คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
อ่านเม้นข้างบนแล้ว รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับพวกลุงๆป้าๆ มัวแต่กลัวโน่นกลัวนี่กลัวนายจ้างจน กลัวนายจ้างหนี กลัวๆๆ ไปหมด ตรูจะบ้า ผมทำงานโรงงาน พนักงานกว่า 70% ทำงานรายวัน ค่าแรงขั้นต่ำก็ 300 กว่าบาท มีชีวิตอยู่ได้ด้วยโอที ถ้าไม่มีก็แทบไม่มีเหลือกินใช้ อย่าว่าแต่ดูแลครอบครัวเลย แต่เอาตัวเองให้รอดก็ยากแล้ว เพราะข้าวของมันขึ้นไปรอกันหมดแล้ว
ถามลุงๆป้าจริงเหอะ เคยไปนั่งถามคนเหล่านี้กันไหม ว่าเค้าใช้ชีวิตกันยังไง? มันพอไหม? ทุกวันนี้เค้าก็ใช้ชีวิตแบบจะจมน้ำตายกันอยู่แล้วครับ มันต้องหาจุดสมดุลให้เหมาะสม 400 กว่าบาทสำหรับผมนี่ไม่ได้มากเกินไปเลย
ผมทำงานโรงงานในนิคมที่หนึ่ง ตัวผมเองไม่เดือดร้อน แต่ผมเข้าใจและเห็นใจคนทำงานรายวันทุกคน โอกาสที่พวกเค้าจะได้ใช้ชีวิตแบบพื้นฐานอย่างพอเพียงในฐานะคนไทยคนหนึ่งมันยากเกินไปสำหรับค่าแรง 300 กว่าบาท
ถามลุงๆป้าจริงเหอะ เคยไปนั่งถามคนเหล่านี้กันไหม ว่าเค้าใช้ชีวิตกันยังไง? มันพอไหม? ทุกวันนี้เค้าก็ใช้ชีวิตแบบจะจมน้ำตายกันอยู่แล้วครับ มันต้องหาจุดสมดุลให้เหมาะสม 400 กว่าบาทสำหรับผมนี่ไม่ได้มากเกินไปเลย
ผมทำงานโรงงานในนิคมที่หนึ่ง ตัวผมเองไม่เดือดร้อน แต่ผมเข้าใจและเห็นใจคนทำงานรายวันทุกคน โอกาสที่พวกเค้าจะได้ใช้ชีวิตแบบพื้นฐานอย่างพอเพียงในฐานะคนไทยคนหนึ่งมันยากเกินไปสำหรับค่าแรง 300 กว่าบาท
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่เห็นด้วยสักเจ้า และไม่ได้เห็นด้วยกับระบบค่าแรงขั้นต่ำเลย
ทุกวันนี้ แรงงานมันก็เป็นตามกลไกตลาดอยู่แล้ว ถามจริงๆ ว่ามันมีใครได้ค่าแรงขั้นต่ำเหรอ?
คนมีวุฒิการศึกษา มันก็ได้เกินกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคุณมีวุฒิ มีความสามารถแค่ไหน คนเงินเดือนเป็นแสนก็มี
(ได้ข่าวแถวนี้มีเยอะ) โดยไม่ได้เห็นจะต้องไปพึ่งพากับค่าแรงขั้นต่ำ เพราะค่าแรงมันอิงกับกลไกตลาด ตามความสามารถ ตามวุฒิ ตามฝีมือ
ค่าแรงขั้นต่ำ มันสำหรับแรงงานไร้ฝีมือ หรือพวกรับเงินเป็นรายวัน มันแทบไม่ได้มีประโยชน์อะไรในการไปกำหนด
การไปปรับค่าแรงขั้นต่ำ สำหรับแรงงานฝีมือ มีวุฒิ มีปริญญา คุณจะไม่ได้อะไรจากมันเลย
เพราะคุณได้เกินค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งอิงตามตลาดแรงงานอยู่แล้ว คุณจะไม่ได้รับรายได้เพิ่มขึ้น
แต่สิ่งที่คุณจะได้รับผลทันที คือค่าครองชีพที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะสูงขึ้นมาก
ยิ่งถ้าจู่ๆ ปรับแบบก้าวกระโดดแบบนี้ ค่าครองชีพอาจจะกระโดดขึ้นทันทีหลายสิบเปอร์เซ็น
วันนี้คุณซื้อข้าวจานละ 50 พอค่าแรงขั้นต่ำขึ้นปุ๊บ คุณได้ซื้อข้าวจานละ 80-100 ทันที โดยที่คุณได้เงินเดือนเท่าเดิม
(เพราะไม่ได้อิงค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้วนี่) อีกอย่างเงินที่คุณมีในบัญชี ณ ตอนนี้ มันจะเฟ้อ มูลค่าหายไปเท่าไหร่
สมมติคุณมีเงินในบัญชีหนึ่งแสนบาท มูลค่ามันจะหดกลายเป็นไม่กี่หมื่นทันที เหมือนกัน
การปรับค่าแรงขั้นต่ำ มันแค่วาทกรรม ของประชานิยมแบบหนึ่งแค่นั้น เมื่อไหร่ การเอาเรื่องแบบนี้มาหาเสียง
ประชานิยมมาหาเสียง มันจะหมดไปสักที ปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกตลาดเหอะ อย่าไปแทรกแซงมัน
จะประชานิยมอะไรกันนักหนา เดี๋ยววันหนึ่งได้กลายเป็นเวเนซูเอลาพอดี
พวกที่ได้ประโยชน์ มีแต่พวกแรงงานไร้ฝีมือ แรงงานรายวัน แค่นั้นแหละ แต่คนทั้งสังคม ต้องมาแบกภาระเพิ่ม เพื่อเอาใจพวกรากหญ้า
ถ้าจะประชานิยมในรูปแบบนี้ สู้แจกเงินไปเลยครั้งเดียวจบไปเลยยังดีกว่า
ทุกวันนี้ แรงงานมันก็เป็นตามกลไกตลาดอยู่แล้ว ถามจริงๆ ว่ามันมีใครได้ค่าแรงขั้นต่ำเหรอ?
คนมีวุฒิการศึกษา มันก็ได้เกินกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคุณมีวุฒิ มีความสามารถแค่ไหน คนเงินเดือนเป็นแสนก็มี
(ได้ข่าวแถวนี้มีเยอะ) โดยไม่ได้เห็นจะต้องไปพึ่งพากับค่าแรงขั้นต่ำ เพราะค่าแรงมันอิงกับกลไกตลาด ตามความสามารถ ตามวุฒิ ตามฝีมือ
ค่าแรงขั้นต่ำ มันสำหรับแรงงานไร้ฝีมือ หรือพวกรับเงินเป็นรายวัน มันแทบไม่ได้มีประโยชน์อะไรในการไปกำหนด
การไปปรับค่าแรงขั้นต่ำ สำหรับแรงงานฝีมือ มีวุฒิ มีปริญญา คุณจะไม่ได้อะไรจากมันเลย
เพราะคุณได้เกินค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งอิงตามตลาดแรงงานอยู่แล้ว คุณจะไม่ได้รับรายได้เพิ่มขึ้น
แต่สิ่งที่คุณจะได้รับผลทันที คือค่าครองชีพที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะสูงขึ้นมาก
ยิ่งถ้าจู่ๆ ปรับแบบก้าวกระโดดแบบนี้ ค่าครองชีพอาจจะกระโดดขึ้นทันทีหลายสิบเปอร์เซ็น
วันนี้คุณซื้อข้าวจานละ 50 พอค่าแรงขั้นต่ำขึ้นปุ๊บ คุณได้ซื้อข้าวจานละ 80-100 ทันที โดยที่คุณได้เงินเดือนเท่าเดิม
(เพราะไม่ได้อิงค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้วนี่) อีกอย่างเงินที่คุณมีในบัญชี ณ ตอนนี้ มันจะเฟ้อ มูลค่าหายไปเท่าไหร่
สมมติคุณมีเงินในบัญชีหนึ่งแสนบาท มูลค่ามันจะหดกลายเป็นไม่กี่หมื่นทันที เหมือนกัน
การปรับค่าแรงขั้นต่ำ มันแค่วาทกรรม ของประชานิยมแบบหนึ่งแค่นั้น เมื่อไหร่ การเอาเรื่องแบบนี้มาหาเสียง
ประชานิยมมาหาเสียง มันจะหมดไปสักที ปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกตลาดเหอะ อย่าไปแทรกแซงมัน
จะประชานิยมอะไรกันนักหนา เดี๋ยววันหนึ่งได้กลายเป็นเวเนซูเอลาพอดี
พวกที่ได้ประโยชน์ มีแต่พวกแรงงานไร้ฝีมือ แรงงานรายวัน แค่นั้นแหละ แต่คนทั้งสังคม ต้องมาแบกภาระเพิ่ม เพื่อเอาใจพวกรากหญ้า
ถ้าจะประชานิยมในรูปแบบนี้ สู้แจกเงินไปเลยครั้งเดียวจบไปเลยยังดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าก้าวไกลจัดไม่สำเร็จ จะกลายเป็น 600 >>>อันนี้เป็นไปได้อีกทาง
เพราะ กก เขาแรงไม่ยอมเข้ากับใคร นโยบายก็เป็นอัตลักษ์ เหมือนน้ำกับน้ำมัน
พรรคอื่นเขาก็มีแนวทางแบบนักการเมือง ที่ยอมเสียบางอย่างเพื่อได้เป็นรัฐบวม
ผมว่าคนที่ Happy สุดๆคือ คนนี้ ได้พักผ่อนเสียที ไม่ต้องปะทะคารมกับนักข่าว
ลุงตู่จบการเมือง ลงหลังเสือแบบหล่อๆ ไม่พกช้ำดำเขียว ถ้ารัฐบวมใหม่ทำงานไม่เข้าวิน
คนจะคิดถึงลุง
เพราะ กก เขาแรงไม่ยอมเข้ากับใคร นโยบายก็เป็นอัตลักษ์ เหมือนน้ำกับน้ำมัน
พรรคอื่นเขาก็มีแนวทางแบบนักการเมือง ที่ยอมเสียบางอย่างเพื่อได้เป็นรัฐบวม
ผมว่าคนที่ Happy สุดๆคือ คนนี้ ได้พักผ่อนเสียที ไม่ต้องปะทะคารมกับนักข่าว
ลุงตู่จบการเมือง ลงหลังเสือแบบหล่อๆ ไม่พกช้ำดำเขียว ถ้ารัฐบวมใหม่ทำงานไม่เข้าวิน
คนจะคิดถึงลุง

ความคิดเห็นที่ 5
ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ300มัน10ปีมาแล้วนะครับ
ถ้าคำนวนจากเงินเฟ้อ 450บาทถือเป็นค่าแรงที่ยุติธรรมแล้วครับ
ผมเห็นด้วยกับการรีบๆขึ้นค่าแรงขอ กก ครับ ถ้าระดับล่างสุดมีเงินใช้มากขึ้นเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นครับ
อย่าไปกลัวของแพงขึ้นครับ ค่าน้ำมัน ค่าไฟ มันเท่าเดิมดังนั้นรวมแล้วคิดเป็น%ยังไงก็ไม่เท่าค่าแรงที่เพื่มเงินหมุนเวียนในระบบก็จะเพื่ม
ย้านฐานการผลิตก็อย่ากลัวครับ มันไม่ได้ย้ายกันง่ายๆ
ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายประชานิยมใดๆที่กู้เงินมาแจก กู้มารุ่นถัดไปต้องใช้หนี้ครับ
โดยเฉพาะ 10000 ของเพื่อไทย ผมคิดว่าไม่ได้เรื่องครับ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรขอทาน ก็ยกเลิกไปได้แล้วครับ ปลูกฝังค่านิยมที่ผิดครับจนแล้วรอเงินช่วยเหลืออย่างเดียว
ออกมาทำงานครับ ทำงานเท่านั้นถึงจะมีรายได้

ถ้าคำนวนจากเงินเฟ้อ 450บาทถือเป็นค่าแรงที่ยุติธรรมแล้วครับ
ผมเห็นด้วยกับการรีบๆขึ้นค่าแรงขอ กก ครับ ถ้าระดับล่างสุดมีเงินใช้มากขึ้นเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นครับ
อย่าไปกลัวของแพงขึ้นครับ ค่าน้ำมัน ค่าไฟ มันเท่าเดิมดังนั้นรวมแล้วคิดเป็น%ยังไงก็ไม่เท่าค่าแรงที่เพื่มเงินหมุนเวียนในระบบก็จะเพื่ม
ย้านฐานการผลิตก็อย่ากลัวครับ มันไม่ได้ย้ายกันง่ายๆ
ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายประชานิยมใดๆที่กู้เงินมาแจก กู้มารุ่นถัดไปต้องใช้หนี้ครับ

โดยเฉพาะ 10000 ของเพื่อไทย ผมคิดว่าไม่ได้เรื่องครับ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรขอทาน ก็ยกเลิกไปได้แล้วครับ ปลูกฝังค่านิยมที่ผิดครับจนแล้วรอเงินช่วยเหลืออย่างเดียว
ออกมาทำงานครับ ทำงานเท่านั้นถึงจะมีรายได้
ความคิดเห็นที่ 3
แล้วไม่รู้จริงๆเหรอ ไอ้ 450 บาทนี้ปรับขึ้นทันที ภาคธุรกิจ โรงงาน กลุ่มก่อสร้าง ไม่มีเวลาปรับตัวถ้าเริ่มใช้จริงผู้ใช้แรงงานคงโดนให้ออกมาบางส่วนก่อน แต่ 600 บาท เค้าหมายถึงค่อยๆปรับจนถึงปี 70 อีกตั้ง 4 ปี ภาคธุรกิจ โรงงาน กลุ่มก่อสร้างยังมีเวลาปรับตัว โรงงานยังมีเวลาย้ายฐานไปต่างประเทศ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ดีทั้งคู่ แต่ถ้าต้องเลือกคงเลือก 600 บาทที่ปี 70. เพื่อให้มีเวลาปรับหรือขยับขยายได้ แต่ถ้าเริ่มเลย มีแต่พัง

ความคิดเห็นที่ 4
เห็นน้องพม่าเข็นผักตั้งแต่ตี 2 ถึง 8 โมงเช้าได้วันละ 500-650 บาท ไปทำร้านข้าวมันไก่ 10.00 - 16.00 ได้ 320 บาท
ผมไม่อยากบอกหรอกว่ามันมีงานเยอะแยะที่เงินได้มากกว่านั่งอยู่อ๊อฟฟิศ มานั่งรอวันหวังวันละ 350 450 600 ไร้สาระ ในเวลาเดียวกันที่นั่งรอนั่งดราม่า คนกลุ่มนึงที่ถูกดูแคลนเขารับเงินทุนวันชีวิตไปถึงไหน
เรื่องเงินรายวันมันไม่จบหรอก จะไปบังคับให้เขาขึ้น เขาขึ้นได้แต่จ้างคนน้อยลงเพราะไม่มีปัญญาจ่าย คนที่ถูกจ้างงานโหลดก็ร้องจ๊ากออกงานมาหางานที่สบาย และงานสบายที่ไหนจะมาจ้างแพง
ผมไม่อยากบอกหรอกว่ามันมีงานเยอะแยะที่เงินได้มากกว่านั่งอยู่อ๊อฟฟิศ มานั่งรอวันหวังวันละ 350 450 600 ไร้สาระ ในเวลาเดียวกันที่นั่งรอนั่งดราม่า คนกลุ่มนึงที่ถูกดูแคลนเขารับเงินทุนวันชีวิตไปถึงไหน
เรื่องเงินรายวันมันไม่จบหรอก จะไปบังคับให้เขาขึ้น เขาขึ้นได้แต่จ้างคนน้อยลงเพราะไม่มีปัญญาจ่าย คนที่ถูกจ้างงานโหลดก็ร้องจ๊ากออกงานมาหางานที่สบาย และงานสบายที่ไหนจะมาจ้างแพง
แสดงความคิดเห็น
คนที่ซีเรียสเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 นี้เขาไม่รู้จริงๆเหรอว่าถ้าก้าวไกลจัดไม่สำเร็จ จะกลายเป็น 600
ถ้า 450 ยังช๊อคขนาดนี้ เจอ 600 ไม่น้ำลายฟูมปากกันเลยทีเดียวรึ ? ดูแลสุขภาพด้วยสำหรับคนที่กำลังซีเรียสอย่างแรงนะครับ