เวทีเพื่อไทยกาญจนบุรีคึก ‘ศักดิ์ดา’ ชูแก้น้ำ นับพันแห่ฟัง ลั่นเลือกทั้งคนทั้งพรรค
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7569127
‘ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์’ ผู้สมัครส.ส.กาญจนบุรี เพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยย่อย ชูแก้น้ำ-ผลผลิตตกต่ำ ชาวบ้านนับพันแห่ฟัง ลั่นเลือกทั้งคนทั้งพรรค
วันที่ 20 มี.ค. 2566 นาย
ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 4 กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเวทีปราศรัยย่อยขึ้นในพื้นที่หมู่ 3 ต.วังไผ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี โดยมีผู้นำท้องถิ่น ในพื้นที่อ.ห้วยกระเจา และเลาขวัญ เดินทางมาร่วม และสลับกันขึ้นเวที เมื่อค่ำวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนชาวตำบลวังไผ่จาก 11 หมู่บ้าน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อแดง มารับฟังการปราศรัยมากกว่า 3,000 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนต่างตะโกนให้กำลังใจ พร้อมระบุจะเลือกทั้งคนทั้งพรรค
นาย
ศักดิ์ดา กล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่า จากปัญหาผลผลิตสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ที่มีราคาถูก ค่าแรงก็ต่ำ หรือในเรื่องของพลังงาน เช่น น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม ที่มีราคาแพง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก หากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะผลักดันให้ผลผลิตสินค้าการเกษตรและปศุสัตว์ ให้มีราคาที่ดีขึ้น ส่วนด้านพลังงานจะทำให้มีราคาลดลง รวมทั้งค่าแรงขั้นต่ำจะต้องได้วันละ 600 บาท ภายในปี 2570 นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายการปราบปรามยาเสพติดที่มีการระบาดหนักในขณะนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก
สำหรับปัญหาที่ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรมีราคาต่ำ เนื่องจากเราไม่สามารถส่งสินค้าออกไปยังนอกประเทศได้ เป็นเพราะสหรัฐอเมริกา และกลุ่มอียู จะค้าขายกับประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งต่างชาติเขามองว่าประเทศไทยเป็นประเทศเผด็จการ เพราะมีทหารเป็นนายกฯ ซึ่งในอีก 3 เดือนข้างหน้า หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยที่ทั่วโลกเขายอมรับ เมื่อถึงเวลานั้น สินค้าการเกษตรและอื่นๆ จะสามารถส่งออกไปขายที่ต่างประเทศได้อย่างสะดวก
นาย
ศักดิ์ดา ยังชูนโยบายเกี่ยวกับน้ำบาดาล น้ำใต้ดิน น้ำด้านการเกษตรว่า ต่อจากนี้หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ประชาชนทั่วประเทศจะได้ใช้น้ำบาดาลฟรี และเศรษฐกิจของประเทศจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
ทีมนี้ไม่แพ้ใคร! “ก้าวไกล” เตรียมเปิดตัว 7 ทีมเศรษฐกิจ 22 มี.ค.นี้ ลั่นจะทำให้คนคาดไม่ถึง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7568414
ทีมนี้ไม่แพ้ใคร! “ก้าวไกล” เตรียมเปิดตัว 7 ทีมเศรษฐกิจ 22 มี.ค.นี้ “เลขาธิการพรรค” โวลั่นปักธงพื้นที่ภาคใต้ เราจะทำให้คนคาดไม่ถึง
วันที่ 20 มี.ค.2566 ที่อาคารอนาคตใหม่ นาย
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกลในวันที่ 22 มี.ค. นี้ว่า พรรคได้ทำการเปิดตัว นาย
อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาอย่างต่อเนื่องและเป็นคนทำงานมือเก่า ส่วนวันที่ 22 มี.ค. นี้ จะมีการเปิดตัวอีก 6 คน ทั้งทีมเก่า เช่น
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และทีมใหม่ รวมเป็น 7 คน
ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดแนวคิดการทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคทั้งระบบ เพราะเศรษฐกิจหลังยุควิกฤตต้มยำกุ้งเป็นต้นมา เราไม่ได้มียุทธศาสตร์อย่างแท้จริง โชคดีที่มีภาคท่องเที่ยวเป็นยาแก้ปวด
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจชุดนี้ถือเป็นชุดที่แข็งแกร่งที่สุดหรือไม่ เพราะพรรคการเมืองอื่นก็มี การเปิดตัวทีมเศรษฐกิจเช่นกัน นาย
ชัยธวัช ระบุว่า ประชาชนและสื่อมวลชนจะเป็นผู้ตัดสิน แต่ต้องเชื่อมั่นว่า สำหรับนักเศรษฐศาสตร์ที่เข้าใจทั้งเศรษฐกิจสังคม และการเมืองในปัจจุบัน มองว่าพรรคก้าวไกลไม่แพ้ใคร
เมื่อถามถึงการรับรองว่าที่ผู้สมัครทั่วประเทศ นาย
ชัยธวัช ระบุว่า ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทำไพรมารีโหวต ซึ่งเมื่อวาน (19 มี.ค.) เป็นวันแรก โดยดำเนินการไปแล้ว 40 จังหวัด และจะครบทุกจังหวัดในวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค.นี้ คาดว่าทุกอย่างจะจบตามกระบวนการภายในวันที่ 3 เม.ย. พร้อมกล่าวยืนยันว่า มีการโยกย้ายไปมาระหว่างส.ส. บัญชีรายชื่อและส.ส.เขต แน่นอน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ส.ส. พรรคก้าวไกลทั้งสองระบบมีศักยภาพและคุณภาพมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ พรรคได้เปิดฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ ที่จะเปิดรายชื่อและข้อมูลของผู้สมัครทั้งสองแบบ รวมถึงข้อมูลต่างๆเพื่อให้ประชาชนติดตามได้ง่ายขึ้น ก่อนย้ำว่า เป้าหมายของพรรคก้าวไกลคือการได้ส.ส.มากกว่าสมัยพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งข้อแตกต่างคือ ส.ส.หลักของพรรคจะเป็นส.ส.เขต และมีเป้าหมายว่าจะต้องได้ส.ส.เขตจากทุกภูมิภาค อีกทั้งยังมองว่ากติกาบัตร 2 ใบ เป็นโอกาสสำหรับส.ส.เขตจากพรรคก้าวไกลว่า ประชาชนต้องการผู้แทนแบบใหม่อย่างพรรคก้าวไกล หรือจะยอมเลือกผู้แทนเก่าๆที่ไม่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลง
สำหรับพื้นที่ กทม. ที่หลายฝ่ายมองว่าพรรคก้าวไกลมีความได้เปรียบ นาย
ชัยธวัช ย้ำว่า ไม่ใช่แค่ใน กทม. ซึ่งหากย้อนไปดูผลเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แม้พรรคอนาคตใหม่จะไม่ชนะเป็นอันดับหนึ่ง ก็จะเป็นอันดับสองหรือสามในหลายพื้นที่ รอบนี้จึงมีความมั่นใจเพราะ ขอพิสูจน์จากการทำงานตลอดสี่ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลทำงานแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นอย่างไร มีผลงานชัดเจน ว่าที่ผู้สมัครของพรรคในหลายเขตก็ทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแบ่งเขตของ กกต. ที่อาจก่อให้เกิดความสับสนชัยธวัชย้ำว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคก้าวไกล เพราะประชาชนให้ความไว้วางใจกับความเป็นพรรคก้าวไกล
นอกจากนี้ นาย
ชัยธวัช ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปักธงพื้นที่ภาคใต้ว่า เราแบ่งเป้าหมายเป็น 3 โซน คือ อันดามัน อ่าวไทย และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเราจะทำในสิ่งที่ประชาชนคาดไม่ถึง
ทวิตฯเดือด! แห่จี้รัฐทำไมไม่ประกาศเตือนภัย ‘ซีเซียม-137’ คือหายนะแห่งชาติ
https://www.dailynews.co.th/news/2119802/
โซเชียลเดือดติด #ซีเซียม137 โผล่ขึ้นเทรน์ดทวิตเตอร์อันดับหนึ่งในประเทศไทย แห่จี้ "นายกฯ-รัฐบาล" มั่วทำไรอยู่ทำไมไม่ประกาศเตือนภัยกับประชาชนเหตุ "ซีเซียม-137" จวกเละ "นี่มันคือหายนะวาระแห่งชาติ! หรือประเทศไทยไม่มีรัฐบาลคอยดูแลประชาชนเหมือนประเทศอื่น ๆ"
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ยาวนานสุดมหากาพย์ เริ่มสืบหานานกว่า 7 วัน เรื่องราวของ “ท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137” ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โดยเป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวัตถุที่ไม่สามารถทำร้ายหรือแปลสภาพได้เอง ต้องมีขั้นตอนที่ละเอียดและต้องปลอดภัย เนื่องจากมีสารอันตรายต่อสุขภาพ
ภายหลังต่อมาเมื่อข่าวดังกล่าวถูกรายงานตามสื่อต่าง ๆ กลายเป็นว่าสร้างความวิตกกังวลแก่ชาวบ้านและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนานกว่า 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ อีกทั้งมีการรายงานที่ไม่แน่นอนของ ซีเซียม-137 ว่าแท้จริงแล้ว หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และถูกหลวมไปหรือยัง
ล่าสุดประเด็นร้อนในครั้งนี้ถูกพูดถึงสนั่น โดยชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพาษณ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย ที่มีความล่าช้าและไม่ชัดเจนของการวางแผนงาน พร้อมพากันติด
#ซีเซียม-137 จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในไทยเป็นที่เรียบร้อย อาทิ
“แล้วเรื่องระดับนี้มันวาระแห่งชาติแล้วอะ นายกพร้อมรัฐบาลต้องแถลงแล้วลงไปคุม ตั้งแต่แรกที่มันหายละ ถ้าควบคุมได้ดีกว่านี้มันยังไม่ถูกหลอมหรอก รับแจ้งว่าหายตั้งแต่ 10 มีนาอะxง แค่เห็นไทม์ไล์นี้ก็หงุดหงิดละ เหมือนค่อย ๆ หาอะ #ซีเซียม137”
“เตรียมตัว-ิบหายได้เลย คือไม่ใช่แค่คนพื้นที่ใกล้เคียงที่หายใจเข้าไปนะที่อันตราย อาหารจากสัตว์พืชหรือน้ำที่ปนเปื้อน ถ้าใครได้รับเข้าไปก็คือซวยทั่วกัน แล้ว physical half life 30 ปี อีเxยนรกกว่าตายเลยอีก ระแวงไปอีกนานอ่ะ #ซีเซียม137”
“วาระแห่งชาติ ต้องหยุดตรวตสอบพื้นที่ อย่าคิดเองว่าไม่อันตรายแล้ว แน่จริงเอาต่างชาติเข้ามาตรวจสอบ จะ-ิบหายทั้งโลกแล้ว เพราะประเทศด้อยพัฒนา มาร้อยกว่าปี #ซีเซียม137”
“หายตั้งแต่ ก.พ. เพิ่งมายอมรับแล้วตามหาตอน มี.ค. ตอนนี้รู้แล้วว่าโดนหลอมตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยังไม่ออกมาชี้แจงรายละเอียดอะไร นักการเมืองมัวแต่วุ่นวายหาเสียง นายกวุ่นยุบสภา ความเป็นความตายของประชาชนถูกมองข้าม”
“งงตรงบอกว่า หายไป อย่าลืมว่า ซีเซียมเป็นโลหะเงินมันวาว สะท้อนแสงได้ดี ละลายได้ในอากาศชื้นและน้ำ เพราะฉะนั้นมันจะถูกกักเก็บไว้ในน้ำมันเพื่อป้องกันการสูญเสีย อิเล็กตรอน เอ้อ แล้วจะหายไปทั้งสถานะกักเก็บ ซึ่งก็งง แต่ที่นี่ไทยแลนด์ไง เลิกงงแป๊บ #ซีเซียม137”
“สิ่งที่ควรจะชี้แจงให้ประชาชนทราบมาก ๆ คือ ซีเซียม137 นี้มีอันตรายแค่ไหน รัศมีโดยรอบไปไกลได้มากแค่ไหน ผลกระทบยังไง ต้องรับมือแบบไหน การป้องกันจะทำอย่างไร จะเยียวยาประชาชนในพื้นที่โดยรอบอย่างไรเพราะ คนที่ได้รับผลกระทบมันไม่ใช่แค่ประชาชนตาดำ ๆ ไง ลูกหลานพวกคุณก็เช่นกัน #ซีเซียม137”
“คนยังไม่รู้ความอันตรายเยอะมาก ขาดความตระหนักรู้หลายอย่างตั้งแต่วิธีปฏิบัติตน ตอนเจอพายุ จนตอนนี้กัมมันภาพรังสี #ซีเซียม137”
“ถ้าสืบสวนจริงๆไม่ลูบหน้าปะจมูกอาจจะได้ระดับพวกผู้บริหารเข้าคุกก็ได้ แต่อย่าคาดหวังอะไรกับประเทศกระโหลกกะลาแบบนี้สุดท้ายอาจได้ผลการสืบสวนไม่มีอะไรในกอไผ่ อาจได้ข่าวอีก 5 ปีข้างหน้า มีข่าวคนเป็นมะเร็งตายเป็นเบือมาแทน”
“ทำไมรัฐถึงไม่ออกมาประกาศการรับมือเกี่ยวกับสารตัวนี่ว่ามันควรจะรับมืออย่างไร ทำไมคนโง่ต้องมานำประเทศ #ซีเซียม137”
อย่างไรก็ตามเรื่องราวนี้ยังคงได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเช่นกัน และประชาชนชาวไทยยังถกถามร้องเรียนถึงภาครัฐเป็นเสียงเดียวกันว่า
“เมื่อไหร่จะประกาศให้ประชาชนทราบถึงความอันตรายจากท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 และวิธีป้องกันตัวเอง พร้อมด้วยวิธีการจัดการของรัฐบาลไทย ที่จะช่วยเหลือประชาชน”
JJNY : 5in1 เวทีพ.ท.กาญจนบุรีคึก│“ก้าวไกล”เตรียมเปิดตัว 7ทีมศก.│ทวิตฯเดือด! ‘ซีเซียม-137’│จับตาเลือกตั้ง│ผู้ดีจัดถก รมต.
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7569127
‘ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์’ ผู้สมัครส.ส.กาญจนบุรี เพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยย่อย ชูแก้น้ำ-ผลผลิตตกต่ำ ชาวบ้านนับพันแห่ฟัง ลั่นเลือกทั้งคนทั้งพรรค
วันที่ 20 มี.ค. 2566 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 4 กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเวทีปราศรัยย่อยขึ้นในพื้นที่หมู่ 3 ต.วังไผ่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี โดยมีผู้นำท้องถิ่น ในพื้นที่อ.ห้วยกระเจา และเลาขวัญ เดินทางมาร่วม และสลับกันขึ้นเวที เมื่อค่ำวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนชาวตำบลวังไผ่จาก 11 หมู่บ้าน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อแดง มารับฟังการปราศรัยมากกว่า 3,000 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนต่างตะโกนให้กำลังใจ พร้อมระบุจะเลือกทั้งคนทั้งพรรค
นายศักดิ์ดา กล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยว่า จากปัญหาผลผลิตสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ที่มีราคาถูก ค่าแรงก็ต่ำ หรือในเรื่องของพลังงาน เช่น น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม ที่มีราคาแพง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก หากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะผลักดันให้ผลผลิตสินค้าการเกษตรและปศุสัตว์ ให้มีราคาที่ดีขึ้น ส่วนด้านพลังงานจะทำให้มีราคาลดลง รวมทั้งค่าแรงขั้นต่ำจะต้องได้วันละ 600 บาท ภายในปี 2570 นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายการปราบปรามยาเสพติดที่มีการระบาดหนักในขณะนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก
สำหรับปัญหาที่ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรมีราคาต่ำ เนื่องจากเราไม่สามารถส่งสินค้าออกไปยังนอกประเทศได้ เป็นเพราะสหรัฐอเมริกา และกลุ่มอียู จะค้าขายกับประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งต่างชาติเขามองว่าประเทศไทยเป็นประเทศเผด็จการ เพราะมีทหารเป็นนายกฯ ซึ่งในอีก 3 เดือนข้างหน้า หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยที่ทั่วโลกเขายอมรับ เมื่อถึงเวลานั้น สินค้าการเกษตรและอื่นๆ จะสามารถส่งออกไปขายที่ต่างประเทศได้อย่างสะดวก
นายศักดิ์ดา ยังชูนโยบายเกี่ยวกับน้ำบาดาล น้ำใต้ดิน น้ำด้านการเกษตรว่า ต่อจากนี้หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ประชาชนทั่วประเทศจะได้ใช้น้ำบาดาลฟรี และเศรษฐกิจของประเทศจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
ทีมนี้ไม่แพ้ใคร! “ก้าวไกล” เตรียมเปิดตัว 7 ทีมเศรษฐกิจ 22 มี.ค.นี้ ลั่นจะทำให้คนคาดไม่ถึง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7568414
ทีมนี้ไม่แพ้ใคร! “ก้าวไกล” เตรียมเปิดตัว 7 ทีมเศรษฐกิจ 22 มี.ค.นี้ “เลขาธิการพรรค” โวลั่นปักธงพื้นที่ภาคใต้ เราจะทำให้คนคาดไม่ถึง
วันที่ 20 มี.ค.2566 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกลในวันที่ 22 มี.ค. นี้ว่า พรรคได้ทำการเปิดตัว นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีประสบการณ์ทำงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาอย่างต่อเนื่องและเป็นคนทำงานมือเก่า ส่วนวันที่ 22 มี.ค. นี้ จะมีการเปิดตัวอีก 6 คน ทั้งทีมเก่า เช่น ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และทีมใหม่ รวมเป็น 7 คน
ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดแนวคิดการทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคทั้งระบบ เพราะเศรษฐกิจหลังยุควิกฤตต้มยำกุ้งเป็นต้นมา เราไม่ได้มียุทธศาสตร์อย่างแท้จริง โชคดีที่มีภาคท่องเที่ยวเป็นยาแก้ปวด
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจชุดนี้ถือเป็นชุดที่แข็งแกร่งที่สุดหรือไม่ เพราะพรรคการเมืองอื่นก็มี การเปิดตัวทีมเศรษฐกิจเช่นกัน นายชัยธวัช ระบุว่า ประชาชนและสื่อมวลชนจะเป็นผู้ตัดสิน แต่ต้องเชื่อมั่นว่า สำหรับนักเศรษฐศาสตร์ที่เข้าใจทั้งเศรษฐกิจสังคม และการเมืองในปัจจุบัน มองว่าพรรคก้าวไกลไม่แพ้ใคร
เมื่อถามถึงการรับรองว่าที่ผู้สมัครทั่วประเทศ นายชัยธวัช ระบุว่า ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทำไพรมารีโหวต ซึ่งเมื่อวาน (19 มี.ค.) เป็นวันแรก โดยดำเนินการไปแล้ว 40 จังหวัด และจะครบทุกจังหวัดในวันอาทิตย์ที่ 26 มี.ค.นี้ คาดว่าทุกอย่างจะจบตามกระบวนการภายในวันที่ 3 เม.ย. พร้อมกล่าวยืนยันว่า มีการโยกย้ายไปมาระหว่างส.ส. บัญชีรายชื่อและส.ส.เขต แน่นอน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ส.ส. พรรคก้าวไกลทั้งสองระบบมีศักยภาพและคุณภาพมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ พรรคได้เปิดฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ ที่จะเปิดรายชื่อและข้อมูลของผู้สมัครทั้งสองแบบ รวมถึงข้อมูลต่างๆเพื่อให้ประชาชนติดตามได้ง่ายขึ้น ก่อนย้ำว่า เป้าหมายของพรรคก้าวไกลคือการได้ส.ส.มากกว่าสมัยพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งข้อแตกต่างคือ ส.ส.หลักของพรรคจะเป็นส.ส.เขต และมีเป้าหมายว่าจะต้องได้ส.ส.เขตจากทุกภูมิภาค อีกทั้งยังมองว่ากติกาบัตร 2 ใบ เป็นโอกาสสำหรับส.ส.เขตจากพรรคก้าวไกลว่า ประชาชนต้องการผู้แทนแบบใหม่อย่างพรรคก้าวไกล หรือจะยอมเลือกผู้แทนเก่าๆที่ไม่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลง
สำหรับพื้นที่ กทม. ที่หลายฝ่ายมองว่าพรรคก้าวไกลมีความได้เปรียบ นายชัยธวัช ย้ำว่า ไม่ใช่แค่ใน กทม. ซึ่งหากย้อนไปดูผลเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แม้พรรคอนาคตใหม่จะไม่ชนะเป็นอันดับหนึ่ง ก็จะเป็นอันดับสองหรือสามในหลายพื้นที่ รอบนี้จึงมีความมั่นใจเพราะ ขอพิสูจน์จากการทำงานตลอดสี่ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลทำงานแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นอย่างไร มีผลงานชัดเจน ว่าที่ผู้สมัครของพรรคในหลายเขตก็ทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแบ่งเขตของ กกต. ที่อาจก่อให้เกิดความสับสนชัยธวัชย้ำว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคก้าวไกล เพราะประชาชนให้ความไว้วางใจกับความเป็นพรรคก้าวไกล
นอกจากนี้ นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปักธงพื้นที่ภาคใต้ว่า เราแบ่งเป้าหมายเป็น 3 โซน คือ อันดามัน อ่าวไทย และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเราจะทำในสิ่งที่ประชาชนคาดไม่ถึง
ทวิตฯเดือด! แห่จี้รัฐทำไมไม่ประกาศเตือนภัย ‘ซีเซียม-137’ คือหายนะแห่งชาติ
https://www.dailynews.co.th/news/2119802/
โซเชียลเดือดติด #ซีเซียม137 โผล่ขึ้นเทรน์ดทวิตเตอร์อันดับหนึ่งในประเทศไทย แห่จี้ "นายกฯ-รัฐบาล" มั่วทำไรอยู่ทำไมไม่ประกาศเตือนภัยกับประชาชนเหตุ "ซีเซียม-137" จวกเละ "นี่มันคือหายนะวาระแห่งชาติ! หรือประเทศไทยไม่มีรัฐบาลคอยดูแลประชาชนเหมือนประเทศอื่น ๆ"
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ยาวนานสุดมหากาพย์ เริ่มสืบหานานกว่า 7 วัน เรื่องราวของ “ท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137” ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โดยเป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวัตถุที่ไม่สามารถทำร้ายหรือแปลสภาพได้เอง ต้องมีขั้นตอนที่ละเอียดและต้องปลอดภัย เนื่องจากมีสารอันตรายต่อสุขภาพ
ภายหลังต่อมาเมื่อข่าวดังกล่าวถูกรายงานตามสื่อต่าง ๆ กลายเป็นว่าสร้างความวิตกกังวลแก่ชาวบ้านและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนานกว่า 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ อีกทั้งมีการรายงานที่ไม่แน่นอนของ ซีเซียม-137 ว่าแท้จริงแล้ว หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และถูกหลวมไปหรือยัง
ล่าสุดประเด็นร้อนในครั้งนี้ถูกพูดถึงสนั่น โดยชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพาษณ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย ที่มีความล่าช้าและไม่ชัดเจนของการวางแผนงาน พร้อมพากันติด #ซีเซียม-137 จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในไทยเป็นที่เรียบร้อย อาทิ
“แล้วเรื่องระดับนี้มันวาระแห่งชาติแล้วอะ นายกพร้อมรัฐบาลต้องแถลงแล้วลงไปคุม ตั้งแต่แรกที่มันหายละ ถ้าควบคุมได้ดีกว่านี้มันยังไม่ถูกหลอมหรอก รับแจ้งว่าหายตั้งแต่ 10 มีนาอะxง แค่เห็นไทม์ไล์นี้ก็หงุดหงิดละ เหมือนค่อย ๆ หาอะ #ซีเซียม137”
“เตรียมตัว-ิบหายได้เลย คือไม่ใช่แค่คนพื้นที่ใกล้เคียงที่หายใจเข้าไปนะที่อันตราย อาหารจากสัตว์พืชหรือน้ำที่ปนเปื้อน ถ้าใครได้รับเข้าไปก็คือซวยทั่วกัน แล้ว physical half life 30 ปี อีเxยนรกกว่าตายเลยอีก ระแวงไปอีกนานอ่ะ #ซีเซียม137”
“วาระแห่งชาติ ต้องหยุดตรวตสอบพื้นที่ อย่าคิดเองว่าไม่อันตรายแล้ว แน่จริงเอาต่างชาติเข้ามาตรวจสอบ จะ-ิบหายทั้งโลกแล้ว เพราะประเทศด้อยพัฒนา มาร้อยกว่าปี #ซีเซียม137”
“หายตั้งแต่ ก.พ. เพิ่งมายอมรับแล้วตามหาตอน มี.ค. ตอนนี้รู้แล้วว่าโดนหลอมตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยังไม่ออกมาชี้แจงรายละเอียดอะไร นักการเมืองมัวแต่วุ่นวายหาเสียง นายกวุ่นยุบสภา ความเป็นความตายของประชาชนถูกมองข้าม”
“งงตรงบอกว่า หายไป อย่าลืมว่า ซีเซียมเป็นโลหะเงินมันวาว สะท้อนแสงได้ดี ละลายได้ในอากาศชื้นและน้ำ เพราะฉะนั้นมันจะถูกกักเก็บไว้ในน้ำมันเพื่อป้องกันการสูญเสีย อิเล็กตรอน เอ้อ แล้วจะหายไปทั้งสถานะกักเก็บ ซึ่งก็งง แต่ที่นี่ไทยแลนด์ไง เลิกงงแป๊บ #ซีเซียม137”
“สิ่งที่ควรจะชี้แจงให้ประชาชนทราบมาก ๆ คือ ซีเซียม137 นี้มีอันตรายแค่ไหน รัศมีโดยรอบไปไกลได้มากแค่ไหน ผลกระทบยังไง ต้องรับมือแบบไหน การป้องกันจะทำอย่างไร จะเยียวยาประชาชนในพื้นที่โดยรอบอย่างไรเพราะ คนที่ได้รับผลกระทบมันไม่ใช่แค่ประชาชนตาดำ ๆ ไง ลูกหลานพวกคุณก็เช่นกัน #ซีเซียม137”
“คนยังไม่รู้ความอันตรายเยอะมาก ขาดความตระหนักรู้หลายอย่างตั้งแต่วิธีปฏิบัติตน ตอนเจอพายุ จนตอนนี้กัมมันภาพรังสี #ซีเซียม137”
“ถ้าสืบสวนจริงๆไม่ลูบหน้าปะจมูกอาจจะได้ระดับพวกผู้บริหารเข้าคุกก็ได้ แต่อย่าคาดหวังอะไรกับประเทศกระโหลกกะลาแบบนี้สุดท้ายอาจได้ผลการสืบสวนไม่มีอะไรในกอไผ่ อาจได้ข่าวอีก 5 ปีข้างหน้า มีข่าวคนเป็นมะเร็งตายเป็นเบือมาแทน”
“ทำไมรัฐถึงไม่ออกมาประกาศการรับมือเกี่ยวกับสารตัวนี่ว่ามันควรจะรับมืออย่างไร ทำไมคนโง่ต้องมานำประเทศ #ซีเซียม137”
อย่างไรก็ตามเรื่องราวนี้ยังคงได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเช่นกัน และประชาชนชาวไทยยังถกถามร้องเรียนถึงภาครัฐเป็นเสียงเดียวกันว่า
“เมื่อไหร่จะประกาศให้ประชาชนทราบถึงความอันตรายจากท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 และวิธีป้องกันตัวเอง พร้อมด้วยวิธีการจัดการของรัฐบาลไทย ที่จะช่วยเหลือประชาชน”