สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไร เจอในเน็ตก็เอามาแปะ ผมว่าใจเย็นๆกันก่อนครับ ตื่นตัวน่ะดี แต่ตื่นตูมไม่ได้ประโยชน์อะไร
เห็นทาง สมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทยเอาลงดังนี้
วัสดุกัมมันตรังสีที่หาย
ไอโซโทปรังสีซีเซียม-137 มีค่าครึ่งชีวิต: 30.08 ปี
ปริมาณของไอโซโทปรังสีซีเซียม-137 ที่บรรจุอยู่ภายในมีค่าเริ่มต้นที่ 80 มิลลิคูรี (80 mCi) วัดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2538 ปัจจุบันเหลือปริมาณอยู่ที่ 41.14 มิลลิคูรี โดยประมาณ
อัตราปริมาณรังสีที่แผ่ออกมา มีค่า ดังนี้:
- ที่ระยะ 30 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 1.29 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
- ที่ระยะ 60 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 0.12 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
- ที่ระยะ 120 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 0.03 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
- ที่ระยะ 180 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 0.01 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
ผมไม่ได้จะบอกว่าให้ชั่งมัน แต่นึกถึงที่ข่าวชอบพูดว่าซีเซียมหนัก 25 กิโลกรัม แต่แท้จริงแล้วมันรวมตะกั่วที่หุ้มอยู่ในนั้นเข้าไปด้วย คนที่ขยายความกันมันเลยอาจจะเวอร์ไป
อย่างไรก็ตาม หากท่านใดมีไลฟ์ของผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาพูดหลักการ ปริมาณการแผ่รังสี วิธีการจัดการโดยละเอียดแต่ละขั้นตอน หรือก็คือเนื้อหาเน้นๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ปล.ขอไม่เอาอาจารย์เจษฏร์นะครับ (ฮา) ผมว่าแกชักจะเชี่ยวชาญไปเสียทุกเรื่องละ จนยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่าตกลงงานจริงๆแกทำไรกันแน่
เรื่องนิวเคลียร์เป็นเรื่องซับซ้อน ละเอียดอ่อน ไม่ใช่ใครไม่รู้อยากจะมาโชว์หล่อกันไปเรื่อยได้
ผมว่าเราไม่ควรตื่นตูมและสร้างความตื่นกลัวในสังคมโดยใช่เหตุ เพราะจะไม่ได้ข้อเท็จจริงอะไร (ได้แต่ดราม่า) หากแต่ต้องตื่นตัวและเรียนรู้ให้ทันกับมันจะเหมาะที่สุดครับ
เห็นทาง สมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทยเอาลงดังนี้
วัสดุกัมมันตรังสีที่หาย
ไอโซโทปรังสีซีเซียม-137 มีค่าครึ่งชีวิต: 30.08 ปี
ปริมาณของไอโซโทปรังสีซีเซียม-137 ที่บรรจุอยู่ภายในมีค่าเริ่มต้นที่ 80 มิลลิคูรี (80 mCi) วัดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2538 ปัจจุบันเหลือปริมาณอยู่ที่ 41.14 มิลลิคูรี โดยประมาณ
อัตราปริมาณรังสีที่แผ่ออกมา มีค่า ดังนี้:
- ที่ระยะ 30 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 1.29 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
- ที่ระยะ 60 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 0.12 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
- ที่ระยะ 120 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 0.03 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง
- ที่ระยะ 180 เซนติเมตรจากวัสดุกัมมันตรังสีด้านช่องเปิด ประมาณ 0.01 มิลลิซีเวิร์ต/ชั่วโมง

ผมไม่ได้จะบอกว่าให้ชั่งมัน แต่นึกถึงที่ข่าวชอบพูดว่าซีเซียมหนัก 25 กิโลกรัม แต่แท้จริงแล้วมันรวมตะกั่วที่หุ้มอยู่ในนั้นเข้าไปด้วย คนที่ขยายความกันมันเลยอาจจะเวอร์ไป
อย่างไรก็ตาม หากท่านใดมีไลฟ์ของผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาพูดหลักการ ปริมาณการแผ่รังสี วิธีการจัดการโดยละเอียดแต่ละขั้นตอน หรือก็คือเนื้อหาเน้นๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ปล.ขอไม่เอาอาจารย์เจษฏร์นะครับ (ฮา) ผมว่าแกชักจะเชี่ยวชาญไปเสียทุกเรื่องละ จนยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่าตกลงงานจริงๆแกทำไรกันแน่
เรื่องนิวเคลียร์เป็นเรื่องซับซ้อน ละเอียดอ่อน ไม่ใช่ใครไม่รู้อยากจะมาโชว์หล่อกันไปเรื่อยได้
ผมว่าเราไม่ควรตื่นตูมและสร้างความตื่นกลัวในสังคมโดยใช่เหตุ เพราะจะไม่ได้ข้อเท็จจริงอะไร (ได้แต่ดราม่า) หากแต่ต้องตื่นตัวและเรียนรู้ให้ทันกับมันจะเหมาะที่สุดครับ
ความคิดเห็นที่ 36
ข้างล่างนี้ทั้งหมดคัดลอกจากเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/suppalak.klabdee
Cs-137 ตามมุมมองและความเข้าใจของผม ที่เคยทำงานสัมผัสกับมันโดยตรงอยู่หลายปี
แต่ผมก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรของเหตุการณ์นี้มากกว่าที่อยู่ในข่าวนะครับ
ดังนั้นความเห็นและมุมมองของผมต่อจากนี้ อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้
ต้องเอาไปพิจารณาหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจกันเองครับ
เจ้า Cs-137 ตัวปัญหาที่เป็นข่าวนี่มันเป็นส่วนนึงของเครื่องมือตรวจวัดระดับขี้เถ้าในไซโลครับ
ไม่ใช่ระดับโรงงานนิวเคลียร์แบบเชอร์โนบิล ปกติในสภาพใช้งาน คือ บรรจุอยู่ข้างในแท่งเหล็ก+ตะกั่ว
ตามข่าวเขาว่าเป็นทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว หนัก 25kg
ที่มันหนักขนาดนี้เพราะมันเป็นเหล็ก+ตะกั่วครับ
ปริมาณของ Cs-137 จริงๆ น่าจะมีน้อยมากๆ เวลาอยู่ใน container แบบนี้
ถ้าจะเป็นอันตรายต้องอยู่ในรัศมี 1-2 เมตร เป็นเวลานานๆ ด้วยครับ
ความอันตราย ขึ้นกับ ปริมาณรังสีที่ได้รับ ซึ่งขึ้นตรงกับ ปริมาณสารกัมมันตภาพรังสี ระยะห่าง และ เวลา
ถ้าเจอของแล้ว ยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่ได้ถูกหลอมไป ก็ไม่ยากครับ
มีขั้นตอนในการเก็บกู้อยู่แล้ว ส่วนผู้โชคร้ายที่สัมผัสโดยตรงก็ต้องไปตรวจและรับการรักษาตามขั้นตอน
แต่ถ้าเกิดเอาไปหลอมแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น?
มันก็จะปนเปื้อนไปกับโลหะที่หลอมออกมาในช่วงนั้นๆ ครับ บางส่วนก็จะยังเหลืออยู่ในระบบเตาหลอม
ทีนี้พอสารตั้งต้นมันมีน้อยมากๆ มันก็จะกระจายตัวออกไป
ทำให้ยิ่งน้อยลงไปอีกเมื่อเทียบกับปริมาตรโดยรวมของโลหะทั้งหมดที่ปนเปื้อน
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องตามหาให้ครบว่ามันถูกส่งไปที่ไหนบ้าง (โรงงานควรมีข้อมูลพวกนี้อยู่แล้ว)
ถ้ายืนยันว่าถูกหลอมไปแล้วจริงๅ โลหะหลอม มันจะเป็นฝุ่นกระจายไปทั่วได้ยังไง
อันนี้ผมยังนีกไม่ออก เพราะอย่างที่บอกไป
มันคนละเรื่องกับเชอร์โนบิล ที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
ปริมาณสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลแตกต่างกันมหาศาล และนั่นเกิดการระเบิด
ทำให้มันฟุ้งกระจายออกไปในบรรยากาศ และถูกพัดไปไกลเป็นพันกิโลได้
เหล็กหลอม มันจะฟุ้งไปในอากาศได้ยังไง ผมนึกไม่ออกจริงๆ ครับ
ความตระหนักรู้ในสิ่งที่เป็นอันตราย เป็นสิ่งที่ดีครับ
แต่การตื่นตระหนกจนเกินพอดี ไม่น่าจะดีครับ
ไปเจออันนี้มา ขอมาเพิ่มครับ
ประกาศเรื่อง Cs-137 สูญหาย ระบุว่ามีปริมาณ 41.14 มิลลิคูรี่
(ปริมาณตั้งต้นเมื่อ 28 ปีที่แล้ว 80 มิลลิคูรี่ Half life อยู่ที่ 30 ปี)
https://www.oap.go.th/pr/9127-137-cs-137
ความรู้เบื้องต้นเรื่องรังสี รู้ไว้มีประโยชน์ครับ
ในนี้มีข้อมูลบอกว่า Cs-137 ขนาด 40 มิลลิคูรี่ คือหนึ่งโดสในการฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งครับ
(สมัยที่ผมทำงานกับสารพวกนี้ มันมีขนาดราวๆ 2 คูรี่ ซึ่งแรงกว่านี้ 50 เท่าครับ
ตัว Cs-137 เองถ้าผมจำไม่ผิดมีขนาดพอๆ กับยาพาราซักสองเม็ดเองมั้งครับ
ตัว container เวลาใส่ในเครื่องมือที่จะหย่อนลงไปทำการสำรวจในหลุมน้ำมันเนี่ยมันมีขนาดราวๆ กระป๋องยาเม็ดฟู่เองครับ)
https://www.oap.go.th/.../training/basic_for_radiation.pdf
อัพเดทเพิ่มครับ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เขาไปตรวจสอบโรงหลอมแล้วสรุปได้ดังนี้
- เจอโรงหลอมที่รับ container ที่มี Cs-137 แล้ว
- หลอมไปแล้วเรียบร้อย
- Cs-137 มีจุดเดือดต่ำ เลยระเหยกลายเป็นไออยู่ในเตาหลอม ซึ่งเป็นระบบปิด ไม่มีการปล่อยออกมาสู่บรรยากาศ (ไม่อย่างนั้นโรงงานไม่น่าจะอยู่ได้เพราะชาวบ้านแถวนั้นคงเจอฝุ่นโลหะหนักทุกวัน)
- ไม่พบ Cs-137 ในโลหะที่ออกจากเตาหลอม
- พบ Cs-137 ในฝุ่นแดง ซึ่งเป็นระบบดักจับฝุ่นโลหะในเตาหลอม ฝุ่นแดงทั้งหมดได้ถูกจำกัดไม่ให้เคลื่อนย้าย เพื่อเตรียมกำจัดอย่างเหมาะสมต่อไป
- ตรวจพนักงานโรงหลอม ไม่พบการปนเปื้อนของรังสี
- สรุปว่า พบและกักกัน Cs-137 ไว้ได้แล้ว โดยไม่มีการแพร่กระจายออกสู่บรรยากาศภายนอกครับ
https://www.facebook.com/suppalak.klabdee
Cs-137 ตามมุมมองและความเข้าใจของผม ที่เคยทำงานสัมผัสกับมันโดยตรงอยู่หลายปี
แต่ผมก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรของเหตุการณ์นี้มากกว่าที่อยู่ในข่าวนะครับ
ดังนั้นความเห็นและมุมมองของผมต่อจากนี้ อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้
ต้องเอาไปพิจารณาหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจกันเองครับ
เจ้า Cs-137 ตัวปัญหาที่เป็นข่าวนี่มันเป็นส่วนนึงของเครื่องมือตรวจวัดระดับขี้เถ้าในไซโลครับ
ไม่ใช่ระดับโรงงานนิวเคลียร์แบบเชอร์โนบิล ปกติในสภาพใช้งาน คือ บรรจุอยู่ข้างในแท่งเหล็ก+ตะกั่ว
ตามข่าวเขาว่าเป็นทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว หนัก 25kg
ที่มันหนักขนาดนี้เพราะมันเป็นเหล็ก+ตะกั่วครับ
ปริมาณของ Cs-137 จริงๆ น่าจะมีน้อยมากๆ เวลาอยู่ใน container แบบนี้
ถ้าจะเป็นอันตรายต้องอยู่ในรัศมี 1-2 เมตร เป็นเวลานานๆ ด้วยครับ
ความอันตราย ขึ้นกับ ปริมาณรังสีที่ได้รับ ซึ่งขึ้นตรงกับ ปริมาณสารกัมมันตภาพรังสี ระยะห่าง และ เวลา
ถ้าเจอของแล้ว ยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่ได้ถูกหลอมไป ก็ไม่ยากครับ
มีขั้นตอนในการเก็บกู้อยู่แล้ว ส่วนผู้โชคร้ายที่สัมผัสโดยตรงก็ต้องไปตรวจและรับการรักษาตามขั้นตอน
แต่ถ้าเกิดเอาไปหลอมแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น?
มันก็จะปนเปื้อนไปกับโลหะที่หลอมออกมาในช่วงนั้นๆ ครับ บางส่วนก็จะยังเหลืออยู่ในระบบเตาหลอม
ทีนี้พอสารตั้งต้นมันมีน้อยมากๆ มันก็จะกระจายตัวออกไป
ทำให้ยิ่งน้อยลงไปอีกเมื่อเทียบกับปริมาตรโดยรวมของโลหะทั้งหมดที่ปนเปื้อน
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องตามหาให้ครบว่ามันถูกส่งไปที่ไหนบ้าง (โรงงานควรมีข้อมูลพวกนี้อยู่แล้ว)
ถ้ายืนยันว่าถูกหลอมไปแล้วจริงๅ โลหะหลอม มันจะเป็นฝุ่นกระจายไปทั่วได้ยังไง
อันนี้ผมยังนีกไม่ออก เพราะอย่างที่บอกไป
มันคนละเรื่องกับเชอร์โนบิล ที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
ปริมาณสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลแตกต่างกันมหาศาล และนั่นเกิดการระเบิด
ทำให้มันฟุ้งกระจายออกไปในบรรยากาศ และถูกพัดไปไกลเป็นพันกิโลได้
เหล็กหลอม มันจะฟุ้งไปในอากาศได้ยังไง ผมนึกไม่ออกจริงๆ ครับ
ความตระหนักรู้ในสิ่งที่เป็นอันตราย เป็นสิ่งที่ดีครับ
แต่การตื่นตระหนกจนเกินพอดี ไม่น่าจะดีครับ
ไปเจออันนี้มา ขอมาเพิ่มครับ
ประกาศเรื่อง Cs-137 สูญหาย ระบุว่ามีปริมาณ 41.14 มิลลิคูรี่
(ปริมาณตั้งต้นเมื่อ 28 ปีที่แล้ว 80 มิลลิคูรี่ Half life อยู่ที่ 30 ปี)
https://www.oap.go.th/pr/9127-137-cs-137
ความรู้เบื้องต้นเรื่องรังสี รู้ไว้มีประโยชน์ครับ
ในนี้มีข้อมูลบอกว่า Cs-137 ขนาด 40 มิลลิคูรี่ คือหนึ่งโดสในการฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งครับ
(สมัยที่ผมทำงานกับสารพวกนี้ มันมีขนาดราวๆ 2 คูรี่ ซึ่งแรงกว่านี้ 50 เท่าครับ
ตัว Cs-137 เองถ้าผมจำไม่ผิดมีขนาดพอๆ กับยาพาราซักสองเม็ดเองมั้งครับ
ตัว container เวลาใส่ในเครื่องมือที่จะหย่อนลงไปทำการสำรวจในหลุมน้ำมันเนี่ยมันมีขนาดราวๆ กระป๋องยาเม็ดฟู่เองครับ)
https://www.oap.go.th/.../training/basic_for_radiation.pdf
อัพเดทเพิ่มครับ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เขาไปตรวจสอบโรงหลอมแล้วสรุปได้ดังนี้
- เจอโรงหลอมที่รับ container ที่มี Cs-137 แล้ว
- หลอมไปแล้วเรียบร้อย
- Cs-137 มีจุดเดือดต่ำ เลยระเหยกลายเป็นไออยู่ในเตาหลอม ซึ่งเป็นระบบปิด ไม่มีการปล่อยออกมาสู่บรรยากาศ (ไม่อย่างนั้นโรงงานไม่น่าจะอยู่ได้เพราะชาวบ้านแถวนั้นคงเจอฝุ่นโลหะหนักทุกวัน)
- ไม่พบ Cs-137 ในโลหะที่ออกจากเตาหลอม
- พบ Cs-137 ในฝุ่นแดง ซึ่งเป็นระบบดักจับฝุ่นโลหะในเตาหลอม ฝุ่นแดงทั้งหมดได้ถูกจำกัดไม่ให้เคลื่อนย้าย เพื่อเตรียมกำจัดอย่างเหมาะสมต่อไป
- ตรวจพนักงานโรงหลอม ไม่พบการปนเปื้อนของรังสี
- สรุปว่า พบและกักกัน Cs-137 ไว้ได้แล้ว โดยไม่มีการแพร่กระจายออกสู่บรรยากาศภายนอกครับ
แสดงความคิดเห็น
ข่าวจริงมั้ย cesium137 หลอมแล้ว คนไทยจะเสี่ยงมะเร็งทุกคน