ลูกชาย3ขวบของผมป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด
ช่วงที่ผ่านมาเลยอ่านหนังสือเกี่ยวกับโรคนี้และก็เห็นกลุ่มในเฟซบุ๊คเกี่ยวกับโรคหอบหืด เลยเข้าไปเป็นสมาชิกครับ เพราะคาดหวังว่าข้างในจะได้อ่านประสบการณ์หรือคำแนะนำจากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านอื่น
แต่พบว่าโพสต์ในกลุ่มส่วนมาก กลายเป็นการนำยาที่ตัวเองได้มาจากโรงพยาบาลมาขายต่อ ที่ผมเห็นคือยาพ่นรักษาอาการหอบ ยาทานควบคุมอาการ และยาละลายเสมหะจำนวนมาก
ยาพวกนี้มีราคาแพง แต่รัฐบาลก็เอื้อให้สิทธิ30บาทได้ใช้ฟรี โรงพยาบาลเองก็เป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่าย
แต่คนไข้นำมาขายต่อ
อันนี้ควรต้องมองมุมไหนเหรอครับ
-จะมองในมุมว่าคนไข้ที่เป็นหอบหืดต้องใช้ยาจริงๆ ซื้อยาจากคนพวกนี้ทางเฟซบุ๊คได้โดยไม่ต้องไปนั่งรอที่โรงพยาบาลเป็นวันๆ
*แต่ยามีหลายโดสนะครับ บรรจุภัณฑ์คล้ายกัน คนไข้อาจได้ยาปิดขนาด และการไม่ไปหาหมอก็จะทำให้ไม่ได้ตรวจติดตามอาการ
-หรือต้องมองว่าเป็นรายได้เสริมของกลุ่มคนที่*รับสมอ้างว่ามีอาการหอบรักษาไม่หายซักที มีหน้าที่ไปรับยาจำนวนมากทุกๆ 3-6 เดือนเพื่อนำมาขายต่อแก่ผู้ที่ไม่อยากจะเสียเวลาไปโรงพยาบาล การไปรับยามาขายต่อให้ถือเป็นการเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของคนอื่น😌
-ส่วนตัวผมไม่ชอบเลยครับ ถ้ายาเหลือควรบอกแพทย์ว่ายายังเหลือ และรับยามาแต่พอดี ถ้ายาไม่ได้ใช้หรือเปลี่ยนโดส นำไปคืนที่โรงพยาบาลก็ได้
**และปกติการขายยาในลักษณะนี้มันก็ผิดกฏหมายนี่ครับ
การขายยาออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตถือว่าผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีข้อกำหนดชัดเจนเรื่องสถานที่ขายยาว่า ต้องไม่ขายนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ตามมาตราที่ 19 เพราะยาไม่ใช่สินค้าทั่วไป การซื้อจึงต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้ปฏิบัติวิชาชีพโดยตรง การขายในอินเทอร์เน็ตจึงเป็นการขายนอกสถานที่ที่อนุญาต ยกเว้นยาสามัญประจำบ้าน ที่ไม่ต้องขออนุญาตขายซึ่งสามารถขายได้ในร้านทั่วไป การขายยาผ่านทางอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ประมาณด้านบนนี้ครับ ผมก็อปปี้มา
ช่วยตอบผมหน่อยครับ🙏 คิดยังไงกับการที่คนไข้สิทธิประกันสุขภาพ (30บาท) นำยาที่ตัวเองได้ฟรีจากโรงพยาบาลมาขายต่อในเฟซบุ๊ค
ช่วงที่ผ่านมาเลยอ่านหนังสือเกี่ยวกับโรคนี้และก็เห็นกลุ่มในเฟซบุ๊คเกี่ยวกับโรคหอบหืด เลยเข้าไปเป็นสมาชิกครับ เพราะคาดหวังว่าข้างในจะได้อ่านประสบการณ์หรือคำแนะนำจากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านอื่น
แต่พบว่าโพสต์ในกลุ่มส่วนมาก กลายเป็นการนำยาที่ตัวเองได้มาจากโรงพยาบาลมาขายต่อ ที่ผมเห็นคือยาพ่นรักษาอาการหอบ ยาทานควบคุมอาการ และยาละลายเสมหะจำนวนมาก
ยาพวกนี้มีราคาแพง แต่รัฐบาลก็เอื้อให้สิทธิ30บาทได้ใช้ฟรี โรงพยาบาลเองก็เป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่าย
แต่คนไข้นำมาขายต่อ
อันนี้ควรต้องมองมุมไหนเหรอครับ
-จะมองในมุมว่าคนไข้ที่เป็นหอบหืดต้องใช้ยาจริงๆ ซื้อยาจากคนพวกนี้ทางเฟซบุ๊คได้โดยไม่ต้องไปนั่งรอที่โรงพยาบาลเป็นวันๆ
*แต่ยามีหลายโดสนะครับ บรรจุภัณฑ์คล้ายกัน คนไข้อาจได้ยาปิดขนาด และการไม่ไปหาหมอก็จะทำให้ไม่ได้ตรวจติดตามอาการ
-หรือต้องมองว่าเป็นรายได้เสริมของกลุ่มคนที่*รับสมอ้างว่ามีอาการหอบรักษาไม่หายซักที มีหน้าที่ไปรับยาจำนวนมากทุกๆ 3-6 เดือนเพื่อนำมาขายต่อแก่ผู้ที่ไม่อยากจะเสียเวลาไปโรงพยาบาล การไปรับยามาขายต่อให้ถือเป็นการเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของคนอื่น😌
-ส่วนตัวผมไม่ชอบเลยครับ ถ้ายาเหลือควรบอกแพทย์ว่ายายังเหลือ และรับยามาแต่พอดี ถ้ายาไม่ได้ใช้หรือเปลี่ยนโดส นำไปคืนที่โรงพยาบาลก็ได้
**และปกติการขายยาในลักษณะนี้มันก็ผิดกฏหมายนี่ครับ
การขายยาออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตถือว่าผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีข้อกำหนดชัดเจนเรื่องสถานที่ขายยาว่า ต้องไม่ขายนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ตามมาตราที่ 19 เพราะยาไม่ใช่สินค้าทั่วไป การซื้อจึงต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้ปฏิบัติวิชาชีพโดยตรง การขายในอินเทอร์เน็ตจึงเป็นการขายนอกสถานที่ที่อนุญาต ยกเว้นยาสามัญประจำบ้าน ที่ไม่ต้องขออนุญาตขายซึ่งสามารถขายได้ในร้านทั่วไป การขายยาผ่านทางอินเทอร์เน็ตผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ประมาณด้านบนนี้ครับ ผมก็อปปี้มา