JJNY : เมืองทองทะลุเต็นท์│สถานทูตโต้ ‘ทิศทางไทย’ อ้างจ้อ ‘ยกเลิก 112’│ผู้สูงวัยรับ สับสนบัตร2ใบ│4ทุ่ม รู้ผลไม่เป็นทางการ

เมืองทองทะลุเต็นท์ สาวออฟฟิศ-น.ศ. พกร่ม ยาดม พัด หวังประเทศเปลี่ยน วอนรัฐบาลใหม่แก้เศรษฐกิจด่วน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3978501
 
 
เมืองทองทะลุเต็นท์ สาวออฟฟิศ-น.ศ. พกร่ม ยาดม พัด หวังประเทศเปลี่ยน วอนรัฐบาลใหม่แก้เศรษฐกิจด่วน
 
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่จุดเลือกตั้งเขต 4 ปากเกร็ด นนทบุรี บริเวณลานด้านข้างศูนย์การค้าคอสโม บาซาร์ เมืองทองธานี เวลา 08.39 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้ง พบว่ามีประชาชนเข้ามาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก จนทำให้คิวยาวทะลุเต็นท์ที่เตรียมไว้ โดยสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ทำให้ผู้เดินทางมาร่วมใช้สิทธิพากันพกร่ม ยาดม พัด มาด้วย
 
น.ส.ฉัตรสุดา พรรณศิลป์ อายุ 33 ปีพนักงานออฟฟิศ กล่าวว่า เดินทางมาตั้งแต่ 8 โมง บ้านอยู่ที่สนามบินน้ำ แต่ทะเบียนบ้านอยู่ที่นี่เลยมาเลือกที่นี่ ตอนเดินทางมารถถือว่าติดมากถ้าเทียบกับวันอาทิตย์ปกติ เพราะคนออกมากันเยอะ
 
คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความหวัง เพราะรู้สึกว่าคนกระตือรือร้นออกมาเลือกตั้งเยอะ และมันเหมือนกับทุกคนรอให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากขึ้น รวมถึงตัวเองด้วย เราคาดหวังเรื่องความก้าวหน้าของประเทศและเรื่องสิทธิของประชาชนทุกคน ให้ทุกคนมีสิทธิในทุกอย่างมากขึ้น
 
“อยากให้ทุกคนออกมา เพราะมันใช้เวลาแค่ 10-15 นาทีในการออกมาเลือก ขอให้ทุกคนออกมาร่วมด้วยช่วยกัน” น.ส.ฉัตรสุดา กล่าว
 
น.ส.ธัญญาพร รัตนศิลป์ อายุ 43 ปี อาชีพขายประกัน กล่าวว่า มีความคาดหวังว่าประเทศจะเปลี่ยนแปลง ถึงออกมาเลือกตั้งครั้งนี้ และอยากให้รัฐบาลใหม่ทำเศรษฐกิจให้มันดีขึ้นกว่าเดิม
 
เศรษฐกิจแย่ มันก็ทำให้ลูกค้าเราไม่มีเงินมาทำประกัน ค้าขายก็ขาดทุน อยากให้ช่วยกันออกมาเลือกตั้ง เพราะถ้าคุณมาเร็วมันก็ยิ่งได้กลับเร็วเหมือนกัน” น.ส.ธัญญาพร ตอบ
 
นายภควัต ภันทาวงศ์ อายุ 25 ปี นักศึกษา กล่าวว่า ตั้งความหวังไว้อยากเห็นประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม ให้มันมีความยุติธรรมมากขึ้น และเรื่องที่ต้องเข้ามาแก้ไขกันอย่างเร่งด่วนคือเรื่องปากท้อง
 
“ถ้าเศรษฐกิจมันดี เรื่องอื่นที่ตามมามันก็จะดีไปด้วย และอยากให้แก้เรื่องปัญหาการจราจรที่มันติดขัดซะเหลือเกิน
 
“ใครที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็อยากให้ออกมาใช้สิทธิ์ อย่านอนหลับทับสิทธิ์ที่ตัวเองมี” นายภควัตกล่าว



สถานทูตโต้ ‘สถาบันทิศทางไทย’ อ้างคณะทูตจ้อนักการเมือง ‘ยกเลิก 112’
https://prachatai.com/journal/2023/05/104090

สถานทูตโต้ ‘สถาบันทิศทางไทย’ หลังโพสต์ อ้างคณะทูตจ้อนักการเมือง ‘ยกเลิก 112’
 
13 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “สถาบันทิศทางไทย” ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำความคิดของกลุ่มอนุรักษนิยมในโลกออนไลน์ ได้เผยแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการพบปะระหว่างคณะทูตจากกลุ่มชาติตะวันตกและพันธมิตรจำนวนหนึ่ง กับตัวแทน 3 พรรคการเมืองในประเทศ เพื่อพูดคุยกันเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และการยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์

https://twitter.com/ThaiMove206/status/1656530395452829696
 
ความลับไม่มีในโลก! รายงานลับจากหน่วยความมั่นคง เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา คณะทูตจากสหรัฐ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และตัวแทนอียู เชิญตัวแทน พท. ก้าวไกล พปชร. ไปคุยที่บ้านทูตนิวซีแลนด์ เรื่องการตั้งรบ.ใหม่ และการยกเลิก ม.112” สถาบันทิศทางไทยระบุ 
 
ต่อมา ข้อความดังกล่าวได้รับการเผยแพร่และส่งต่ออย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้สนับสนุนของสถาบันทิศทางไทย ซึ่งตรงกับช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ 
 
วานนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยังสถานทูตนิวซีแลนด์ ซึ่งได้ถูกกล่าวอ้างในข้อความของสถาบันทิศทางว่าเป็นเจ้าภาพการพูดคุย และได้รับคำชี้แจงจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศและการค้านิวซีแลนด์ระบุว่า การพบปะดังกล่าวมีขึ้นเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมือง 
 
เจ้าหน้าที่การทูตมักจะพบปะกับคนไทยจากหลากหลายภาคส่วนบ่อยครั้ง รวมถึงพรรคการเมืองด้วย” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและการค้านิวซีแลนด์กล่าวผ่านอีเมล
 
ในกรณีนี้ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของพรรคการเมืองที่เข้าร่วมการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่การทูต ได้อธิบายเกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจของแต่ละพรรค และความปรารถนาที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้แก่ประเทศ[ไทย]” 
 
นอกจากนี้ แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยข้างต้นได้ยืนยันกับประชาไท ด้วยอีกทางหนึ่งว่า ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมการพูดคุยตามคำเชิญของสถานทูตนิวซีแลนด์ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง
 
แหล่งข่าวคนดังกล่าวยืนยันว่า มาตรา 112 มิได้อยู่ในประเด็นการหารือตามคำกล่าวอ้างของสถาบันทิศทางไทยแต่อย่างใด และกล่าวเสริมว่า นอกจากทั้ง 3 พรรคการเมืองแล้ว สถานทูตนิวซีแลนด์ได้เชิญพรรคการเมืองอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งด้วย แต่ไม่สามารถส่งตัวแทนมาได้เพราะติดภารกิจ 
 
ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้สถาบันวิจัยเอเชีย เซ็นเตอร์ ได้เผยแพร่รายงานศึกษารูปแบบข้อมูลบิดเบือนออนไลน์โดยรัฐ หรือที่เรียกว่า “ไอโอ” เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. เช่น การบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งและการทำลายความน่าเชื่อถือของ นักการเมือง พรรคการเมือง และนโยบายของพรรค หรือการสร้างความเกลียดชังและขยายความแตกแยกทางอุดมการณ์ในสังคม อันนำไปสู่การแบ่งขั้วการเมืองแบบสุดโต่ง
 
ในการเปิดตัวรายงานดังกล่าว เจมส์ โกเมซ นักรัฐศาสตร์และผู้อำนวยการภูมิภาคของเอเชีย เซ็นเตอร์คาดการณ์ว่า 
 
ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป ประเทศไทยจะประจักษ์ถึงการขยับไปสู่การใช้ปฏิบัติการข่าวสารในการทำลายประชาธิปไตย แทนที่การยึดอำนาจโดยทหาร โดยปฏิบัติการข่าวสารจะกลายเป็นอาวุธในการสร้างความชอบธรรมทางการเมืองให้กับทหารผ่านกระบวนการเลือกตั้งโดยการปลุกปลั่นกลุ่มอนุรักษ์นิยมและใส่ร้ายขบวนการประชาธิปไตย
 
โกเมซเสริมว่า “ไอโอในประเทศไทยมีความเป็นสถาบันสูง และหากไม่มีมาตรการจัดการปฏิบัติการเหล่านี้ อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนจะเป็นตัวชี้ขาดในการเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนี้
 

   
ผู้สูงวัยรับสับสนบัตร 2 ใบ ‘เขียว-ม่วง’ มหาสารคามตั้งเป้าใช้สิทธิเกิน 80%
https://www.matichon.co.th/region/news_3978492

บรรยากาศเลือกตั้งคึกคัก มหาสารคามตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิเกิน 80% ผู้สูงอายุสับสนกาบัตร 2 ใบ
 
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 22 เขตเลือกตั้งที่ 1 ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม บรรยากาศการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ก่อนเวลา 08.00 น.มีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้สูงอายุ กลุ่มวัยรุ่น คนวัยทำงาน และประชาชนทั่วไป มาตรวจสอบรายชื่อ เพื่อดูลำดับที่ บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง ก่อนถึงเวลาเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าภายในหีบเลือกตั้งทั้ง 2 ใบว่างเปล่า ก่อนที่ปิดผนึก และเปิดหน่วยให้มีการเข้าใช้สิทธิในเวลา 08.00 น. ถึงแม้ว่าในช่วงเช้ามืดจะมีฝนตกลงมา แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทางไปเลือกตั้ง
 
โดยหน่วยเลือกตั้งนี้ มีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม มีชื่ออยู่ในลำดับที่ 431 มาใช้สิทธิ์เป็นคนแรก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ภาพรวมบรรยากาศของการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนมีความตื่นตัวที่จะมาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีคนทุกเพศทุกวัย เดินทางมาเลือกตั้งกันตั้งแต่เช้า ก็ขอให้เตรียมหลักฐานแสดงตน บัตรประชาชนมาให้เรียบร้อย หรือโหลดแอพพลิเคชั่น ThaiD ซึ่งสามารถใช้ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลและใช้แสดงตนแทนบัตรจริงได้
 
ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งล่วงหน้า มีประชาชนมาใช้สิทธิกว่าร้อยละ 90 จะเห็นได้ว่ามีความตื่นตัวอย่างมาก ซึ่งในวันนี้ทางกกต.ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยส่วนตัวคาดว่าจะมีผู้ออกใช้สิทธิเกินร้อยละ 80 แน่นอน ทั้งนี้จังหวัดมหาสารคาม มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 777,505 คน แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 6 เขต มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,777 หน่วยเลือกตั้ง
 
ด้านนางเตือนใจ รัตนแสง อายุ 86 ปี ซึ่งร่างกายยังแข็งแรง และมารอเลือกตั้งก่อนเวลา 08.00 น. กล่าวว่า วันนี้ลูกสาวได้พามาเลือกตั้ง มองว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญ ทุกคนมี 1 สิทธิ 1 เสียง ต้องออกมาใช้สิทธิของตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมาก่อน แต่ตอนนี้อายุมากแล้ว จึงไม่ได้มา ส่วนปัญหาและอุปสรรคของผู้สูงอายุ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือ บัตรเลือกตั้งที่มี 2 ใบ บัตรสีม่วงเลือกคน บัตรสีเขียวเลือกพรรค ซึ่งสร้างความสับสนเป็นอย่างมาก ก่อนเข้าคูหา ต้องจำให้ดี ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่