เมื่อโดนเข้าใจผิดโดยที่เราไม่ได้ผิด จนทำให้เค้าอาจจะเกลียดเราไปเลยก็ได้ เพื่อนๆแก้ไขหรือจัดการกับความรู้สึกยังไงบ้างคะ

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า เราเปิดร้านอาหารอยู่ แล้วมีความต้องการที่จะนำไอศครีมบุฟเฟต์เข้ามาขาย แล้วก่อนที่จะนำเข้ามาขาย เราได้เช็คร้านอาหารแถวบ้านแล้ว ว่าไม่มีแบรนด์ที่ซ้ำกับที่เราจะนำมาขาย เพราะพวกเราเป็นเพื่อนบ้านและผู้ซื้อผู้ขายที่ดีต่อกันมานาน เราไม่อยากผิดใจกับพวกเขาอยู่แล้ว
          ปัญหาคือ เราไปอุดหนุนของหวานร้านนึงแถวบ้าน 3 ครั้ง เป็นการซื้อแบบเทคอะเวย์ทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งเป็นร้านเปิดใหม่ เจ้าของร้านกับเราก็รู้จักกันมานานมาก มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด ร้านเราและกับร้านเค้าต่างอุดหนุนกันและกัน ไม่ใช่แค่ร้านนี้ ร้านอื่นๆแถวบ้านเราก็ทำแบบนี้
          ตอนที่เราเข้าไปซื้อครั้งแรกนั้น เราซื้อของหวานและเครื่องดื่ม เราเห็นตู้ไอศครีมนะแต่ไม่ได้สนใจยี่ห้ออะไร ครั้งที่สอง เราซื้อของหวานและไอศครีมสองลูก แล้วก็ไม่ได้สนใจอีกเช่นกันว่าไอศครีมยี่ห้ออะไร ตอนนั้นเราไม่ได้มีความคิดอยากขายไอศครีมเลย เราก็เลยไม่ได้สนใจว่าเขาขายแบรนด์อะไร จำได้ผ่านๆคือตู้ไอศครีมสีออกทึบๆ น้ำเงินหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ ณ เวลานั้นเราคิดว่าน่าจะเป็นฮาเก้นดาสซะด้วยซ้ำ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าตู้ฮาเก้นดาสสีอะไร แต่คิดว่าร้านนี้คงเอาของแพงมาขาย อย่างที่บอก เราไม่ได้สนใจแบรรด์ถูกหรือแพง แค่อยากกินสักลูกสองลูกเท่านั้น แต่พอผ่านไประยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน เรามีความคิดที่จะเปลี่ยนรูปแบบของร้าน เลยนำไอศครีมเข้ามาขาย แต่จะต่างจากร้านอื่นแถวบ้าน เพราะพวกเขาขายเป็นสคูป, บิงซู, วาฟเฟิล อะไรประมาณนี้ แล้วเราก็ไม่ได้อยากทำเหมือนพวกเขาอยู่แล้ว แต่เราจะขายเป็นบุฟเฟต์แทน ก่อนนำยี่ห้อนี้เข้ามาขาย เราได้เช็คร้านค้าแถวบ้านแล้ว มีเนสเล่ วอลล์ และร้านที่เรากล่าวถึง (ตู้สีออกทึบๆ น้ำเงิน) สรุปเรานำไอศครีม Iscoop ของเอเต้มาขาย ซึ่งยี่ห้อนี้เราจำได้ดี เพราะกินบุฟเฟต์บ่อย ตู้สีชมพู สีสันสดใส ต่างจากร้านเปิดใหม่นั้นแน่นอน มั่นใจมากว่าคนละยี่ห้อกัน มาถึงตอนนี้เรารับไอศครีม Iscoop มาขายแล้ว และเราก็ไปอุดหนุนเป็นครั้งที่สาม ตอนที่เราเดินเข้าไปในร้าน เรามีความรู้สึกว่า ทำไมลูกเจ้าของร้านมองเราแปลกๆ ไม่ยิ้มแย้มทักทายเหมือนครั้งก่อนๆ หรือเป็นเพราะเราใส่หน้ากากเลยจำเราไม่ได้หรือเปล่าก็ไม่ได้คิดอะไร แต่รอบนี้เราตั้งใจดูเลยว่าเขาขายยี่ห้ออะไร จากเดิมที่เราเข้าใจว่าตู้ไอศครีมสีน้ำเงินที่จริงคือสีน้ำตาลเข้ม จนตาเราเหลือบไปอ่านยี่ห้อมันคือ เอเต้!!! คือเราตกใจมากกก เราแทบช็อคไปเลยตอนนั้น รับอาหารเสร็จเราก็เลยกลับไปตั้งสติที่บ้านปรึกษาคนที่บ้าน อย่างแรกคือรีบกลับไปขอโทษเขาซึ่งก็เจอลูกเจ้าของร้านซึ่งเป็นรุ่นน้องเราซึ่งหน้านางตอนนั้นคือไม่หือไม่อือใดๆ เราพูดประมาณว่า “พี่ขอโทษนะคะ พี่ไม่รู้ว่าน้องขายของเอเต้อยู่ เซลล์ไปขายที่ร้านพี่ พี่ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ฝากบอกแม่ด้วยนะคะว่าพี่ขอโทษ” เค้าพยักหน้ารับแบบหัวแทบจะไม่ขยับ จำได้ว่าพูดขอโทษอยู่สามรอบ เราสนิทกับแม่ของเขามากกว่า ตอนนั้นอยากคุยกับแม่เขาไม่ใช่ลูก แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก แล้วอยากรีบออกไปจากร้านเขาด้วยเพราะรู้สึกกดดันจากน้องเขารวมถึงพนักงาน
          ตอนที่ร้านนี้ทำบุญเปิดร้านใหม่ ได้มาสั่งอาหารร้านเราถวายเพลพระ, นิมนต์พระน้องชายแท้ๆของเรามาร่วมทำบุญ และเมื่อเสร็จงานบุญยังพาญาติพี่น้องเขามากินอาหารที่ร้านเราอีก หลังจากเปิดร้านก็ยังมาอุดหนุนเราอยู่เรื่อยๆ แต่พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกแย่แทบจะที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ครอบครัวเขาคงเกลียดครอบครัวเราไปแล้วแน่เลย
          ตอนนั้นเราตกใจมากจนลืมไปว่าเรามีเบอร์ของแม่เจ้าของร้าน เลยรีบโทรไปขอโทษและเล่าเรื่องราวต่างๆ เค้าบอกว่าไม่เป็นไรค่ะน้อง……(ชื่อเรา) แต่ความจริงเค้าจะคิดยังไงก็ไม่รู้นะ
          อยากถามเพื่อนๆว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับเพื่อนๆ เพื่อนๆ จะจัดการกับความรู้สึกแย่ๆนี้ยังไง ?
หรือถ้าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ช่วยแชร์หน่อยได้มั๊ยคะ เราจะได้ไม่รู้สึกว่ามีแต่เราที่เจอเหตุการณ์บ้าๆแบบนี้อยู่คนเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่