“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ 9 ปีรัฐประหาร ไทยตกอยู่ภายในวังวนกับเงาเผด็จการ หวังไทยได้รบ.ที่เป็นประชาธิปไตย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3991451
“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ 9 ปีรัฐประหาร ไทยตกอยู่ภายในวังวนกับเงาเผด็จการ หวังไทยได้รบ.ที่เป็นประชาธิปไตย ผลเลือกตั้ง 14 พ.ค.สะท้อนปชช.ไม่ทนอำนาจที่ได้มาโดยมิชอบ
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก
Yingluck Shinawatra รำลึกถึงวันครบรอบ 9 ปีของการถูกทำรัฐประหาร โดยระบุว่า
“
วันนี้เป็นวันครบรอบ 9 ปีของการรัฐประหารที่ความรู้สึกของดิฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกรุกไล่อย่างหนักจากฝ่ายเผด็จการ วันนี้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเครื่องสะท้อนแล้วว่า ประชาชนไม่ทนกับกลุ่มคนที่ได้อำนาจมาโดยมิชอบอีกต่อไปแล้ว
ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตกอยู่ภายในวังวนกับเงาของเผด็จการ การถูกไล่ล่า ความสิ้นหวังของพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาสังคม ปัญหาปากท้อง มีความยากลำบากในการทำมาหากิน ประเทศขับเคลื่อนไปอย่างไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความเข้าใจในการบริหารเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้า นี่คือผลพวงของการทำรัฐประหาร แย่งอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันหวังว่าเราจะไม่เห็นการทำรัฐประหารอีกแล้ว
สุดท้ายนี้ดิฉันขอเอาใจช่วยให้เราได้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเพื่อประชาชนและอำลารัฐประหารให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยเสียที”
นอกจากนี้ ยังได้ทวีตข้อความในเรื่องเดียวกันไว้ด้วยว่า
วันนี้เป็นวันครบรอบ9ปีของการ #รัฐประหาร ที่ความรู้สึกของดิฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกรุกไล่อย่างหนักจากฝ่ายเผด็จการ วันนี้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นเครื่องสะท้อนแล้วว่าประชาชนไม่ทนกับกลุ่มคนที่ได้อำนาจมาโดยมิชอบอีกต่อไปแล้ว
นี่คือผลพวงของการทำรัฐประหาร แย่งอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันหวังว่าเราจะไม่เห็นการทำรัฐประหารอีกแล้ว
สุดท้ายนี้ดิฉันขอเอาใจช่วยให้เราได้รัฐบาลที่เป็น #ประชาธิปไตย เพื่อประชาชนและอำลารัฐประหารให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยเสียที
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid02u8JrPg71pxTYv9J37nd95itC8MqU9TfvS8XrJwoHpqzWdQ6Z65fWZqDqRfmD4PJAl
https://twitter.com/PouYingluck/status/1660441361978646529
นิธิ ชี้ เมื่อไหร่ พท. กล้าแก้โครงสร้าง เมื่อนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวของ ก.ก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3991438
นิธิ ชี้ เมื่อไหร่ พท. กล้าแก้โครงสร้าง เมื่อนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวของ ก.ก.
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในรายการ เอ๊กซ์-อ๊อก talk ทุกเรื่อง ทาง ‘
มติชนทีวี’ เมื่อ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในตอนหนึ่ง กล่าวถึงประเด็น เส้นทางเดินของพรรคเพื่อไทยในอนาคต
ศ.ดร.
นิธิ กล่าวว่า จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทยมีศักยภาพที่พร้อมจะเดินตามสำนึกใหม่ของคน และก็หวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นคู่แข่งของพรรคก้าวไกลในอนาคต เปลี่ยนจากการแยกเรื่องปากท้องออกจากการเมือง ซึ่งมันแยกไม่ได้ ทุกครั้งที่พูดถึงความเหลื่อมล้ำไม่ได้เหลื่อมล้ำที่เงินอย่างเดียว เหลื่อมล้ำที่อำนาจด้วย ตัดโอกาสที่จะให้เขาต่อรอง เหลือแต่ความเหลื่อมล้ำด้านเงิน ก็ต้องแจกเงินเท่านั้น แต่กลับกันต้องให้โอกาสต่อรองกับเขาด้วย
“
วันหนึ่งพรรคเพื่อไทยจะมองเห็นว่า เราแก้ปัญหาเฉพาะจุดเล็กจุดน้อยที่มันอยู่ในโครงสร้างเก่าอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้ ต้องกล้าที่จะแก้ในตัวโครงสร้างด้วย ถึงจุดนั้นเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของพรรคก้าวไกลแน่นอน” ศ.ดร.
นิธิกล่าว
เมื่อพิธีกรถามว่า นโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกลใช้เวลานานแค่ไหนในการปรับโครงสร้าง 4 ปีทันหรือไม่ ?
ศ.ดร.
นิธิ เผยว่า พรรคเพื่อไทยต้องต่อรอง เช่น เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ได้แต่หวังว่าพรรคก้าวไกลจะยอม อาจจะตั้งเงื่อนไขวิธีใช้เงิน 1 หมื่นบาท ว่าใช้อย่างไรเพื่อทำให้เกิดผลมากขึ้น หวังว่า 2 ฝ่ายจะดึงกันและกัน แต่ที่เปลี่ยนแน่ๆคือ การเกณฑ์ทหาร และการแก้ไขมาตรา 112 คิดว่าน่าจะผ่าน โดยในปีแรกถ้าทำสิ่งเหล่านี้สำเร็จ เชื่อว่าสิ่งอื่นๆที่เคยสัญญาไว้จะง่ายขึ้น
ศ.ดร.
นิธิ กล่าวถึงบทบาทพรรคก้าวไกลเมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้านว่า สิ่งสำคัญที่พรรคฝ่ายค้านก้าวไกลทำ คือ นำเอาประเด็นที่ถูกทำให้มันไม่การเมืองหลายประเด็น ขึ้นมาให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่ทำให้กลายเป็นไม่การเมือง มันต่อรองไม่ได้ มันควบคุมไม่ได้ ไม่ได้หมายถึงเรื่องสถาบัน
เพียงเรื่องเดียว แต่รวมถึงเรื่องสมรสเท่าเทียม เรื่องสุราก้าวหน้า หารู้ไม่ว่ามันเกิดจากกฎหมายที่ผูกขาดนี่คือ การไม่ถูกทำให้เป็นการเมืองนั่นเอง สิ่งเหล่านี้เป็นฝีมือของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลในการช่วยกันทำให้สิ่งที่ไม่ถูกทำให้เป็นการเมืองกลับมาเป็นการเมือง พอกลับมาเป็นการเมืองต่อมาเป็นเรื่องที่เราจะต้องต่อรองกัน
เมื่อพิธีกรถามว่า จากชัยชนะอันถล่มถลายของพรรคก้าวไกล คนจะให้ความสนใจในการเลือกตั้งครั้งถัดๆไปด้วยหรือไม่ ?
ศ.ดร.
นิธิ ตอบว่า แน่นอน แม้ว่าคนที่ไม่เลือกพรรคก้าวไกล ครั้งหน้าอาจจะไม่เลือกก็ได้ แต่เขาจะเริ่มชินกับการเปลี่ยนแปลงมันมากกว่าการแก้ไขเอาคนไม่ดีออกไป จะเริ่มคิดถึงการเปลี่ยนระดับโครงสร้าง เช่น เครื่องแบบนักเรียนที่เป็นเรื่องไม่สามารถต่อรองกันได้ เป็นเรื่องที่ไม่การเมือง แต่ตอนนี้พรรคก้าวไกลทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อรองกันได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะทำให้คนชินกับสาระมากขึ้น
“
ชัยชนะของพรรคก้าวไกลชี้ให้เห็นว่าเราช้าเกินไป คนจำนวนมากที่เลือกพรรคก้าวไกลอาจจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่แรงกว่าพรรคก้าวไกลคิดด้วยซ้ำ เราปล่อยให้ประเทศแช่แข็ง มา 8-9 ปี ซึ่งถูกทำให้คนคิดถึงการถอนรากถอนโคนมากขึ้น” ศ.ดร.
นิธิกล่าว
"ก้าวไกล"กวาดคะแนนชนะเลือกตั้งซ่อมนครปฐม บัญชีรายชื่อทิ้ง"รทสช."ขาดลอย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7675923
ผลการนับคะแนน การเลือกตั้งซ่อม หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม แบบแบ่งเขต เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ได้ 211 คะแนน ชนะ พรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ ก้าวไกล ยังชนะขาดลอย ทิ้งห่าง รวมไทยสร้างชาติ ของลุงตู่
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการนับคะแนน การเลือกตั้งซ่อม หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 943 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 515 คน. คิดเป็น 54.61% โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึง 17.00 น.
โดยผลคะแนนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ปรากฎว่า เบอร์ 1 น.ส.
จารุพรรณ เพชรดี พรรคก้าวไกล ได้ 211 คะแนน เบอร์ 2 นาย
ศุภโชค ศรีสุขจร พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 162 คะแนน เบอร์ 9 นาย
ณัทกร แก้วพิจิตร พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 74 คะแนน และ เบอร์ 5 นาย
สมชาย มณีรัตน์ พรรคเพื่อไทย ได้ 29 คะแนน
ส่วนการนับคะแนนเสียง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้คะแนนขาดลอยถึง 279 คะแนน ตามด้วยพรรครวมไทยสร้างชาติ 75 คะแนน พรรคเพื่อไทย 66 คะแนน ส่วนพรรคบ้านใหญ่ในพื้นที่อย่าง “ชาติไทยพัฒนา” ได้คะแนนเพียง 35 คะแนน สำหรับบัตรดีมี 501 บัตรเสีย 8 ไม่ประสงค์ลงคะแนน 6
JJNY : “ยิ่งลักษณ์”โพสต์9ปีรัฐประหาร│นิธิชี้เมื่อไหร่พท.กล้าแก้โครงสร้าง│"ก้าวไกล"ทิ้งรทสช.ขาดลอย│ยูเครนยันไม่เสียบัคมุต
https://www.matichon.co.th/politics/news_3991451
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra รำลึกถึงวันครบรอบ 9 ปีของการถูกทำรัฐประหาร โดยระบุว่า
“วันนี้เป็นวันครบรอบ 9 ปีของการรัฐประหารที่ความรู้สึกของดิฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกรุกไล่อย่างหนักจากฝ่ายเผด็จการ วันนี้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเครื่องสะท้อนแล้วว่า ประชาชนไม่ทนกับกลุ่มคนที่ได้อำนาจมาโดยมิชอบอีกต่อไปแล้ว
ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตกอยู่ภายในวังวนกับเงาของเผด็จการ การถูกไล่ล่า ความสิ้นหวังของพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาสังคม ปัญหาปากท้อง มีความยากลำบากในการทำมาหากิน ประเทศขับเคลื่อนไปอย่างไร้วิสัยทัศน์ ไร้ความเข้าใจในการบริหารเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้า นี่คือผลพวงของการทำรัฐประหาร แย่งอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันหวังว่าเราจะไม่เห็นการทำรัฐประหารอีกแล้ว
สุดท้ายนี้ดิฉันขอเอาใจช่วยให้เราได้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเพื่อประชาชนและอำลารัฐประหารให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยเสียที”
นอกจากนี้ ยังได้ทวีตข้อความในเรื่องเดียวกันไว้ด้วยว่า
วันนี้เป็นวันครบรอบ9ปีของการ #รัฐประหาร ที่ความรู้สึกของดิฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกรุกไล่อย่างหนักจากฝ่ายเผด็จการ วันนี้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นเครื่องสะท้อนแล้วว่าประชาชนไม่ทนกับกลุ่มคนที่ได้อำนาจมาโดยมิชอบอีกต่อไปแล้ว
นี่คือผลพวงของการทำรัฐประหาร แย่งอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จากวันนี้เป็นต้นไป ดิฉันหวังว่าเราจะไม่เห็นการทำรัฐประหารอีกแล้ว
สุดท้ายนี้ดิฉันขอเอาใจช่วยให้เราได้รัฐบาลที่เป็น #ประชาธิปไตย เพื่อประชาชนและอำลารัฐประหารให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยเสียที
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/pfbid02u8JrPg71pxTYv9J37nd95itC8MqU9TfvS8XrJwoHpqzWdQ6Z65fWZqDqRfmD4PJAl
https://twitter.com/PouYingluck/status/1660441361978646529
นิธิ ชี้ เมื่อไหร่ พท. กล้าแก้โครงสร้าง เมื่อนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวของ ก.ก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3991438
นิธิ ชี้ เมื่อไหร่ พท. กล้าแก้โครงสร้าง เมื่อนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวของ ก.ก.
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในรายการ เอ๊กซ์-อ๊อก talk ทุกเรื่อง ทาง ‘มติชนทีวี’ เมื่อ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในตอนหนึ่ง กล่าวถึงประเด็น เส้นทางเดินของพรรคเพื่อไทยในอนาคต
ศ.ดร.นิธิ กล่าวว่า จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทยมีศักยภาพที่พร้อมจะเดินตามสำนึกใหม่ของคน และก็หวังว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นคู่แข่งของพรรคก้าวไกลในอนาคต เปลี่ยนจากการแยกเรื่องปากท้องออกจากการเมือง ซึ่งมันแยกไม่ได้ ทุกครั้งที่พูดถึงความเหลื่อมล้ำไม่ได้เหลื่อมล้ำที่เงินอย่างเดียว เหลื่อมล้ำที่อำนาจด้วย ตัดโอกาสที่จะให้เขาต่อรอง เหลือแต่ความเหลื่อมล้ำด้านเงิน ก็ต้องแจกเงินเท่านั้น แต่กลับกันต้องให้โอกาสต่อรองกับเขาด้วย
“วันหนึ่งพรรคเพื่อไทยจะมองเห็นว่า เราแก้ปัญหาเฉพาะจุดเล็กจุดน้อยที่มันอยู่ในโครงสร้างเก่าอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้ ต้องกล้าที่จะแก้ในตัวโครงสร้างด้วย ถึงจุดนั้นเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของพรรคก้าวไกลแน่นอน” ศ.ดร.นิธิกล่าว
เมื่อพิธีกรถามว่า นโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกลใช้เวลานานแค่ไหนในการปรับโครงสร้าง 4 ปีทันหรือไม่ ?
ศ.ดร.นิธิ เผยว่า พรรคเพื่อไทยต้องต่อรอง เช่น เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ได้แต่หวังว่าพรรคก้าวไกลจะยอม อาจจะตั้งเงื่อนไขวิธีใช้เงิน 1 หมื่นบาท ว่าใช้อย่างไรเพื่อทำให้เกิดผลมากขึ้น หวังว่า 2 ฝ่ายจะดึงกันและกัน แต่ที่เปลี่ยนแน่ๆคือ การเกณฑ์ทหาร และการแก้ไขมาตรา 112 คิดว่าน่าจะผ่าน โดยในปีแรกถ้าทำสิ่งเหล่านี้สำเร็จ เชื่อว่าสิ่งอื่นๆที่เคยสัญญาไว้จะง่ายขึ้น
ศ.ดร.นิธิ กล่าวถึงบทบาทพรรคก้าวไกลเมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้านว่า สิ่งสำคัญที่พรรคฝ่ายค้านก้าวไกลทำ คือ นำเอาประเด็นที่ถูกทำให้มันไม่การเมืองหลายประเด็น ขึ้นมาให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่ทำให้กลายเป็นไม่การเมือง มันต่อรองไม่ได้ มันควบคุมไม่ได้ ไม่ได้หมายถึงเรื่องสถาบัน
เพียงเรื่องเดียว แต่รวมถึงเรื่องสมรสเท่าเทียม เรื่องสุราก้าวหน้า หารู้ไม่ว่ามันเกิดจากกฎหมายที่ผูกขาดนี่คือ การไม่ถูกทำให้เป็นการเมืองนั่นเอง สิ่งเหล่านี้เป็นฝีมือของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลในการช่วยกันทำให้สิ่งที่ไม่ถูกทำให้เป็นการเมืองกลับมาเป็นการเมือง พอกลับมาเป็นการเมืองต่อมาเป็นเรื่องที่เราจะต้องต่อรองกัน
เมื่อพิธีกรถามว่า จากชัยชนะอันถล่มถลายของพรรคก้าวไกล คนจะให้ความสนใจในการเลือกตั้งครั้งถัดๆไปด้วยหรือไม่ ?
ศ.ดร.นิธิ ตอบว่า แน่นอน แม้ว่าคนที่ไม่เลือกพรรคก้าวไกล ครั้งหน้าอาจจะไม่เลือกก็ได้ แต่เขาจะเริ่มชินกับการเปลี่ยนแปลงมันมากกว่าการแก้ไขเอาคนไม่ดีออกไป จะเริ่มคิดถึงการเปลี่ยนระดับโครงสร้าง เช่น เครื่องแบบนักเรียนที่เป็นเรื่องไม่สามารถต่อรองกันได้ เป็นเรื่องที่ไม่การเมือง แต่ตอนนี้พรรคก้าวไกลทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่อรองกันได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะทำให้คนชินกับสาระมากขึ้น
“ชัยชนะของพรรคก้าวไกลชี้ให้เห็นว่าเราช้าเกินไป คนจำนวนมากที่เลือกพรรคก้าวไกลอาจจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่แรงกว่าพรรคก้าวไกลคิดด้วยซ้ำ เราปล่อยให้ประเทศแช่แข็ง มา 8-9 ปี ซึ่งถูกทำให้คนคิดถึงการถอนรากถอนโคนมากขึ้น” ศ.ดร.นิธิกล่าว
"ก้าวไกล"กวาดคะแนนชนะเลือกตั้งซ่อมนครปฐม บัญชีรายชื่อทิ้ง"รทสช."ขาดลอย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7675923
ผลการนับคะแนน การเลือกตั้งซ่อม หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม แบบแบ่งเขต เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ได้ 211 คะแนน ชนะ พรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ ก้าวไกล ยังชนะขาดลอย ทิ้งห่าง รวมไทยสร้างชาติ ของลุงตู่
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการนับคะแนน การเลือกตั้งซ่อม หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 943 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 515 คน. คิดเป็น 54.61% โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึง 17.00 น.
โดยผลคะแนนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ปรากฎว่า เบอร์ 1 น.ส.จารุพรรณ เพชรดี พรรคก้าวไกล ได้ 211 คะแนน เบอร์ 2 นายศุภโชค ศรีสุขจร พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 162 คะแนน เบอร์ 9 นายณัทกร แก้วพิจิตร พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 74 คะแนน และ เบอร์ 5 นายสมชาย มณีรัตน์ พรรคเพื่อไทย ได้ 29 คะแนน
ส่วนการนับคะแนนเสียง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้คะแนนขาดลอยถึง 279 คะแนน ตามด้วยพรรครวมไทยสร้างชาติ 75 คะแนน พรรคเพื่อไทย 66 คะแนน ส่วนพรรคบ้านใหญ่ในพื้นที่อย่าง “ชาติไทยพัฒนา” ได้คะแนนเพียง 35 คะแนน สำหรับบัตรดีมี 501 บัตรเสีย 8 ไม่ประสงค์ลงคะแนน 6