เผยเอกสารหลุด เกณฑ์ นร.นายสิบจบใหม่เป็น คฝ. หลังเลือกตั้ง เยอะแบบไม่เคยมีมาก่อน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7698781
เผยเอกสารหลุด เกณฑ์ นร.นายสิบจบใหม่เป็น คฝ. หลังเลือกตั้ง เยอะแบบไม่เคยมีมาก่อน
วันที่ 4 มิ.ย.66 เฟซบุ๊กเพจ “
CSI LA” ได้โพสต์เรื่องร้องเรียนของนักเรียนนายสิบที่จบใหม่ แต่กลับได้รับคำสั่งให้ไปลงตำแหน่งควบคุมฝูงชน โดยคำสั่งออกหลังเลือกตั้งได้เพียง 4 วัน โดยระบุว่า
ตำรวจนายสิบที่เพิ่งจบใหม่รู้สึกไม่สบายใจ ที่ตัวเองและเพื่อนๆ ร่วมชั้นถูกเกณฑ์ให้ไปเป็นตำรวจคุมฝูงชน โดยเฉพาะภาคกลางและตะวันออก โดนเกือบทั้งรุ่น เขาเลยตั้งคำถามถามว่าทำไมต้องการ คฝ. เยอะมากหลังเลือกตั้ง
ยุคข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนตื่นรู้แล้ว ยุคสมัยของประเทศอื่นๆ ในโลกก็เปลี่ยนแปลงไป หากจะใช้วิธีเดิมๆ ในอดีต กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และกองกำลังตัวเองยังไม่เอาด้วยแล้ว ผลย่อมออกมาไม่เหมือนเดิม
พร้อมกับโชว์เอกสารที่มีคำสั่งออกมา 4 วัน หลังการเลือกตั้ง หรือในวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรับ คฝ.จากตำรวจทั้ง 9 ภาค และนครบาล มากถึง 2,576 นาย
ซึ่งหนึ่งในนักเรียนนายสิบร้องเรียนมาว่า พวกตนกำลังจะจบเดือน ก.ค.นี้ และจะไปลงสายงานตามโรงพัก แต่นายสิบรุ่นนี้ มีคำจดตั้ง คฝ.เยอะแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เอาเกือบทั้งรุ่น เหลือคนไปลงโรงพักแค่ไม่มีกี่คน ทำให้ลำบากใจกันมาก เพราะตอนสอบเข้ามาตั้งใจจะทำงานเป็นสายตรวจปราบปราม แต่พอจบกลับมีคำสั่งให้ไปเป็น คฝ. อยากให้โครงการนี้ล่ม ฝั่งประชาธิปไตยจะได้รู้ว่าตำรวจกำลังระดมกำลัง ซึ่งเหมือนการมัดมือชก ไม่เป็นธรรมเลย
ส่วนตอนมาสมัครก็ไม่มีเงื่อนไขสัญญาข้อไหนที่บอกว่าต้องมาทำงานในตำแหน่ง คฝ. รวมทั้งจากการลงไปฝึกงานตามโรงพัก ก็รู้ว่าตำรวจโรงพักขาดแคลน อยากถามว่า คฝ.ที่จัดตั้งขึ้นมาเกือบ 500 ในแต่ละจังหวัด ถ้าไม่มีเหตุชุมนุมจะให้ทำอะไร ให้ไปลงตามโรงพักน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า ปกติตำรวจจบใหม่ต้องไปทดแทนในส่วนที่เกษียณหรือลาออกไป แต่รุ่นนี้ไม่มีเลย มองไม่เห็นประโยชน์หรือความจำเป็นสักข้อเดียว จัดตั้งเพื่อประโยชน์ของใครกันแน่
ที่มา :
เฟซบุ๊กเพจ “CSI LA”
“พิธา” มั่นใจตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหา ย้ำพร้อมแจงปมหุ้นสื่อ ปัดตอบเทขายแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7698678
“พิธา” มั่นใจตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหา ย้ำพร้อมแจงปมหุ้นสื่อ ปัดตอบข่าวเทขายหุ้นแล้ว โนคอมเมนต์ จับมือ ส.ส.หลายคน พรรคร่วมเคยโหวต พล.อ.ประยุทธ์ หวั่นผิดพลาด-เป็นเรื่องใหญ่
4 มิ.ย. 66 – ที่ลานกิจกรรมสยามดิสคัฟเวอรี่ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภา ว่า
มีความคืบหน้าเรื่อยๆ โดย วันอังคารที่ 6 มิ.ย. นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน ว่าจะมีทางออกอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะเป็นเรื่องพลังงานเป็นหลัก และจะได้เคาะคณะทำงานเพิ่ม จากนั้นในวันที่ 7 มิ.ย. จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค
ส่วนการเจรจาก็เป็นไปตามที่ได้แถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าใจว่ามีความคืบหน้าพอสมควร และบริบทก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ และคิดว่าสักวันหนึ่งจะจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ทำให้เราเสียสมาธิในการแก้ปัญหาของประชาชน
เมื่อถามถึงการเตรียมชี้แจงกรณีหุ้นสื่อ นาย
พิธา กล่าวว่า คงจะชี้แจงได้ พร้อมที่จะชี้แจง ทั้งในเรื่องของหลักฐานและหลักกฎหมาย อย่างที่ตนบอกว่า ยังไม่มีการติดต่อมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยซ้ำ ไม่รู้กันด้วยซ้ำว่า เขาสงสัยกันประเด็นใด รอให้มีเอกสารมาก็จะทำเอกสารชี้แจงกลับ ให้ความร่วมมือที่จะทำให้เขาเห็นว่า มันเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์ และคงไม่มีอะไรที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุดลงได้
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า นาย
พิธา เทขายหุ้นไปแล้ว นาย
พิธา กล่าวว่า ต้องรอดูเอกสาร
เมื่อถามถึงกรณี นาย
สาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย โพสต์ตั้งคำถามกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่เอาพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะเคยโหวตให้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่จับมือกับ ส.ส.หลายคนที่เคยโหวตให้ พล.อ.
ประยุทธ์ เช่นกันนั้น นาย
พิธา กล่าวว่า ตรงนี้ตนคงคอมเมนต์ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดูรายละเอียด ให้เห็นคอมเมนต์แล้วค่อยคอมเมนต์อีกทีดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจกันผิดพลาด เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่ คนจะเป็นผู้นำของประเทศได้ ต้องรอดูก่อนว่ารายละเอียดมันเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นคอมเมนต์ผิดจะเป็นเรื่องใหญ่
ประเสริฐ เชื่อ ถ้ากกต.ฟัน 20 ว่าที่ส.ส. เป็นเพื่อไทย-ก้าวไกล ไม่กระทบตั้งรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7698678
“ประเสริฐ” เชื่อ ถ้า 20 ว่าที่ ส.ส. ถูก กกต.ฟัน เป็นของ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ไม่เป็นอุปสรรคตั้งรัฐบาล มั่นใจ ประชาชนยังเลือกฝั่งประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2566 นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศรับรอง ส.ส. แต่มีกระแสข่าวว่าอาจมีว่าที่ส.ส. 20 ราย ที่อาจถูก กกต.ฟัน ซึ่งหากเป็นว่าที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จะกระทบกับต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่
นาย
ประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่อยากคิดไปถึงขั้นนั้น แต่หากเกิดขึ้นจริงก็คงไม่กระทบ และไม่เป็นอุปสรรคอะไรในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ อย่างน้อย กกต. ต้องรับรองส.ส.ให้ได้ 95% ก่อน เท่ากับ 475 คน หากขาดไป 20 คน ก็อาจจะทำให้อะไรเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย ส่วนในกรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ กกต.คงจะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็ว และมั่นใจว่าประชาชนจะยังเลือกฝั่งเราอยู่
นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของร้านอาหารดัง เชื่อ ‘พิธา’ พา ศก.ไทยดีขึ้น แนะปรับค่าแรงแบบขั้นบันได
https://www.matichon.co.th/economy/news_4013126
นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของร้านอาหารดัง เชื่อ ‘พิธา’ พาเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แนะปรับค่าแรงแบบขั้นบันได
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นาย
ศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านอาหาร ชินคันเซน ซูชิ และ นักล่าหมูกระทะ ในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้ปรับลดราคาซูชิหอยเชลล์ย่างและซูชิหอยเชลล์สด จากเดิม 45 บาท ลงมาอยู่ที่ 29 บาท ถึงสิ้นปี 2566 หลังเงินเยนอ่อนค่า ราคาวัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นบางรายการปรับตัวลดลง เช่น หอยเชลล์ ขณะที่วัตถุดิบอื่นราคายังคงเดิม ทั้งนี้ หากราคาหอยเชลล์ยังคงเดิมจะขายราคา 29 บาทต่อไป
เมื่อถามถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาทต่อวัน นายศุภณัฐกล่าวว่า หากมีการปรับขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนระดับหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันมีพนักงานอยู่ประมาณ 1,300-1,400 คน ประจำร้านอาหารญี่ปุ่น จำนวน 44 สาขา และหมูกระทะ 2 สาขา โดยจ่ายค่าแรงในอัตราที่ใกล้เคียงกับ 450 บาท เมื่อมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำจะต้องปรับทั้งของคนที่มีทักษะอยู่แล้วขึ้นไปด้วย เพื่อไม่ให้เท่ากับผู้ที่รับค่าแรงขั้นต่ำ
“
ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะกระทบมากแค่ไหน ต้องรอดูนโยบายที่ชัดเจนก่อน รวมถึงมาตรการที่จะมาช่วย แต่คิดว่าการลดค่าไฟให้อย่างเดียวคงไม่พอ หรือจะลดภาษีให้จะส่งดีต่อเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ที่มีกำไรอยู่แล้ว แต่ร้านเล็กๆ หรือที่เป็นเอสเอ็มอี ที่รายได้ปริ่มๆ การลดภาษีคงไม่มีผลอะไร เพราะรายได้ยังไม่ฟื้นตัว ถ้าจะค่อยๆ ขยับขึ้น 450 บาท ใน 3 ปี น่าจะดีกว่าปรับพรวดเดียว อย่างไรก็ตาม หากค่าแรงปรับขึ้น 450 บาท แต่ถ้าต้นทุนวัตถุดิบไม่ขึ้น รัฐมีนโยบายมาดูแล เราก็พอจะบริหารจัดการได้ โดยที่ไม่ต้องขึ้นราคาก็ได้” นาย
ศุภณัฐกล่าว
นาย
ศุภณัฐเปิดแผนการลงทุนในครึ่งปีหลังว่า ถึงสิ้นปี 2566 จะเปิดร้านร้านอาหารชินคันเซน ซูชิ เพิ่มอีก 8 สาขา โดยในเดือนกรกฎาคมนี้จะเปิดที่ศูนย์การค้าโรบินสันสระบุรีและบิ๊กซีนครปฐม ส่วนร้านนักล่าหมูกระทะ จะเปิดเพิ่ม 4 สาขา ได้แก่ ศรีนครินทร์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แจ้งวัฒนะ และสีลม โดยนักล่าหมูกระทะยังคงราคาเดิม เริ่มต้น 279 บาท พร้อมบุฟเฟต์ผักฟรี
“
ในปี 2566 ดูจากยอดขาย กำลังซื้อดีขึ้นกว่าปี 2565 ประมาณ 10-15% โดยเฉพาะสาขาในพื้นที่ท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นถึง 10-15% ตั้งเป้าทั้งปี 2566 จะมีรายได้ 1,500 ล้านบาท” เจ้าของร้านอาหารวัย 28 ปี กล่าวอย่างมั่นใจ
นาย
ศุภณัฐยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า ถ้าจัดตั้งได้โดยเร็วคิดว่าจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีขึ้น ส่วน คุณ
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ถึงแม้จะอายุยังน้อย แต่ด้วยความคิด ความสามารถ คิดว่าน่าจะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นได้ แต่ถ้าไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้น่าจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
JJNY : 5in1 เผยเอกสารหลุด│“พิธา”มั่นใจตั้งรัฐบาล│ประเสริฐเชื่อไม่กระทบตั้งรัฐบาล│เชื่อ‘พิธา’พาดีขึ้น│รัสเซียแอบวางระเบิด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7698781
เผยเอกสารหลุด เกณฑ์ นร.นายสิบจบใหม่เป็น คฝ. หลังเลือกตั้ง เยอะแบบไม่เคยมีมาก่อน
วันที่ 4 มิ.ย.66 เฟซบุ๊กเพจ “CSI LA” ได้โพสต์เรื่องร้องเรียนของนักเรียนนายสิบที่จบใหม่ แต่กลับได้รับคำสั่งให้ไปลงตำแหน่งควบคุมฝูงชน โดยคำสั่งออกหลังเลือกตั้งได้เพียง 4 วัน โดยระบุว่า
ตำรวจนายสิบที่เพิ่งจบใหม่รู้สึกไม่สบายใจ ที่ตัวเองและเพื่อนๆ ร่วมชั้นถูกเกณฑ์ให้ไปเป็นตำรวจคุมฝูงชน โดยเฉพาะภาคกลางและตะวันออก โดนเกือบทั้งรุ่น เขาเลยตั้งคำถามถามว่าทำไมต้องการ คฝ. เยอะมากหลังเลือกตั้ง
ยุคข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนตื่นรู้แล้ว ยุคสมัยของประเทศอื่นๆ ในโลกก็เปลี่ยนแปลงไป หากจะใช้วิธีเดิมๆ ในอดีต กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และกองกำลังตัวเองยังไม่เอาด้วยแล้ว ผลย่อมออกมาไม่เหมือนเดิม
พร้อมกับโชว์เอกสารที่มีคำสั่งออกมา 4 วัน หลังการเลือกตั้ง หรือในวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรับ คฝ.จากตำรวจทั้ง 9 ภาค และนครบาล มากถึง 2,576 นาย
ซึ่งหนึ่งในนักเรียนนายสิบร้องเรียนมาว่า พวกตนกำลังจะจบเดือน ก.ค.นี้ และจะไปลงสายงานตามโรงพัก แต่นายสิบรุ่นนี้ มีคำจดตั้ง คฝ.เยอะแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เอาเกือบทั้งรุ่น เหลือคนไปลงโรงพักแค่ไม่มีกี่คน ทำให้ลำบากใจกันมาก เพราะตอนสอบเข้ามาตั้งใจจะทำงานเป็นสายตรวจปราบปราม แต่พอจบกลับมีคำสั่งให้ไปเป็น คฝ. อยากให้โครงการนี้ล่ม ฝั่งประชาธิปไตยจะได้รู้ว่าตำรวจกำลังระดมกำลัง ซึ่งเหมือนการมัดมือชก ไม่เป็นธรรมเลย
ส่วนตอนมาสมัครก็ไม่มีเงื่อนไขสัญญาข้อไหนที่บอกว่าต้องมาทำงานในตำแหน่ง คฝ. รวมทั้งจากการลงไปฝึกงานตามโรงพัก ก็รู้ว่าตำรวจโรงพักขาดแคลน อยากถามว่า คฝ.ที่จัดตั้งขึ้นมาเกือบ 500 ในแต่ละจังหวัด ถ้าไม่มีเหตุชุมนุมจะให้ทำอะไร ให้ไปลงตามโรงพักน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า ปกติตำรวจจบใหม่ต้องไปทดแทนในส่วนที่เกษียณหรือลาออกไป แต่รุ่นนี้ไม่มีเลย มองไม่เห็นประโยชน์หรือความจำเป็นสักข้อเดียว จัดตั้งเพื่อประโยชน์ของใครกันแน่
ที่มา : เฟซบุ๊กเพจ “CSI LA”
“พิธา” มั่นใจตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหา ย้ำพร้อมแจงปมหุ้นสื่อ ปัดตอบเทขายแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7698678
“พิธา” มั่นใจตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหา ย้ำพร้อมแจงปมหุ้นสื่อ ปัดตอบข่าวเทขายหุ้นแล้ว โนคอมเมนต์ จับมือ ส.ส.หลายคน พรรคร่วมเคยโหวต พล.อ.ประยุทธ์ หวั่นผิดพลาด-เป็นเรื่องใหญ่
4 มิ.ย. 66 – ที่ลานกิจกรรมสยามดิสคัฟเวอรี่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภา ว่า
มีความคืบหน้าเรื่อยๆ โดย วันอังคารที่ 6 มิ.ย. นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน ว่าจะมีทางออกอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะเป็นเรื่องพลังงานเป็นหลัก และจะได้เคาะคณะทำงานเพิ่ม จากนั้นในวันที่ 7 มิ.ย. จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค
ส่วนการเจรจาก็เป็นไปตามที่ได้แถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าใจว่ามีความคืบหน้าพอสมควร และบริบทก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ และคิดว่าสักวันหนึ่งจะจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ทำให้เราเสียสมาธิในการแก้ปัญหาของประชาชน
เมื่อถามถึงการเตรียมชี้แจงกรณีหุ้นสื่อ นายพิธา กล่าวว่า คงจะชี้แจงได้ พร้อมที่จะชี้แจง ทั้งในเรื่องของหลักฐานและหลักกฎหมาย อย่างที่ตนบอกว่า ยังไม่มีการติดต่อมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยซ้ำ ไม่รู้กันด้วยซ้ำว่า เขาสงสัยกันประเด็นใด รอให้มีเอกสารมาก็จะทำเอกสารชี้แจงกลับ ให้ความร่วมมือที่จะทำให้เขาเห็นว่า มันเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์ และคงไม่มีอะไรที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุดลงได้
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า นายพิธา เทขายหุ้นไปแล้ว นายพิธา กล่าวว่า ต้องรอดูเอกสาร
เมื่อถามถึงกรณี นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย โพสต์ตั้งคำถามกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่เอาพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะเคยโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่จับมือกับ ส.ส.หลายคนที่เคยโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกันนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตรงนี้ตนคงคอมเมนต์ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดูรายละเอียด ให้เห็นคอมเมนต์แล้วค่อยคอมเมนต์อีกทีดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจกันผิดพลาด เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่ คนจะเป็นผู้นำของประเทศได้ ต้องรอดูก่อนว่ารายละเอียดมันเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นคอมเมนต์ผิดจะเป็นเรื่องใหญ่
ประเสริฐ เชื่อ ถ้ากกต.ฟัน 20 ว่าที่ส.ส. เป็นเพื่อไทย-ก้าวไกล ไม่กระทบตั้งรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7698678
“ประเสริฐ” เชื่อ ถ้า 20 ว่าที่ ส.ส. ถูก กกต.ฟัน เป็นของ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ไม่เป็นอุปสรรคตั้งรัฐบาล มั่นใจ ประชาชนยังเลือกฝั่งประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2566 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศรับรอง ส.ส. แต่มีกระแสข่าวว่าอาจมีว่าที่ส.ส. 20 ราย ที่อาจถูก กกต.ฟัน ซึ่งหากเป็นว่าที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จะกระทบกับต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่
นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่อยากคิดไปถึงขั้นนั้น แต่หากเกิดขึ้นจริงก็คงไม่กระทบ และไม่เป็นอุปสรรคอะไรในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ อย่างน้อย กกต. ต้องรับรองส.ส.ให้ได้ 95% ก่อน เท่ากับ 475 คน หากขาดไป 20 คน ก็อาจจะทำให้อะไรเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย ส่วนในกรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ กกต.คงจะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็ว และมั่นใจว่าประชาชนจะยังเลือกฝั่งเราอยู่
นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของร้านอาหารดัง เชื่อ ‘พิธา’ พา ศก.ไทยดีขึ้น แนะปรับค่าแรงแบบขั้นบันได
https://www.matichon.co.th/economy/news_4013126
นักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของร้านอาหารดัง เชื่อ ‘พิธา’ พาเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แนะปรับค่าแรงแบบขั้นบันได
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านอาหาร ชินคันเซน ซูชิ และ นักล่าหมูกระทะ ในเครือบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้ปรับลดราคาซูชิหอยเชลล์ย่างและซูชิหอยเชลล์สด จากเดิม 45 บาท ลงมาอยู่ที่ 29 บาท ถึงสิ้นปี 2566 หลังเงินเยนอ่อนค่า ราคาวัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นบางรายการปรับตัวลดลง เช่น หอยเชลล์ ขณะที่วัตถุดิบอื่นราคายังคงเดิม ทั้งนี้ หากราคาหอยเชลล์ยังคงเดิมจะขายราคา 29 บาทต่อไป
เมื่อถามถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาทต่อวัน นายศุภณัฐกล่าวว่า หากมีการปรับขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนระดับหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันมีพนักงานอยู่ประมาณ 1,300-1,400 คน ประจำร้านอาหารญี่ปุ่น จำนวน 44 สาขา และหมูกระทะ 2 สาขา โดยจ่ายค่าแรงในอัตราที่ใกล้เคียงกับ 450 บาท เมื่อมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำจะต้องปรับทั้งของคนที่มีทักษะอยู่แล้วขึ้นไปด้วย เพื่อไม่ให้เท่ากับผู้ที่รับค่าแรงขั้นต่ำ
“ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะกระทบมากแค่ไหน ต้องรอดูนโยบายที่ชัดเจนก่อน รวมถึงมาตรการที่จะมาช่วย แต่คิดว่าการลดค่าไฟให้อย่างเดียวคงไม่พอ หรือจะลดภาษีให้จะส่งดีต่อเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ที่มีกำไรอยู่แล้ว แต่ร้านเล็กๆ หรือที่เป็นเอสเอ็มอี ที่รายได้ปริ่มๆ การลดภาษีคงไม่มีผลอะไร เพราะรายได้ยังไม่ฟื้นตัว ถ้าจะค่อยๆ ขยับขึ้น 450 บาท ใน 3 ปี น่าจะดีกว่าปรับพรวดเดียว อย่างไรก็ตาม หากค่าแรงปรับขึ้น 450 บาท แต่ถ้าต้นทุนวัตถุดิบไม่ขึ้น รัฐมีนโยบายมาดูแล เราก็พอจะบริหารจัดการได้ โดยที่ไม่ต้องขึ้นราคาก็ได้” นายศุภณัฐกล่าว
นายศุภณัฐเปิดแผนการลงทุนในครึ่งปีหลังว่า ถึงสิ้นปี 2566 จะเปิดร้านร้านอาหารชินคันเซน ซูชิ เพิ่มอีก 8 สาขา โดยในเดือนกรกฎาคมนี้จะเปิดที่ศูนย์การค้าโรบินสันสระบุรีและบิ๊กซีนครปฐม ส่วนร้านนักล่าหมูกระทะ จะเปิดเพิ่ม 4 สาขา ได้แก่ ศรีนครินทร์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แจ้งวัฒนะ และสีลม โดยนักล่าหมูกระทะยังคงราคาเดิม เริ่มต้น 279 บาท พร้อมบุฟเฟต์ผักฟรี
“ในปี 2566 ดูจากยอดขาย กำลังซื้อดีขึ้นกว่าปี 2565 ประมาณ 10-15% โดยเฉพาะสาขาในพื้นที่ท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นถึง 10-15% ตั้งเป้าทั้งปี 2566 จะมีรายได้ 1,500 ล้านบาท” เจ้าของร้านอาหารวัย 28 ปี กล่าวอย่างมั่นใจ
นายศุภณัฐยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่า ถ้าจัดตั้งได้โดยเร็วคิดว่าจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีขึ้น ส่วน คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ถึงแม้จะอายุยังน้อย แต่ด้วยความคิด ความสามารถ คิดว่าน่าจะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นได้ แต่ถ้าไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้น่าจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ