>>>Long Covid 2023 ทำลายสุขภาพจิตสุขภาพกาย ใครเป็นบ้างมาคุยกันค่ะ<<<


โควิด ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกแล้วในวันนี้แต่การติดเชื้อแล้วทำให้เราป่วยมันก็ใหม่อยู่เสมอ อย่าประมาท
วันนี้อยากมาเล่า มาคุยเรื่องโควิดที่เราติดมาตอนกลับมาจากเมืองไทยน่าจะติดมาจากบนเครื่องบินที่แออัดคนเต็มเครื่องบิน
เรากลับไทยเมื่อเดือนมกราคมตอนใกล้จะสิ้นเดือนและอยู่ยาวจนถึงวันที่ 3 มีนาคม
ไม่เคยไปใช้ชีวิตที่เสี่ยงในการติดเชื้อในขณะที่อยู่ที่เมืองไทย
ใส่หน้ากากทุกแห่งที่เขาขอความร่วมมือ

ในระยะที่ผ่านมาตั้งแต่มีโควิด คนในบ้านที่ประเทศสวิสติดกันมาคนละ 1 ครั้งทุกคน
อาการไม่รุนแรง อาทิตย์หนึ่งผ่านไปทุกคนก็หายเป็นปรกติกินแค่ยาพาราซื้อกินเองไม่มีใครไปหาหมอ
เรายังรอด

วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาเราเดินทางโดยสารเครื่องบินในประเทศและนอกประเทศใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินรวมแล้ว 14-15 ชั่วโมง
กลับมาถึงบ้านที่สวิสอาการเริ่มออกวันที่ 6
ปวดหัวตัวร้อนมีไข้ไอ ปวดเนื้อปวดตัว อาการหนักขึ้นทุกวัน
วันที่ 10 อาการหนักสุด ๆ ไอจนไม่มีเสียงมีไข้เสมอ เลยตรวจ atk  ขึ้นแดง 2 ขีดทันทีรอไม่กี่วินาที

ลูกสาวและสามีเริ่มมีอาการเหมือนเราอาการหนักเหมือนเราหลังจากนั้น

ที่ประเทศสวิสติดก็ไม่ต้องกักตัวไม่ต้องใส่หน้ากากแถมไปทำงานได้ไม่มีใครกลัว
เราไปทำงานไม่ใหวคืออาการหนักเราลาป่วย 3 วันและหลังจากนั้นต้องไปทำงานเพราะคนน้อยและอาการเริ่มทุเลาแต่ยังไม่หาย
หัวหน้าก็ติดจากเราเขาก็ป่วยแต่เขาไม่ตรวจและชวนเราใส่หน้ากากในอาคารถ้าเป็นไปได้เราก็ทำตามพร้อมกับเขาใส่ ๆ ถอด ๆ ในอาคารที่ทำงาน
สามีกับลูกของเราไปทำงานกันทั้งที่ป่วย
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปต่อมรับกลิ่นหายไป ไม่ได้กลิ่น และลูกสาวของเราก็ไม่ได้กลิ่น

เรามีอาการดีขึ้นหลังจาก 14 วันผ่านไปไม่มีไข้ แต่มีไอเยอะอยู่เจ็บคอมีอยู่ตลอด

มาวันนี้ 5 อาทิตย์ผ่านไปเรามีอาการแบบนี้ตลอดทุกวัน

ปวดหัวปวด ๆ หาย ๆ
มีไข้ เป็น ๆ หาย ๆ
ปวดเนื้อปวดตัวเป็น ๆ หาย ๆ
ไอแห้ง ๆ ตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้ ไอเริ่มน้อยลงมาก
คลื่นใส้เป็น ๆ หาย ๆ
เจ็บคอไม่หาย เวลาพูดเยอะ ๆ นาน ๆ เสียงจะเริ่มหายแหบลงฟังออกชัดเจน แสบคอแสบลงไปถึงร่องคอหอย
มีน้ำมุก ใส ๆ และเสลดใส ๆ ที่แปลกมาก ไม่เหมือนจาการป่วยไข้หวัดที่ตอนใกล้หายน้ำมูกหรือเสลดจะข้นเหนียวสีเข้มมากขึ้น
เพราะมีอาการเหล่านี้ทุกวัน ทำให้เราไม่มีกำลัง อ่อนเพลีย เฉื่อยชา สมองล้า ไม่อยากทำอะไรนอกจากไปทำงานเป็นลูกจ้างเพราะจำเป็นต้องทำ
พออยู่บ้านเราหมดแรงจริง ๆ ซึ่งสามีก็บอกเหมือนกันว่าเขาไม่เคยหมดแรงเหมือนครั้งนี้ และลูกสาวของเราก็บอกเหมือนกัน
แต่ทั้ง 2 ฟื้นตัวเร็วกว่าเราเท่านั้น
4 อาทิตย์ผ่านไปต่อมรับกลิ่นเริ่มกลับมาแม้จะยังไม่ 100%
ทุกคนที่ติดเชื้อกินยาพารา / อีบู ซื้อกินเองแม้จะมีประกันป่วยแต่ไม่มีใครไปหาหมอเลย

เพราะเรามีอาการเหล่านี้ที่ยาวนานเราเลยตรวจ atk อีกครั้ง เมื่อวาน ขึ้นขีดเดียวสีแดงเท่านั้น
เราคือกลุ่มผู้ป่วยที่สูงวัยและมีโรคประจำตัวที่เสี่ยง
แต่ไม่เคยอ่อนแอป่วยนานแบบนี้เลยสักครั้งในชีวิต
ตอนนี้เราก็เฝ้าดูอาการของตัวเองและมีความคิดที่จะไปตรวจร่างการกับหมอประจำบ้านและหมอหัวใจดู

ใครเป็นบ้างมาคุยกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่