ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะคะ
คือเรา มีพี่น้องทั้งหมด 6 คนค่ะ เราเป็นลูกคนสุดท้อง พ่อเราเสียไปแล้ว ตอนนี้เราเลยอยู่บ้านกับแม่ ลูกสองคนแล้วก็สามีค่ะ
เราตกงานมาได้สี่ห้าเดือนแล้วค่ะเพราะเราต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกวัย 5 เดือน เราเลยดิ้นรนช่วยแฟน หารายได้ด้วยการเขียนนิยาย รายได้ตกเดือนละ 3000 บาท
แม่เราก็ไม่ได้ทำงาน อาศัยเบี้ยคนชราเดือน 600 สามีทำงานรายวัน วันละ 500 ได้เงินมาทีนึงก็เก็บไว้ที่เราหมด
เราเลยกลายเป็นคนที่ต้องรับรู้และจัดการกับค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่าง
โดยที่เราจะให้เงินแม่เป็นครั้ง ครั้งละ 300-500 เพื่อกินและซื้อกับข้าว มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อยค่ะ
แล้วแม่ก็พาไปซื้อกับข้าว ทำไว้ทีก็อุ่นกินได้สองสามวัน แต่ด้วยความที่แม่เป็นแม่ พอทำกับข้าวเสร็จแม่ก็มักจะพาไปให้พี่สาวเรา พอคนนึงได้ อีกคนก็มาเอา ครั้งสองครั้ง ไม่เป็นไร แต่มันเริ่มเป็นบ่อยขึ้น
แล้วพี่ชายบางครั้งก็มักจะแวะเวียนมากินข้าวที่บ้าน จนเรารู้สึกลำบากใจ แต่สามีเราไม่เคยบ่นเลย
เราเลยลองเปิดใจคุยกับแม่ ว่าทำกับข้าวทีหลังไม่ต้องพาไปให้คนอื่นได้ไหม เรากินกันแต่ในครอบครัวเราก็พอ แม่ก็เข้าใจ แต่พี่สาวก็มักจะมาถามว่ามื้อนี้กินอะไร แล้วก็มาขนไปอีก พวกของใช้ กระเทียม หัวหอม พริก ถ้าเราซื้อเก็บไว้คือพี่เราจะมาขนเป็นประจำเลย
จนมาลามถึงของใหญ่ ๆ เช่น พ่อเราจะปลูกไม้ใหญ่ไว้ ตามจำนวนลูกเลยค่ะ แกสั่งไว้ว่าต้นไม้พวกนี้เก็บไว้ให้พวกเราทำบ้าน แล้วบรรดาพี่ ๆ เราก็พากันตัดของตัวเองไป จนเหลือของเรา เราบอกเก็บไว้ก่อนเพราะเรายังไม่มีเงินจ้างเขาตัด มันบอกมันมีเงิน เดี๋ยวมันตัดไปขายแล้วได้เงินจะมาให้แม่ เราก็เห็นแก่แม่เลยตกลง สรุป มันเอาไปขาย แม่ไม่ได้เห็นสักบาท ส่วนเราก็เสียต้ยไม้ไปฟรี ๆ
ปัญหามันดูเหมือนเล็กน้อย แต่เราอึดอัดใจ เราไม่รู้จะบอกยังไง เหมือนน้ำท่วมปาก ถ้าเรามีงานทำเหมือนเมื่อก่อนเรายินดีให้ แต่ตอนนี้รายได้เราก็ไม่ค่อยจะมี
ไหนต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงแม่ เพราะ ๆ พี่เราไม่เคยมีใครยื่นเงิน ส่งเงินให้แม่เลยสักคน ทั้งที่เขาก็มีงานมีเงินมากกว่าเราทั้งนั้น
ไม่ส่งเสียให้แม่เราไม่ว่า เพราะลำพังแค่แม่คนเดียวเรารักษา เราดูแลได้ แต่เราไม่อยากให้มาเบียดเบียนเอาเปรียบเรา
เราอยากรู้ว่าถ้าเราพูดไปเราจะกลายเป็นคนใจแคบไหม แล้วถ้าจะพูดมีคำพูดไหนที่ฟังดูแล้วซอฟลงไหมคะ 😭😭
รู้สึกว่าตัวเองเป็นน้องสุดท้องที่ถูกเอาเปรียบ
คือเรา มีพี่น้องทั้งหมด 6 คนค่ะ เราเป็นลูกคนสุดท้อง พ่อเราเสียไปแล้ว ตอนนี้เราเลยอยู่บ้านกับแม่ ลูกสองคนแล้วก็สามีค่ะ
เราตกงานมาได้สี่ห้าเดือนแล้วค่ะเพราะเราต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกวัย 5 เดือน เราเลยดิ้นรนช่วยแฟน หารายได้ด้วยการเขียนนิยาย รายได้ตกเดือนละ 3000 บาท
แม่เราก็ไม่ได้ทำงาน อาศัยเบี้ยคนชราเดือน 600 สามีทำงานรายวัน วันละ 500 ได้เงินมาทีนึงก็เก็บไว้ที่เราหมด
เราเลยกลายเป็นคนที่ต้องรับรู้และจัดการกับค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่าง
โดยที่เราจะให้เงินแม่เป็นครั้ง ครั้งละ 300-500 เพื่อกินและซื้อกับข้าว มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อยค่ะ
แล้วแม่ก็พาไปซื้อกับข้าว ทำไว้ทีก็อุ่นกินได้สองสามวัน แต่ด้วยความที่แม่เป็นแม่ พอทำกับข้าวเสร็จแม่ก็มักจะพาไปให้พี่สาวเรา พอคนนึงได้ อีกคนก็มาเอา ครั้งสองครั้ง ไม่เป็นไร แต่มันเริ่มเป็นบ่อยขึ้น
แล้วพี่ชายบางครั้งก็มักจะแวะเวียนมากินข้าวที่บ้าน จนเรารู้สึกลำบากใจ แต่สามีเราไม่เคยบ่นเลย
เราเลยลองเปิดใจคุยกับแม่ ว่าทำกับข้าวทีหลังไม่ต้องพาไปให้คนอื่นได้ไหม เรากินกันแต่ในครอบครัวเราก็พอ แม่ก็เข้าใจ แต่พี่สาวก็มักจะมาถามว่ามื้อนี้กินอะไร แล้วก็มาขนไปอีก พวกของใช้ กระเทียม หัวหอม พริก ถ้าเราซื้อเก็บไว้คือพี่เราจะมาขนเป็นประจำเลย
จนมาลามถึงของใหญ่ ๆ เช่น พ่อเราจะปลูกไม้ใหญ่ไว้ ตามจำนวนลูกเลยค่ะ แกสั่งไว้ว่าต้นไม้พวกนี้เก็บไว้ให้พวกเราทำบ้าน แล้วบรรดาพี่ ๆ เราก็พากันตัดของตัวเองไป จนเหลือของเรา เราบอกเก็บไว้ก่อนเพราะเรายังไม่มีเงินจ้างเขาตัด มันบอกมันมีเงิน เดี๋ยวมันตัดไปขายแล้วได้เงินจะมาให้แม่ เราก็เห็นแก่แม่เลยตกลง สรุป มันเอาไปขาย แม่ไม่ได้เห็นสักบาท ส่วนเราก็เสียต้ยไม้ไปฟรี ๆ
ปัญหามันดูเหมือนเล็กน้อย แต่เราอึดอัดใจ เราไม่รู้จะบอกยังไง เหมือนน้ำท่วมปาก ถ้าเรามีงานทำเหมือนเมื่อก่อนเรายินดีให้ แต่ตอนนี้รายได้เราก็ไม่ค่อยจะมี
ไหนต้องเลี้ยงลูก เลี้ยงแม่ เพราะ ๆ พี่เราไม่เคยมีใครยื่นเงิน ส่งเงินให้แม่เลยสักคน ทั้งที่เขาก็มีงานมีเงินมากกว่าเราทั้งนั้น
ไม่ส่งเสียให้แม่เราไม่ว่า เพราะลำพังแค่แม่คนเดียวเรารักษา เราดูแลได้ แต่เราไม่อยากให้มาเบียดเบียนเอาเปรียบเรา
เราอยากรู้ว่าถ้าเราพูดไปเราจะกลายเป็นคนใจแคบไหม แล้วถ้าจะพูดมีคำพูดไหนที่ฟังดูแล้วซอฟลงไหมคะ 😭😭