ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา Priceza Money มีการเก็บข้อมูลของรถยนต์ไฟฟ้า และ รถยนต์ EV มาโดยตลอดครับ หรือจะเป็นลูกค้าของ Priceza Money ทักเข้ามาปรึกษาเองก็ตาม
Priceza Money เลยคิดว่าช่วงนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะมาเขียนเล่าถึง “ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV” ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาและคำถามในหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ราคาประกันรถยนต์ไฟฟ้า และ แนวโน้มในอนาคตของประกันรถยนต์ไฟฟ้า ครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังทีละส่วนเลยครับ
ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงจริงไหม?
หลายๆคนอาจจะยังมีข้อกังขาว่า ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงจริงไหม? หรือเป็นเพียงแค่มโนภาพของคนที่ไม่เคยใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV มาก่อนกันแน่
วันนี้ Priceza Money นำข้อมูล ราคาประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า VS ราคาประกันภัยรถยนต์น้ำมัน มาให้ดูแบบง่ายๆครับ

-แถวบนคือราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ HONDA CR-V เปรียบเทียบกับ BYD ATTO 3 จากบริษัทธนชาตประกันภัย
-แถวล่างคือราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ VOLVO XC40 PHEV เปรียบเทียบกับ VOLVO XC40 EV จากบริษัทAXAประกันภัย
จะเห็นว่าไม่ว่าจะเทียบกันในแง่มุมไหน ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV ก็ยังมีราคาที่สูงกว่ารถยนต์น้ำมัน หรือ รถยนต์ไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน อยู่พอสมควรครับ
ทำไมประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงแพง?
เหตุผลที่ทำให้ประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2023 ยังมีราคาแพงอยู่ มีดังนี้ครับ
1. รถยนต์ไฟฟ้าในไทย 'มีน้อย'
จากสถิติของรถยนต์น้ำมันเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน คือ
-รถยนต์น้ำมัน 43,707,609 คัน
-รถยนต์ไฟฟ้า 53,091 คัน
เท่ากับ
รถยนต์ไฟฟ้า EV คิดเป็นเพียง 0.12% จากรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทยครับ
2. ค่าแรงและค่าซ่อมที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
เนื่องจากการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันจะต้องเป็น การซ่อมผ่านศูนย์หลักของผู้ให้บริการเท่านั้น หมายความว่าส่วนใหญ่ประกันรถยนต์ไฟฟ้า จะทำประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์ได้อย่างเดียวเท่านั้นครับ ก็เป็นอีกส่วนนึงที่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีทางเลือกในการได้ประกันรถยนต์ที่ราคาถูกลงมาอย่าง ประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ ครับ
3. ความพร้อมในการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
ความพร้อมในการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันเองก็มีผลต่อราคาประกันเช่นกันครับ จะสังเกตจากข่าวที่ผ่านๆมาได้เลยครับ ทั้งกรณีของ ORA GOOD CAT และ BYD ATTO 3 ที่ทุกๆคนเห็นว่าแค่ แบตเตอรี่เกิดรอยถลอกที่ขอบ ค่าซ่อมก็พุ่งสูงถึง หลักแสน-หลักล้าน เลยทีเดียว
นั่นเพราะเหตุผลว่าค่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ยังไม่ได้มีการถ่ายโอนความรู้ในการซ่อมระบบภายในของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียดมากพอครับ ในปัจจุบันจึงเป็นการเน้นเปลี่ยนอะไหล่ มากกว่าที่จะซ่อม ซึ่งการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่แน่นอนว่าแพงกว่าการซ่อมอยู่แล้วนั่นเองครับ
บริษัทประกันรถยนต์จึงต้อง ตั้งราคาประกันรถยนต์ให้สูงกว่าปกติ เนื่องจากความเสี่ยงในการจ่ายค่าซ่อมที่มากกว่าปกติเช่นกันครับ
4. จำนวนอะไหล่ที่น้อยลงในรถ EV
ชิ้นส่วนภายในของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ชิ้นส่วนหลักๆ มีอยู่แค่ประมาณ 6-7 ชิ้นเท่านั้นเองครับ เปรียบเทียบกับ ชิ้นส่วนของรถยนต์น้ำมันที่มีเป็นหลักร้อยชิ้นทำให้การซ่อมบำรุงเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเมื่อชนเข้ากับชิ้นส่วนสำคัญก็อาจจะทำให้ต้องเปลี่ยนยกชิ้น ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น อย่างเช่น แบตเตอรี่ เป็นต้นครับ
แนวโน้มประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ สายรถ EV ต้องห้ามพลาด!
Priceza Money เลยคิดว่าช่วงนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะมาเขียนเล่าถึง “ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV” ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาและคำถามในหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ราคาประกันรถยนต์ไฟฟ้า และ แนวโน้มในอนาคตของประกันรถยนต์ไฟฟ้า ครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังทีละส่วนเลยครับ
ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงจริงไหม?
หลายๆคนอาจจะยังมีข้อกังขาว่า ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงจริงไหม? หรือเป็นเพียงแค่มโนภาพของคนที่ไม่เคยใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV มาก่อนกันแน่
วันนี้ Priceza Money นำข้อมูล ราคาประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า VS ราคาประกันภัยรถยนต์น้ำมัน มาให้ดูแบบง่ายๆครับ
-แถวบนคือราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ HONDA CR-V เปรียบเทียบกับ BYD ATTO 3 จากบริษัทธนชาตประกันภัย
-แถวล่างคือราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ VOLVO XC40 PHEV เปรียบเทียบกับ VOLVO XC40 EV จากบริษัทAXAประกันภัย
จะเห็นว่าไม่ว่าจะเทียบกันในแง่มุมไหน ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV ก็ยังมีราคาที่สูงกว่ารถยนต์น้ำมัน หรือ รถยนต์ไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน อยู่พอสมควรครับ
ทำไมประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงแพง?
เหตุผลที่ทำให้ประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2023 ยังมีราคาแพงอยู่ มีดังนี้ครับ
1. รถยนต์ไฟฟ้าในไทย 'มีน้อย'
จากสถิติของรถยนต์น้ำมันเปรียบเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน คือ
-รถยนต์น้ำมัน 43,707,609 คัน
-รถยนต์ไฟฟ้า 53,091 คัน
เท่ากับ รถยนต์ไฟฟ้า EV คิดเป็นเพียง 0.12% จากรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทยครับ
2. ค่าแรงและค่าซ่อมที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
เนื่องจากการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันจะต้องเป็น การซ่อมผ่านศูนย์หลักของผู้ให้บริการเท่านั้น หมายความว่าส่วนใหญ่ประกันรถยนต์ไฟฟ้า จะทำประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์ได้อย่างเดียวเท่านั้นครับ ก็เป็นอีกส่วนนึงที่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีทางเลือกในการได้ประกันรถยนต์ที่ราคาถูกลงมาอย่าง ประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ ครับ
3. ความพร้อมในการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
ความพร้อมในการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันเองก็มีผลต่อราคาประกันเช่นกันครับ จะสังเกตจากข่าวที่ผ่านๆมาได้เลยครับ ทั้งกรณีของ ORA GOOD CAT และ BYD ATTO 3 ที่ทุกๆคนเห็นว่าแค่ แบตเตอรี่เกิดรอยถลอกที่ขอบ ค่าซ่อมก็พุ่งสูงถึง หลักแสน-หลักล้าน เลยทีเดียว
นั่นเพราะเหตุผลว่าค่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ยังไม่ได้มีการถ่ายโอนความรู้ในการซ่อมระบบภายในของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียดมากพอครับ ในปัจจุบันจึงเป็นการเน้นเปลี่ยนอะไหล่ มากกว่าที่จะซ่อม ซึ่งการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่แน่นอนว่าแพงกว่าการซ่อมอยู่แล้วนั่นเองครับ
บริษัทประกันรถยนต์จึงต้อง ตั้งราคาประกันรถยนต์ให้สูงกว่าปกติ เนื่องจากความเสี่ยงในการจ่ายค่าซ่อมที่มากกว่าปกติเช่นกันครับ
4. จำนวนอะไหล่ที่น้อยลงในรถ EV
ชิ้นส่วนภายในของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ชิ้นส่วนหลักๆ มีอยู่แค่ประมาณ 6-7 ชิ้นเท่านั้นเองครับ เปรียบเทียบกับ ชิ้นส่วนของรถยนต์น้ำมันที่มีเป็นหลักร้อยชิ้นทำให้การซ่อมบำรุงเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเมื่อชนเข้ากับชิ้นส่วนสำคัญก็อาจจะทำให้ต้องเปลี่ยนยกชิ้น ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น อย่างเช่น แบตเตอรี่ เป็นต้นครับ