ความหวังของประเทศไทยกับการพัฒนาที่ยั่งยืน จะรวมศูนย์อำนาจ หรือกระจายอำนาจ?

ไม่ว่าจะปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ   หรือกระจายอำนาจ หรือแบบผสมก็แล้ว

ก็หนีไม่พ้นการทุจริตคอรัปชั่นอยู่ดี ส่วนตัวมองว่าท้องถิ่นยังไม่พร้อมในทุกๆด้าน บุคคลากรขาดความรู้ ทั้งทรัพยากร รัฐบาลกลางและท้องถิ่นไม่ทำงานประสานกัน ขาดการสื่อสารที่เป็นระบบ  รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่นด้วยกันเองด้วย 

พอออกกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับระเบียบปฏิบัติทีไร ต้องมีเหตุขัดข้องเพราะเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นสับสน และไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของระเบียบใหม่นั้นและไม่มีการสื่อสารที่ดีต่อกัน ส่วนประชาชนที่ไปติดต่อก็ต้องเสียเวลาไปหลายรอบ กว่าจะได้ข้อสรุปออกมา 

จากประสบการณ์ตรง ติดต่องานราชการส่วนกลางและที่ส่วนท้องถิ่น โดนเรียกรับค่าดำเนินการ โดนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ แค่ขอให้แก้ไขที่อยู่ในเอกสาร (ส่อแววการทุจริต เพราะบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ทั้งๆที่เป็นหน้าที่ แต่จะช่วยรับเรื่องให้)  ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าการจ่ายใต้โต๊ะเป็นเรื่องปกติ มิฉะนั้นจะโดนถ่วงเรื่องหลายปี โดนเองมากับตัว เหม็นเบื่อ....

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็เป็นผู้มีอิทธิพลมารับตำแหน่ง ถ้าข้าราชการคนไหนตงฉินขัดผลประโยชน์ ก็จะโดนดักทำร้าย ตามที่เป็นข่าวออกมาบ่อยครั้ง

นักการเมืองที่เป็นสายวิชาการ อยากให้ศึกษาสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น และฟังความรอบข้างให้ดีๆก่อนการกระจายอำนาจทางทฤษฏีมันฟังดูดีจริงๆ ในอดีตก็เคยกระจายอำนาจกันไปแล้ว 
ผลที่ออกมาไปดูได้ มีการสร้างกลุ่มอิทธิพลในท้องถิ่นยากแก่การปราบปราม 

พวกสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เหตุไฟไหม้ อยากให้มอบหมายหน่วยงานหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ หรือ ตั้งหน่วยรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เหมือนกรณีซึนามิ ใครที่เป็นคนพื้นที่ ขอข้อมูลอัพเดทหน่อยได้ไหมคะ เวลาเห็นข่าวนักดับเพลิงเสียสละชีวิต แล้วเสียใจมากอยากให้ตั้งกองทุนรับบริจาคให้ครอบครัวนักดับเพลิงด้วย

ส่วนตัวแล้วติดต่องานส่วนกลางได้รับความสะดวกรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญ ต่างกับไปติดต่องานที่ต่างจังหวัดบางแห่ง  น่าจะเพราะไม่มีระบบตรวจสอบและประเมิณที่ดีด้วย

บางคนรู้ดีว่าหน่วยงานท้องถิ่นบางแห่ง บริหารเงินกันเก่งขนาดไหน มีเงินเยอะมาก ดูจากงบประมาณที่ออกข่าวการจัดซื้อวัคซีนโควิด19  เคยเจอกับเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นได้งบไปเที่ยวยุโรปเป็นหมู่คณะ จะดีใจมากถ้าประชาชนในพื้นที่อยู่ดีกินดีแล้วมีเงินเหลือพอจัดสวัสดิการให้ไปเที่ยวต่างประเทศได้

สรุป อยากให้ประเทศไทยก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีมีสุข ไม่อยากให้พายเรือในอ่างวนไปมา ตั้งแต่สมัยเราเลือกตั้งครั้งแรกตอนอายุ 18 สื่อก็รณรงค์ว่ามีความหวังกับคนรุ่นใหม่จะมาเปลี่ยนประเทศได้ จนตอนนี้อายุขึ้นเลข 4 แล้ว.....เราขอคิดบวกและมีความหวังกับการเลือกตั้งทั่วประเทศจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.2566 นี้ ยังดูๆอยู่ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร แต่ไปใช้สิทธ์แน่นอน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่