อัพเดทราคาหุ้น TFEX และทองคำ 27/03/2023

สวัสดีครับ เพื่อนๆ นักเทรด TFEX CLUB ทุกๆท่าน วันนี้จะมีข่าวอะไรที่น่าสนใจบ้างเราไปติดตามกันเลยครับ


ครบทุกตัวหุ้นดัง กับ พี่หมาป่าแห่งวอลสตรีท 27 มีนาคม 2566 
----------- 
LEO อัดงบลงทุน 800-1,000 ลบ. ตั้งเป้า Blue Chip stock LEO ตั้งเป้าปีนี้เป็นปีแห่งการก้าวสู่ความเป็นบริษัท Blue Chip Stock ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปักหมุด Gross Profit Margin เพิ่มขึ้น 15-20% โดยจะเน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็น Non Freight พร้อมอัดงบลงทุน 800-1,000 ลบ. เล็งซื้อกิจการ-ร่วมทุนเพิ่ม บวกกับเดินหน้าปิดดีลในมือทั้งในและตปท. 
----------- 
AURA โอกาสทองทำ New High จากความกังวลกับวิกฤตแบงก์ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ก็ทำเอาราคามีการปรับราคาขึ้นหลายครั้งต่อวัน งานนี้ "จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" นายกสมาคมค้าทองคำ เผยว่าทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ถ้าเกิดวิกฤติธนาคารนั้นยังไม่คลี่คลาย ราคาทองก็มีโอกาสทำนิวไฮใหม่ แบบนี้ AURA ร้านทองรายแรกในตลาดหลักทรัพย์น่าจับตามองเป็นพิเศษเลยครับ
 -----------
ITTHI ค่อยๆปล่อยของดี อีกเพียบ ITTHI ปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วไปด้วยราคา 3.26 บาท ดีดแรงถึง 16.43% กลับมายืนในระดับ 3 บาทอีกครั้ง ด้าน บล.บียอนด์ ให้ราคาเหมาะสมที่ 4.50 บาท ชี้ ITTHI มีจุดเด่นในด้านความเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์ส่องสว่างที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับต้น ๆ ราว 50% ในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เสริมทัพมาด้วยพันธมิตรรายใหม่ MEGAMAN จากจีนที่คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตที่โดดเด่นในระยะยาว
-----------
PTT - GPSC ลุยปลูกป่า 2 ล้านไร่ ตั้งเป้าได้คาร์บอนเครดิตมหาศาล PTT นำทัพกลุ่มผนึกกำลัง GPSC ร่วมกับกำลังภาครัฐและภาคีเครือข่าย ปลูกป่า 2 ล้านไร่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และแหล่งกักเก็บคาร์บอนจำนวน 2 ล้านไร่ เดินหน้ามุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2065
-----------




สำนักข่าว ไบเดน นิวส์ "นึกถึงหุ้น นึกถึงเรา" ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2566 
-----------
 IMH ขึ้น XD 28 มี.ค.นี้ รับปันผล 0.14 บาท IMH งบปี 2565 ที่มีรายได้รวม 651 ลบ. กำไรสุทธิ 173 ลบ. หรือ มีมาร์จิ้น 26.6% จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น เตรียมจ่อขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ จ่ายปันผล 25 พ.ค.66
 ----------- 
GABLE นับ 1 ไฟลิ่ง ขาย IPO 175 ล้านหุ้น จีเอเบิล (GABLE) นับ 1 ไฟลิ่ง ขายหุ้น IPO 175 ล้านหุ้น เข้าซื้อขายบนกระดาน SET ภายในปีนี้ ประกาศศักดาผู้นำธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล มุ่งสู่ผู้นำ “Tech Enabler” บริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย
 ----------- 
SISB จ่อเปิดโรงเรียนสาขาใหม่ 2 แห่ง ส.ค.นี้ ดันรายได้ปี 66 โต 30% SISB เดินหน้าขยายโรงเรียนนานาชาติสาขาเดิมและสาขาใหม่พร้อมตั้งเป้าปี 2568 เพิ่มศักยภาพรองรับจำนวนนักเรียนทั้งหมด 8,000 คน จากปัจจุบันรองรับ 4,675 คน ผลจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จำนวนนักเรียนใหม่ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ฟากซีอีโอ" ยิว ฮอค โคว" ระบุเตรียมเปิดโรงเรียนสาขาใหม่ 2  แห่ง ทั้งสาขานนทบุรี และระยอง ภายในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมรับนักเรียนเพิ่ม สนับสนุนรายได้ปี2566 เติบโตแตะระดับ 30%   
----------- 
NEX ลุยส่งมอบรถบรรทุกไฟฟ้า BEV Cargo Truck NEX ลุยส่งมอบรถบรรทุกไฟฟ้า NEX ประเภท BEV Cargo Truck ให้กับ “มนตรีทรานสปอร์ต” เพื่อให้บริการลูกค้า DSV Solutions Ltd. ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์แบบ 3PL พร้อมเลือก NEX เป็นพันธมิตรรายแรกเพราะเชื่อมั่นคุณภาพการผลิตไว้ใจในความปลอดภัย ด้านรองผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด  "นาวิน เสนาะดนตรี" ระบุว่าความต้องการใช้รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นคึกคัก เดินหน้าเร่งผลิตเต็มกำลัง เผยมีลูกค้าอยู่ระหว่างเจรจาอีกเพียบ มั่นใจสนับสนุนรายได้-กำไรปีนี้ทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 
----------- 
MICRO กางแผนปี 66 พอร์ตสินเชื่อแตะ 5.5-5.8 พันล้าน MICRO กางแผนธุรกิจปี 2566 ตั้งธงปล่อยสินเชื่อใหม่ 2,800-3,000 ลบ. ขยายพอร์ตแตะ 5,500-5,800 ลบ. ชี้ความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกมือ 2 และรถจักรยานยนต์ใหม่ยังขยายตัว แต่ MICRO เน้นคัดกรองคุณภาพลูกหนี้-คุมเข้ม NPL สิ้นปีนี้ต่ำกว่า 4% เตรียมพร้อม Digital Transformation เพื่อขยายธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ล่าสุด MFIN ธปท.ไฟเขียวให้ไลเซ่นส์แล้ว เตรียมปล่อยสินเชื่อไตรมาส 2/66 นี้ ด้านผลประกอบการปี 65 มีรายได้รวมอยู่ที่ 853.74 ลบ. โต 35% กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 79.14 ลบ. ประกาศจ่ายปันผลปี 65 หุ้นละ 0.036 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 8 พ.ค.66 
-----------




สรุปยอดวันที่ 2 ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า พบคนไทยทั้งในและ ตปท.แจ้งขอใช้สิทธิเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันที่สองของการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร ซึ่ง กกต.จะเปิดให้ลงทะเบียนไปจนถึงวันที่ 9 เมษายน สำนัก​บริหารการทะเบียน​ สำนักงาน กกต. ได้สรุปยอดผู้​ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง มีผู้มาลงทะเบียน 47,315 คน

แบ่งเป็น ลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ต 47,215 ราย และ ลงทะเบียนที่นายทะเบียนท้องที่ 100 ราย ซึ่งใน กรุงเทพมหานคร มีผู้ขอลงทะเบียน 20,519 ราย ขณะที่ จ.ชลบุรี มีผู้มาขอลงทะเบียนเพิ่มขึ้น โดยวันนี้มาลงทะเบียน 3,249 ราย
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าประมาณ 2,000 ราย มี 3 จังหวัด คือ จ.สมุทรปราการ มีผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2,763 ราย จ.ปทุมธานี มีผู้ขอลงทะเบียน 2,473 ราย จ.นนทบุรี มีผู้ลงทะเบียน 2,161 ราย

ส่วน จ.เชียงใหม่ มีผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 1,686 ราย และ จ.ระยอง มีผู้ลงทะเบียน 1,042 ราย ส่วนจังหวัดอื่นๆ มีผู้ลงทะเบียนไม่มาก
ส่วน คนไทยในต่างประเทศ วันนี้มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มขึ้นมา โดยมี 6,309 ราย ส่วนใหญ่ลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ตถึง 6,302 ราย และลงทะเบียนที่สถานทูต หรือสถานกงสุลเพียง 7 ราย

เมื่อดูตัวเลขรายประเทศที่มีคนไทยลงทะเบียนจำนวนมาก โดย คนไทยที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย จากกรุงแคนเบอร์ราและนครซิดนีย์ ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งเข้ามาถึง 813 ราย
คนไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อาศัยอยู่ใน 4 นครใหญ่ ชิคาโก ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก และกรุงวอชิงตัน ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง 794 ราย
คนไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 650 ราย
คนไทยในเยอรมนี ที่ลงทะเบียนจาก 3 เมือง คือ กรุงเบอร์ลิน นครแฟรงก์เฟิร์ต และนครมิวนิก มีผู้ลงทะเบียน 383 ราย
เมื่อรวมยอดการลงทะเบียนเลือกตั้งขอใช้สิทธิล่วงหน้าทั้งนอกเขตและนอกราชอาณาจักรวันที่สอง รวม 53,624 ราย ซึ่งเมื่อรวมยอดผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งนอกเขตและนอกราชอาณาจักร รวม 2 วัน จำนวน 91,424 ราย
คลิก เพื่อดูจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง ข้อมูล ณ วันที่26 มีนำคม 2566 เวลา 17.00 น.

Credit : สรุปยอดวันที่ 2 ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า 'กรุงเทพฯ-ออสเตรเลีย' พุ่ง (matichon.co.th)




ดอกเบี้ยและราคาซื้อขาย สิ่งที่นักลงทุนมองเป็นตัวแปรหลักมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนซื้ออาคาร โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิก
ผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนทั่วโลกโดยเจแอลแอลในรายงานที่มีชื่อว่า Asia Pacific Investor Sentiment Barometer 2023 พบว่า นักลงทุนมองว่าความไม่แน่นอนของทิศทางราคาซื้อขาย เป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดในการกำหนดแผนการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ในปีนี้ (2566) ปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ยากต่อการคาดเดาและแต่ละประเทศมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เป็นความท้าทายที่สำคัญที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงทุน

นอกจากนี้ ยังเป็นความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากปีที่แล้ว ซึ่งปีก่อนหน้ามีนักลงทุน 82% มองว่า นักลงทุนมองว่าการแข่งขันกันเพื่อแย่งซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในความท้าทาย แต่ปีนี้เหลือเพียง 9% ที่มีความกังวลประเด็นนี้

อย่างไรก็ตาม แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยและราคาขาย มีแนวโน้มที่จะทำให้การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีปริมาณปรับตัวลดลง ก็แค่ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน แต่ไม่ถึงกับถอนการลงทุน
ในปี 2565 ที่ผ่านมา เอเชียแปซิฟิกมีการลงทุนซื้อขายอาคาร-โครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวม 1.29 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าปีนี้มูลค่าจะลดลงไปอีกราว 5-10%
นักลงทุนเตรียมพร้อมปรับแผนการลงทุนในปีนี้ ตามสถานการณ์ความท้าทายที่เกิดขึ้นทั่วโลกเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่การใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่า นักลงทุนหมดความเชื่อมั่นในระยะยาวสำหรับการลงทุนในภูมิภาคนี้ แต่เป็นเรื่องของความจำเป็นที่จะต้องปรับวิธีการ จังหวะเวลา และประเภทของสินทรัพย์ที่จะเข้าลงทุนเพิ่มในระยะต่อไปของปีนี้
นายร็อดดีย์ อลัน ประธานบริหารฝ่ายวิจัยภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
 
เน้นซื้ออาคารเก่า โรงแรม เปลี่ยนเป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า
โดยในปีนี้ นักลงทุนจึงกำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และระดับความเสี่ยงที่จะสามารถยอมรับได้ เน้นสินทรัพย์ที่สามารถเข้าซื้อและลงทุนสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ได้แก่ การซื้ออาคารเก่าหรืออาคารเกรดรองที่สามารถลงทุนปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้น หรือยกระดับมาตรฐานให้เป็นอาคารเขียว รวมไปถึงการเข้าซื้อโรงแรมเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าในหัวเมืองที่มีที่พักอาศัยไม่เพียงพอรองรับความต้องการของผู้เช่า
ในส่วนของประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุนสนใจซื้อ พบว่า นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดแก่อสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มโลจิสติกส์ (โกดัง/คลังสินค้า) ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงของผู้เช่าและมีค่าเช่าปรับสูงขึ้น และบางกลุ่มจะลงทุนซื้ออพาร์ตเม้นท์ให้เช่ามากขึ้น
ขณะที่โรงแรมเป็นอสังหาริมทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่มีแนวโน้มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น หลังมีการยกเลิกมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศและภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว
โตเกียว แนวโน้มการลงทุนซื้อขายสูงสุด
ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอน นักลงทุนสนใจการลงทุนในตลาดที่มีเสถียรภาพกว่า เช่น  ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ โดยเฉพาะโตเกียวมีแนวโน้มที่จะเป็นหนึ่งในตลาดที่มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สูงสุดในปีนี้

Credit by : ดอกเบี้ยขึ้น-ราคาแพง มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ : PPTVHD36


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่