ถึงคิว'อปท.' !? บทนำ มติชนออนไลน์

กระทู้สนทนา
กระแสข่าวเรื่องพฤติกรรมของผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
กำลังเป็นประเด็นรุนแรง เมื่อ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้เขียนเฟซบุ๊ก ระบุพฤติกรรมผู้บริหารบางคน ใช้งบไปดูงานต่างประเทศ
กินไวน์ขวดละแสน แสดงมารยาทไม่เหมาะสมบนเครื่องบิน และยังระบุ
ต่อมาว่า มีการหาประโยชน์จากงบประมาณด้วยการนำเอาบริษัทเครือญาติ
เข้าไปประมูลหรือรับโครงการของหน่วยงาน

ขณะที่ผู้บริหาร อปท.ได้ออกมาตอบโต้ว่า ม.ล.ปนัดดาควรแยกแยะองค์กร
กับตัวบุคคลออกจากกัน ทุกองค์กรย่อมมีคนดีและคนไม่ดี การออกมาพูด
แต่เรื่องไม่ดีเหมือนจงใจทำลาย อปท. หรือสร้างกระแสเพื่อนำไปสู่การยุบ
อปท.

ข้อสังเกตของผู้บริหาร อปท.เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะการปกครองท้องถิ่นปัจจุบัน
ได้กระจายอำนาจไปสู่ประชาชนให้ปกครองตนเอง ทำให้ระบบราชการเดิมที่เน้น
การรวมศูนย์ในส่วนกลาง ต้องสูญเสียบทบาทและอำนาจ ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ
ได้แก่ ความเห็นของนายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการรัฐศาสตร์ ที่ชี้ว่า
ปัญหาคอร์รัปชั่นแก้ได้ หากผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล อปท.จะใช้
ความเข้มงวดมากขึ้น และวิเคราะห์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นแผนล้ม อปท.ด้วยการ
กล่าวหาว่ามีทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างความปั่นป่วน แล้วให้องค์กรอิสระเข้าไปตรวจ
สอบข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยน อปท.ในแบบใหม่ที่ผู้มี
อำนาจต้องการ


การใช้ข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยสร้างกระแส
สังคมและใช้องค์กรอิสระเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นโมเดลที่เกิดขึ้น และใช้
ได้ผลมาแล้วในการเมืองระดับชาติของประเทศไทย เป้าหมายสำคัญได้แก่ ระบบ
การเมืองที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดและตัดสิน ดังนั้น นักการเมืองทุกระดับทั้งท้องถิ่น
และระดับชาติ จะต้องตระหนักและระมัดระวัง อย่าให้พฤติกรรมส่วนตัวกลายเป็น
เงื่อนไขล้มระบบการเมืองที่ประชาชนมีสิทธิมีเสียง และในภาพรวม การทุจริต
คอร์รัปชั่นมีทุกวงการ รวมถึงในวงราชการเอง จะต้องปราบปรามอย่างเสมอภาค
เสมอหน้ากัน ไม่กระทำสองมาตรฐาน โดยยกเว้นหรือให้อภิสิทธิ์กับใคร โดยเฉพาะ
การใช้ข้อหานี้เพื่อผลทางการเมือง สุดท้ายสังคมจะเสียหาย เพราะคนโกงตัวจริง
ลอยนวล ขณะที่ระบบเสียหายไปหมด

http://www.matichon.co.th/daily/view_newsonline.php?newsid=1409538035§ionid=0102

อ่านบทความที่ไหน  จำไม่ได้  เขียนว่า  เลือกตั้งส่วนท้องถิ่น  แต่ละครั้ง
ผู้สมัครคนเดิม  จะกลับมาเพียง 30%  นั่นเพราะปชช. รับทราบในการทำงาน
ขององค์กรส่วนท้องถิ่นว่า  แต่ละคนเป็นแบบไหน ยิ่งใกล้ชิด  ก็ยิ่งรับรู้
การเลือกตั้ง  คือบทเรียนเบื้องต้น ของระบอบประชาธิปไตย  ที่ปชช.ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง  ยิ้ม

สาวแว่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่