ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น อ่านหนังสือ ทำอาหาร ออกไปท่องเที่ยว พูดคุยกับคน
มีกิจกรรมทางสังคม เช่น ออกเจอเพื่อน กินข้าวกับครอบครัว
ลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมผ่อนคลายสมองทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง คุยกับคนอื่น
ทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสมองทั้งสองซีก เช่น เล่นเกม ที่ฝึกทักษะในการคำนวณ การจำ หรือเล่นดนตรี
ทำงานอดิเรกที่ช่วยเพิ่มทักษะ และสร้างสมาธิไปด้วยในคราวเดียวกัน เช่น วาดรูป งานปั้น งานช่าง ถักนิตติ้ง หรืองานประดิษฐ์
ออกกำลังกาย เช่น เดินเร็ว วิ่ง แบดมินตัน ฟิตเนส หรือโยคะ

หมั่นตรวจเช็คสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือปัจจัยเสี่ยง
เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ต้องควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดูแลสุขภาพใจ หาเพื่อน ไม่เครียด ทำจิตใจให้เบิกบาน
ความรู้เพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=ujD5XzB9DAM
10 สัญญาณเตือน โรคอัลไซเมอร์
แต่หากอาการหลงลืมที่เกิดขึ้น เริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัลไซเมอร์ในระยะแรกเริ่มได้
โรคอัลไซเมอร์ หรือ โรคสมองเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของสมองโดยตรง มักพบในผู้สูงอายุ
ส่งผลต่อการใช้ชีวิตหรือการทำกิจวัตรประจำวัน ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย หรือ ไม่ได้เลย ทำให้ต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันนี้พี่หมอฝั่งธน...จะมาให้ความรู้ "10 สัญญาณเตือน โรคอัลไซเมอร์ "
1. ความจำถดถอย ผู้สูงอายุที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์ในระยะแรก จะไม่สามารถจดจำข้อมูลใหม่ๆ ที่เพิ่งได้รับ
โดยมักจะลืมเหตุการณ์สำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้น เช่น งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคนในครอบครัว ทริปท่องเที่ยว
หรือจำชื่อคนรู้จักไม่ได้ ลืมนัดหมายสำคัญ รวมถึงการมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ มักถามคำถามเดิมซ้ำๆ เนื่องจากลืมว่าเคยถามไปแล้ว
2. การทำกิจวัตรที่คุ้นเคยมีความยากลำบากมากขึ้น
ผู้ที่เริ่มเป็นอัลไซเมอร์มักใช้เวลาในการทำกิจวัตรประจำวันที่คุ้นเคยนานขึ้น
เช่น การรับประทานอาหาร การอาบน้ำ การแต่งตัว เป็นต้น และไม่สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ
ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถจัดเตรียมมื้ออาหาร เนื่องจากลืมขั้นตอนวิธีการปรุงอาหาร
ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เพื่อโทรออกได้ และในบางครั้งก็ไม่สามารถย้อนนึกกลับไปว่าตัวเองเข้ามาในห้องเพื่อทำสิ่งใด
3. มีปัญหาด้านการสื่อสาร
เนื่องจากสมองมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง การเรียบเรียงคำพูดและการสร้างประโยคจึงเป็นเรื่องยากมากขึ้น
ผู้ที่มีอาการอัลไซเมอร์มักจะลืมคำพูดที่ต้องการสื่อสาร ทำให้ต้องหยุดพูดระหว่างการสนทนา
หรืออาจใช้คำผิดความหมายที่ยากต่อการเข้าใจ และเรียกชื่อสิ่งของไม่ถูกต้อง
4. สับสนเรื่องเวลาและสถานที่
ผู้ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์จะสับสนเรื่องเวลาและสถานที่ จนหลายครั้งมักจะหลงทางในพื้นที่ที่คุ้นเคย
และเดินออกจากบ้านไปโดยไม่มีจุดหมาย และลืมว่าเดินทางไปสถานที่นั้นๆ ได้อย่างไร
ทำให้หาทางกลับบ้านเองไม่ได้ นอกจากนี้ยังลืมวันเวลา ลืมว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ เป็นวันอะไรของสัปดาห์
5. ตัดสินใจผิดพลาด ไม่อิงตามความเป็นจริง
โรคอัลไซเมอร์ทำให้ผู้ป่วยไม่อยู่กับความเป็นจริงและมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในหลายๆ เรื่อง
เช่น ผู้ป่วยอาจแต่งตัวไม่เหมาะสม ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าหนาหลายชั้นในวันที่อากาศร้อน
หรือสวมใส่เสื้อผ้าบางในวันที่อากาศหนาว ไปจนถึงการให้เงินผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล
6. ไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้
ผู้ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้ ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมที่ใช้ความคิดซับซ้อน
เช่น การคิดเลข การตีความ และการอ่านหนังสือ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้
7. ลืมของไว้ผิดที่และไม่สามารถนึกย้อนไปจัดลำดับเหตุการณ์ได้
ผู้ที่มีอาการของโรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถคิดเชิงนามธรรมได้ ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมที่ใช้ความคิดซับซ้อน
เช่น การคิดเลข การตีความ และการอ่านหนังสือ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้
8. อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมและก้าวร้าวมากขึ้น เนื่องจากโรคอัลไซเมอร์มีผลกระทบต่อสภาวะอารมณ์
ทำให้หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน โดยสามารถเปลี่ยนจากอารมณ์ดี เป็นการร้องไห้ได้โดยไม่มีเหตุผล
รู้สึกโกรธ มีอาการสับสน ซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดระแวงคนรอบข้างและคนในครอบครัว และรู้สึกเศร้าเสียใจในบางครั้ง
9. มีปัญหาด้านการมองเห็นและสูญเสียการรับรู้ตำแหน่งของวัตถุ
ผู้ป่วยมักจะมีปัญหาด้านการมองเห็น ทำให้ไม่สามารถอ่านหนังสือและอ่านตัวเลขได้ รวมถึง ไม่สามารถกะระยะทาง
และรับรู้ความแตกต่างของสี หรือมองเห็นสีเปลี่ยนไป ทำให้มีปัญหาในการขับขี่ยานพาหนะและไม่สามารถปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง
10. เก็บตัวและไม่อยากพบเจอผู้คน
ผู้ป่วยมักจะปลีกตัวออกจากสังคมรอบข้าง กลายเป็นคนเก็บตัว และไม่อยากพบปะเพื่อนฝูง
รวมถึงหมดความสนใจในงานอดิเรกที่เคยชื่นชอบ เช่น การเล่นกีฬา การเข้างานสังคม
โดยผู้ป่วยจะต้องการอยู่เฉยๆ และใช้เวลาไปกับการดูทีวีหรือการนอนหลับที่มากผิดปกติ
คนไข้ควรหมั่นฝึกทักษะ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น อ่านหนังสือ ทำอาหาร ออกไปท่องเที่ยว พูดคุยกับคน
มีกิจกรรมทางสังคม เช่น ออกเจอเพื่อน กินข้าวกับครอบครัว
ลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมผ่อนคลายสมองทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง คุยกับคนอื่น
ทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสมองทั้งสองซีก เช่น เล่นเกม ที่ฝึกทักษะในการคำนวณ การจำ หรือเล่นดนตรี
ทำงานอดิเรกที่ช่วยเพิ่มทักษะ และสร้างสมาธิไปด้วยในคราวเดียวกัน เช่น วาดรูป งานปั้น งานช่าง ถักนิตติ้ง หรืองานประดิษฐ์
ออกกำลังกาย เช่น เดินเร็ว วิ่ง แบดมินตัน ฟิตเนส หรือโยคะ
เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ต้องควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดูแลสุขภาพใจ หาเพื่อน ไม่เครียด ทำจิตใจให้เบิกบาน
ความรู้เพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=ujD5XzB9DAM