“โรคใหลตาย” รู้ก่อนป้องกันได้

“โรคหัวใจที่คุณหรือครอบครัวอาจจะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง”
          อาการใหลตายคือกลุ่มอาการเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ (Sudden Unexplained Death Syndrome; SUDS) โดยผู้ป่วยจะเสียชีวิตเพราะหัวใจหยุดเต้นกระทันหันโดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ มาก่อน
อาการใหลตายเกิดขึ้นได้อย่างไร
          สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่
          - ความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจ เช่น กลุ่มอาการบรูกาด้า (Brugada syndrome) และกลุ่มอาการ early repolarization syndrome, long QT syndrome
          - ความผิดปกติของระบบหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจ(โคโรนารี่) เช่น ความผิดปกติของหลอดเลือดที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด ความผิดปกติของทางไหลเวียนของเลือดในหัวใจ 
          - กลุ่มอาการที่ผนังห้องหัวใจหนาผิดปกติ เช่น Hypertrophic obstructive cardiomyopathy, ARVD ที่มีความผิดปกติของหัวใจห้องล่างขวา
          - สาเหตุอื่น เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคลิ่มเลือดอุดตันและร่างกายได้รับสารพิษต่างๆ

กลุ่มอาการบรูกาด้า (Brugada syndrome)
          กลุ่มอาการบรูกาด้าเป็นโรคที่พบบ่อยในคนไทย โดยทั่วโลกมีอัตราการเกิดโรค 40 คนต่อประชากรหนึ่งแสน กลุ่มอาการบรูกาด้าเกิดจากความผิดปกติของยีนที่สร้างโปรตีนควบคุมการไหลเข้า-ออกของโซเดียมในเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้การนำไฟฟ้าในกล้ามเนื้อหัวใจไม่เสถียรเท่ากัน ส่วนมากเกิดที่หัวใจห้องล่างขวา
ใครบ้างที่มีความเสี่ยง
          ถึงแม้ผู้ป่วยมักจะไม่มีสัญญาณเตือนหรืออาการมาก่อนที่จะเกิดหัวใจหยุดเต้นกะทันหันหรือเสียชีวิตแต่ปัจจัยต่อไปนี้ ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคมากขึ้น
          - มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเกิดอาการใหลตาย ผู้ป่วยกลุ่มอาการบรูกาด้าประมาณ 15-30% มียีนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรค
          - ผู้ชายในช่วงวัยทำงานหรือวัยกลางคน
          - เชื้อชาติ พบบ่อยในชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อาการที่พบได้มีอะไรบ้าง
          อาการที่พบได้มีดังนี้
          - เป็นลม
          - หมดสติ
          - หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
          - หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอหรือใจสั่น
          - หัวใจเต้นเร็วมาก
          - ชัก
          - เสียชีวิตกะทันหัน
          โดยกลุ่มอาการบรูกาด้ามักจะเกิดในช่วงนอนหลับหรือหลังมื้ออาหารใหญ่ ๆ 
รักษาได้อย่างไร
         หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้อาการกำเริบ เช่น ภาวะไข้สูง การรับประทานยาบางชนิดที่มีผลต่อการไหลเข้าออกของโซเดียมในเซลล์ หากแพทย์พบว่าผู้ป่วยเคยมีอาการหัวใจหยุดเต้นมาก่อนหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการเสียชีวิตฉับพลัน แพทย์อาจรักษาโดยการไฟฟ้าหัวใจ และ/หรือ ฝังเครื่องกระตุกหัวใจ (AICD)

ป้องกันได้อย่างไรก่อนที่จะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง
          ความท้าทายของกลุ่มอาการเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ คือการตรวจพบก่อนที่จะมีอาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เคยมีอาการเป็นลมหรือหัวใจหยุดเต้นโดยไม่ทราบสาเหตุมาก่อนหรือมีสมาชิกในครอบครัวที่มีอาการหรือเสียชีวิตเช่นนี้มาก่อนควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
          - อายุรแพทย์โรคหัวใจหรือแพทย์ผู้ชำนาญด้านไฟฟ้าหัวใจ เพื่อตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แพทย์อาจตรวจเพิ่มเติม เช่น วิ่งสายพาน การใช้ยาหรือการตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ (electrophysiological study)
          - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางพันธุกรรมหัวใจเพื่อตรวจคัดกรองทางพันธุกรรมในผู้ป่วยที่มีอาการแล้วจึงตรวจคนในครอบครัวต่อไป หากผู้ที่มีอาการเสียชีวิตไปแล้ว แพทย์จะพิจารณาตรวจตามประวัติและความเสี่ยง
          กลุ่มอาการเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ  สร้างความสูญเสียให้กับหลายครอบครัวในทุกๆ ปี และอาการครั้งแรกที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้เสียชีวิตได้โดยไม่มีโอกาสครั้งที่สอง  ดังนั้นการตรวจสุขภาพ ตรวจหัวใจเป็นประจำทุกๆปีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติสูญเสียสมาชิกในครอบครัวในลักษณะนี้มาก่อน เพราะทำให้ตรวจเจอโรคและป้องกันก่อนที่จะมีอาการ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่