JJNY : เศรษฐาลั่นไม่คิดสูตร│อ.จุฬาฯชี้ศรีแยกไม่ออก│หุ้นดิ่งแรงหวั่นตัวเลขศก.อ่อนแอ│ผู้นำวากเนอร์อยู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เศรษฐา ลั่นไม่คิดสูตร เป็นนายกฯก๊อก 2 ถ้าพิธาไม่ผ่านส.ว. ย้ำพท.-ก้าวไกล จับมือแน่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4066547
 
 
‘เศรษฐา’ ย้ำ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ตัวติดกัน ยังจับมือกันอยู่ ลั่น ยังไม่คิดนายกฯ ก๊อก 2 หลัง ส.ว.ประกาศจะหนุน พท.
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีการเตรียมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ท่าทีของ ส.ว.ก็ชัดเจนว่าไม่สนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าตนไม่แน่ใจว่าชัดเจนขนาดไหน แต่นายพิธาก็บอกว่าน่าจะรวบรวมได้ 376 เสียง ก็เป็นกำลังใจให้ และมั่นใจว่าพรรค พท.เราไม่แตกแถว
 
เมื่อถามว่า มีเสียงออกมาชัดเจนว่าไม่สนับสนุนนายพิธา แต่หากเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรค พท.ก็พร้อมที่จะสนับสนุน นายเศรษฐากล่าวว่า “ยินดีครับ จริงๆ แล้ว 8 พรรคเราก็มี 312 เสียง ก็ต้องการอีกแค่ 64 เสียง ก็น่าจะผ่านได้ ซึ่งก็ยังมีความหวังและยังมั่นใจ ย้ำว่านายพิธาก็มั่นใจว่าจะได้ 376 เสียง
 
เมื่อถามว่า ส.ว.ควรที่จะยึดหลักการหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้บอกว่า ยึดหลักการที่ใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ขณะนี้ก็มี ส.ว.หลายคนออกมาบอกชัดเจนว่ามีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 ที่ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาได้ นายเศรษฐากล่าวว่า มี ส.ว.หลายคนออกมาให้ความเห็น แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่ออกความเห็น ซึ่งเชื่อว่าวันที่มีการโหวตกันเขาน่าจะทำตามฉันทามติของพี่น้องประชาชน
 
เมื่อถามว่า มองว่าหากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ได้ ควรที่จะให้โอกาสอีกครั้งหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตรงนี้ต้องมาดูว่าคะแนนเสียงที่ได้เป็นอย่างไรบ้าง ตนเชื่อว่าหากคะแนนขาดอยู่เล็กน้อยก็น่าจะมีการให้โอกาสกันบ้าง ส่วนที่หลายคนบอกว่า หากท้ายที่สุดแล้วนายพิธาไม่ได้ แล้วต้องตกมาที่ พท. ตนไม่อยากคิดตรงนั้น เพราะเราอยู่พวกเดียวกัน และต้องโหวตให้กันอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่เหมาะสมหากตนจะคอมเมนต์ไปในแง่อื่น
 
เมื่อถามว่า หากพรรค ก.ก.ยังอยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาลก็จะไม่ได้รับเสียงที่เพียงพอจาก ส.ว. มองว่ามีโอกาสที่พรรค ก.ก.จะยอมสละตัวเองออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าต่อได้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มีการคุยเรื่องที่ ก.ก.จะสละตัวเองออก เราตัวติดกัน เรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และ 8 พรรคก็เซ็นเอ็มโอยูเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นที่บอกว่าเราจะแยกจากกัน ตนไม่เคยได้ยิน
 
ถามย้ำว่า ส.ว.เองก็บอกว่าพร้อมจะสนับสนุนพรรค พท.ภายใต้เงื่อนไขที่พรรค ก.ก.ต้องถอยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเป็นความเห็นของ ส.ว.ท่านเดียวที่พูดมา ซึ่งก็ยังมั่นใจว่า ส.ว.ส่วนใหญ่คงน่าจะให้การสนับสนุนเสียงที่มาจากพี่น้องประชาชน
 
ถามอีกว่า ขณะนี้ ส.ว.ส่วนใหญ่ก็ได้ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจากที่เคยจะโหวตให้นายพิธา ตอนนี้ก็เริ่มลดลง ถือว่าจะเป็นโอกาสดีให้พรรค พท.หรือไม่ นายเศรษฐาย้อนถามกลับว่า โอกาสดีคืออะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว.เห็นว่ามีมาตรา 112 และในเอ็มโอยูที่ออกมาพรรค พท.ก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่แตะมาตรา 112 นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมว่าก็ต้องปฏิบัติตามเอ็มโอยู
 
เมื่อถามว่า หากการโหวตครั้งแรกไม่ผ่านก็ต้องมีครั้งที่ 2 มองว่าต้องมีครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า อย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้นเลย ไปทีละสเต็ปดีกว่า อย่างที่บอกว่าเรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และเราเองก็คุยกันรู้เรื่อง การโหวตประธานสภาก็ผ่านไปได้ด้วยดี การโหวตเลือกนายกฯก็หวังว่าจะจบได้ด้วยดี
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท. ในฐานะว่าที่รองประธานสภา คนที่ 2 ออกมาให้ความเห็นว่าหากโหวตนายกฯครั้งแรกไม่ผ่านจะมีการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ใหม่ ในวันที่ 19 และ 20 กรกฎาคม นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นความเห็นของนายพิเชษฐ์ และการกำหนดวันประชุมเป็นหน้าที่ของประธานสภา และเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนไม่ไปก้าวล่วงตรงนี้
 
ถามย้ำว่า พรรค ก.ก.ควรลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ลงเพื่อให้ได้เสียงสนับสสนุนจาก ส.ว.หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกอย่างเราทำตามเอ็มโอยูที่เซ็นไป ส่วนการจะแก้ไขเอ็มโอยูได้หรือไม่นั้น ตนคิดว่า ณ จุดนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้เพราะเซ็นกันไปแล้ว
 
เมื่อถามว่า จะจับมือกับพรรค ก.ก.ตลอดไปใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ก็จับมือครับ และวันนี้ก็ยังจับมือกันอยู่ ไม่ได้มีอะไรผิดใจกัน และยังมีการประชุมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง



อ.จุฬาฯ ชี้พี่ศรี แยกไม่ออก ร้องศิริกัญญา ไม่ปฏิญาณตน แบบนี้ป.ป.ช.ไร้อำนาจไต่สวน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4066899

อ.จุฬาฯ ชี้พี่ศรี แยกไม่ออก ยื่นศิริกัญญา ไม่ปฏิญาณตน ร้องแบบนี้ ป.ป.ช.ไร้อำนาจไต่สวน 
 
จากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เตรียมยื่นป.ป.ช. ให้ตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ  และ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยอ้างว่า ไม่ปฏิญาณตนในสภา ส่อขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 นั้น
 
ล่าสุด (6 ก.ค.) ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า 

ขยันอีกแล้ว แต่ไม่ถูกต้อง!

เคสที่คุณศรีสุวรรณกำลังจะร้องเรียนเรื่องการปฏิญาณตนของ ส.ส. (ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือ ส.ส.ของพรรคไหนก็ตาม) ตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนั้น ผมเห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะรับไว้พิจารณาไต่สวนครับ
 
คุณศรีสุวรรณอาจยังแยกไม่ออกระหว่าง “การไม่ปฏิญาณตน” (บนเหตุผลหรือเงื่อนไขต่างๆ) กับ “การไม่ปฏิบัติตามคำปฏิญาณตน” ว่าทางรัฐธรรมนูญมีความแตกต่างกันของผลทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องเป็นกรณีหลังเท่านั้นที่ ป.ป.ช. จะมีอำนาจในการรับไว้เพื่อพิจารณาไต่ส่วน
 
ว่าแต่คุณศรีสุวรรณขยันดีนะครับ อย่าลืมช่วยไปตรวจสอบการปฏิญาณตนของ ส.ส.ในวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ครบทั้ง 498 ท่านเลยก็น่าจะดี แต่ย้ำว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจหรอกนะครับ

https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/pfbid02eEhZqrQCpMPD5NNDdNqcmTgPHksukqLbMmtSd7rf4Svk23xREJw3dzvHF5mKWn9cl
 

 
หุ้นดิ่งแรง 18 จุด หวั่นตัวเลขศก.อ่อนแอ-ชะลอลงทุนดูความชัดเจนโหวตนายกฯ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4066801

หุ้นดิ่งแรง 18 จุด หวั่นตัวเลขศก.อ่อนแอ-ชะลอลงทุนดูความชัดเจนโหวตนายกฯ
 
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,508.87 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบที่ระดับ 1,490.46 จุด ปรับลดลง 18.41 จุด หรือ 1.22% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,505.88 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,486.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 45,718.25ล้านบาท
 
โดยนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับตัวลงแรงกว่า 22 จุด ดัชนีอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ 1,500 จุดลงมา เนื่องจากความกังวลถึงตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในจีน ยุโรป และสหรัฐ ที่เปิดเผยออกมาอ่อนแอกว่าคาดไว้ รวมถึงปัจจัยกดดันเฉพาะของไทยยังไม่คลายตัว คือ นักลงทุนยังติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยมีแรงขายนำในกลุ่มหุ้นกลุ่มค้าปลีก พลังงาน และธนาคาร รวมทั้งยังมีความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมปลายปีนี้ เมื่อรวมกับการชะลอลงทุนเพื่อรอดูการโหวตเลือกนายกฯ ในสัปดาห์หน้า ทำให้ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อได้ และให้แนวรับที่ระดับ 1,485 จุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่