[CR] แบกเป้เที่ยว วังเวียง เวียงจันทน์ ฉบับเที่ยวคนเดียวไม่เร่งไม่รีบ ວັງວຽງ-ວຽງຈັນ

เป็นทริปที่ผม.. วาดฝันไว้นาน ถึงนานมาก มีความอยากไปตั้งแต่ปี 64 ถึงตอนนี้ผมคิดว่าทุกอย่างมันลงตัวแล้วละ เวลา โอกาส และการเงิน พร้อมที่จะออกเดินทาง ..ความกังวล.. ก็เข้ามารุมเร้าทันที เพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่จะต้องเดินทางออกต่างประเทศคนเดียวอีกครั้ง ศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจเส้นทางในการข้ามประเทศ สุดท้าย เอาว่ะ โดยสารด้วยรถประจำทางนี่แหละ น่าจะเซฟเงินในกระเป๋าและสะดวกที่สุดในตอนนี้ แผน 4 วัน 3 คืนมาเลย มุ่งตรงวังเวียงก่อน 2 คืน แล้วค่อยกลับมานอนเวียงจันทน์ Let’ Go. (เดินทางเมื่อ 23-26 ก.พ.66)

**สิ่งที่ต้องเตรียม**
1.พาสปอร์ต ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
2.ควรมีเงินบาทติดตัวข้ามฝั่งไปประเทศลาว (แนะนำแบงค์ 100 50 20)
3.แลกเงินให้พอดี (แลกฝั่งลาว)
4.รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะแบบรัดส้น
5.ครีมกันแดด พร้อมเสื้อแขนยาว
6.ยาสามัญประจำบ้าน

ทริปนี้ ผมตั้งใจใช้เงินไม่เกิน 5,000 บาท โดยจองโรงแรมผ่านแอป อโกด้า 3 คืน รวมค่าโรงแรมประมาณ 1,700 บาท แลกเงินลาว 4,000 บาท (1.945K) มีเงินสดสำรองไว้ 1,000 บาท ไว้กรณีฉุกเฉิน
รีวิวแบบมหากาพย์ แต่ห้ามคาดหวังอะไรมากจากรีวิวนี้นะครับ (ยิ้ม)
 
DAY1
ทริปนี้ผมขอเริ่มที่ บขส.อุดรธานี (แห่งที่ 1) ท่ารถที่เราจะใช้บริการมุ่งหน้า สปป.ลาว นครหลวงเวียงจันทน์ ผมนั่งรถบัสมาถึงสถานีตอน ตี 5 ครึ่ง ( 5:30 น.) (ปล.มีรถบัสตรงจากกรุงเทพถึงเวียจันทน์) คือแบบ..เงียบสงบมาก มีเพียง พระสงฆ์ และชาวบ้าน ที่รอต่อรถเหมือนกัน นับรวมแล้ว 10 คนถ้วน ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. เปิดขายเวลา 07.00 น. เลยพอจะมีเวลาล้างหน้าแปรงฟัน และนั่งรอเวลาซื้อตั๋ว (ช่องขายตั๋วอยู่ในอาคาร มุมในสุด) ตั๋วรถ (อุดรธานี – นครหลวงเวียงจันทน์)**ตารางรถอยู่ท้ายรีวิว**  ราคา 80 บาท เที่ยวแรก ออกจากอุดรธานี 8.00 น. เวลายังพอมีเช้าๆแบบนี้ขอกินโจ้ก 1 ชาม 40บาท จากร้านค้าข้างสถานีฯ 


ได้เวลาโหลดกระเป๋าลงใต้รถ เราเห็นว่ารถที่เราขึ้นเป็นรถ อุดรฯ – วังเวียง เลยถามพี่พนักงานขับรถว่า เมื่อไรจะเปิดเดินรถ วิ่งตรงถึงวังเวียง พี่แกบอกว่า เร็วๆ นี้ครับ อยู่ระหว่างสำรวจเส้นทางและความคุ้มทุน เพราะว่าต้องใช้บริการทางหลวงพิเศษของลาว ที่พึ่งสร้างเสร็จและเปิดให้ใช้บริการได้ถึงวังเวียง
พี่เขาก็ถามเราว่า 

“จะไปวังเวียงคนเดียวเหรอ เดียวพอถึงท่ารถตลาดเช้าแล้วเดียวพี่แนะนำสามล้อให้ไม่ต้องกลัวโดนเรียกแพง ไปต่อรถตู้ที่จอดรอแถวๆ สนามกีฬา ราคาแพงกว่ารถตู้ประจำทางของลาวนิดหน่อย แต่สะดวกกว่า ถึงเร็วกว่าด้วย”
 
นั่งรถประมาณ 1 ชม. ถึงด่าน ตม.หนองคาย ทำเรื่องผ่านแดนฝั่งไทยเสร็จ ก็กรอกใบ ตม.ของลาว ระหว่างนั่งรถข้ามฝั่ง เพื่อจะได้ไว และก็ไวจริงๆ ครับ เพราะมีเพียงแค่ กลุ่มที่มากับรถบัส บขส.ไทย 20 กว่าคน ปั้มตราขาเข้า พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียม 20 บาท ก็เป็นอันเสร็จพิธี ใครจะแลกเงินหรือซื้อซิมที่หน้าด่านก็ได้นะครับ แต่ผมไม่ได้แลกเงินและเปลี่ยนซิมที่หน้าด่านเลย เพราะแท็กซี่ ยืนรอเยอะมากดูวุ่นวาย เลยเดินขึ้นรถนั่งรอรถออกครับ สัญญาณมือถือจากฝั่งไทย ยังพอใช้งานได้ 3G 4G ใช่ได้จนถึง บขส.ตลาดเช้า เลยครับ.

10.00 รถถึงตลาดเช้า..แน่นอนว่าเหล่าบรรดาพี่ๆ สามล้อทั้งหลายจะมาล้อมเราทันที ส่วนผมพี่พนักงานขับรถชี้ไปที่พี่คนเสื้อแขนยาวใส่แว่น พนักงานขับรถบัสก็เรียกพี่สามล้อบอกว่า น้องเขาจะไปวังเวียง.. พี่สามล้อแกก็เข้าประกบเราทันที

 พี่แกบอกว่าไปวังเวียงใช่ไหม ตอนนี้อีก 10 นาที รถจะออก เป็นรถตู้เดียวพี่ไปส่ง ราคา 200K ( 2 แสนกีบ) ผมขอใช้ตัวย่อนะครับสำหรับค่าเงินกีบ คือ ตัด 0 สามตัวท้ายของเงินลาวไปได้เลย.. ทริคของผม คือ ตัด 0 สามตัว แล้ว คูณ 2 จะเป็นราคาประมาณการ เงินไทย ราคารถตู้ไปก็ประมาณ ไม่เกิน 400 บาท ( 1 บาท = 486 กีบ) ผมก็ตอบตกลงพี่แกไป แล้วแกก็หยิบกระเป๋าผมขึ้นหลังอย่างรวดเร็ว ผมบอกแกว่า "ผมยังไม่ได้ แลกเงินกีบ และเปลี่ยนซิมการ์ดเลย" พี่แกก็บอกว่า "เดี่ยวพี่พาไปไม่ต้องห่วง" "แล้วค่ารถสามล้อพี่ละ ราคาเท่าไร" "น้องมาคนเดียวพี่ขอ 50K ละกัน 80 บาท" คนไทยอย่างเราใจใหญ่ เอาง่ายเข้าว่า ตอบตกลงทันที 555+ (จริงๆแล้วพี่เขาบอกว่า ถ้ามา 2-3 คนพี่เขาคิดคนละ 30K ..นั่นผมมาคนเดียวผิดอีก) พี่สามล้อแกก็พาผมมาตรงร้านค้าข้างบ่อนขายตั๋วรถขากลับ (บ่อนขายปิ้) มาซื้อซิมลาวในราคา 100 บาท และแลกเงินกีบมา 1.945K (4,000 บาท)
 
จุดขายตั๋วรถกลับไทย ตรงเข้ากรุงเทพ / หนองคาย / อุดรธานี

จากนั้นก็พาผมซิ่งไปที่จุดจอดรถตู้ข้างๆสนามกีฬา ที่ดิวราคากันไว้ 200K พอถึงที่จดรถปุ๊บ คือทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก กระเป๋าถูกคนขับย้ายจากรถสามล้อไปไว้ที่รถตู้ ตั้งสติได้อีกทีผมก็นั่งด้านรถข้างๆ คนขับสะแล้ว คือข้างหน้า เห็นวิวถนน วิวภูเขาเต็มๆตา อันนี้ดี แถวหน้าคือ 3 คน คนขับ ผม แล้วก็พ่อหนุ่มเกาหลี คือ ทั้ง 3 ตัวเล็กมันเลยไม่รู้สึกอึดอัดอะไรเลย นั่งสบายเฉย.

ขึ้นทางด่วนลาวจีน ที่พี่คนขับแกบอกว่า เปิดให้ใช้งานช่วงที่โควิดเริ่มเบาลง ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่ เต็ม100% จุดพักรถยังไม่เปิดให้ใช้งาน เป็นทางด่วนช่วงนครหลวงเวียงจันทน์ - วังเวียง เท่านั้นส่วนต่อขยายไปหลวงพระบาง ยังไม่เปิดใช้งาน.. พี่แกก็เหยียบคันเร่งยาวๆ แบบไม่ต้องยกคันเร่งมาก 110 km/h. ยาวๆ ไปเลย เพราะถนนโล่งมาก เพื่อร่วมทางน้อย น้อยแบบตกใจว่า คนลาวเขาไม่ใช้ทางด่วนกันเหรอ คำถามนี้ก็ได้คำตอบจากพี่คนขับว่า คนเราไม่ค่อยนิยมใช้เพราะ ค่าบริการค่อนข้างแพง จากเวียงจันทน์ถึงวังเวียง ค่าทางด่วน 150k คนลาวจึงยังคงใช้เส้นทางสายเก่ากันอยู่
 
ถึงวังเวียง 12.15 น. รถตู้พาผู้โดยสารมาลงรถบริเวณหน้าร้านกาแฟ ใกล้ๆ กับถนนคนเดิน ซึ่งโรงแรมที่ผมจองไว้ ก็อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนักประมาณ 500 เมตร ถ้าเดินคนเดียวอาจจะเก่า แต่พอดีแถวนี้นักท่องเที่ยวเดินแบกเป้กันเยอะจนรู้สึกเดินแล้วไม่เหนื่อย ก่อนเข้าโรงแรมขอแวะกินข้าวเที่ยงก่อน เป็นร้านที่มีแต่คนลาว เป็นคนลาวที่มาเที่ยวบางส่วนเป็นเจ้าหน้าที่พนักงานรัฐ เพราะพอจะเดาได้จากรถที่มาจอดเป็นป้ายดำกับป้ายฟ้าสะส่วนใหญ่
ผมสั่งข้าวขาหมูมาในราคา 30k และโค้ก 1 ขวด ในราคา 8K รีวิวขาหมู คือรสชาติไม่ถูกปากผมเลย หมูแข็ง และน้ำพะโล้เค็มมาก แต่คือเป็นเมนูที่ขายดีมาก สำหรับร้านนี้ ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นรสชาติปกติของทางร้าน ซึ่งไม่ถูกปากเราเองนี่แหละครับ.
 
เดินต่อจากร้านข้าวเลี้ยวขวาเข้ามาในซอยนิดเดียวก็เจอที่พักที่ผมจองเอาไว้ ซื่อ Annecy Hotel ในราคา 480 บาท/คืน ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำ ห้องพักกว้าง ขนาดประมาณ 25 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกครบ แขกพักเยอะมาก ซึ่งไม่มีคนไทยเลย ที่เลือกที่นี่เพราะหนึ่งราคา ที่ตั้งใกล้ร้านอาหาร เดินหาอะไรกินง่าย คือแบบไม่อดตาย ไม่ได้ขาดหวังเรื่องคุณภาพห้องพักมากสักเท่าไร แต่พอเปิดห้องเข้าไปก็ถือว่า ราคานี้ค่อนข้างคุ้มค่ามาก ไม่มีระเบียง แต่เปิดหน้าต่างไปก็เห็นวิวเมืองด้านหลังเป็นทิวเขา อากาศดีแบบผมไม่ได้เปิดพัดลมหรือแอร์เลย อากาศเย็นสบาย ...ช่วงที่ผมไปคือปลายกุมภาพันธ์ 2023 ..ทางโรงแรมขึ้นป้ายขายอาคารไว้ น่าเสียดาย เจ้าของอาจแบกรับภาระมานานในช่วงโควิดที่ไม่มีนักท่องเที่ยว
 
 
 
จากการต้องเดินทางแบบนั่งรถยาวๆ ตั้งแต่ 5 ทุ่ม จนมาถึงวังเวียงตอนเที่ยง ก็เลยขอเอนหลังนอนยาวบนเตียงสัก 1-2 ชม. โดยตั้งใจว่าพอตื่นแล้วก็จะออกไปหารถเช่าแล้วก็ไปปีน "ผาเงิน" เพื่อดูพระอาทิตย์ตก
 
4 โมงเย็นเดินของไปเช่ารถที่ร้านหัวมุมใกล้กับโรงแรมในราคา 150K/วัน(24ชม) แต่ถ้าเป็น ระบบ Automation ก็ 180K/วัน มัดจำพาสปอร์ตไว้ **ตรงนี้แหละคำผมอยากจะบอกว่าผมพลาดมากที่ไม่ได้ copy พาสปอร์ตไว้ จึงเกิดเรื่องวุ่นๆ เสียเวลาไปนิดหน่อย** ได้รถมาก็ถึงเวลาไปเติมน้ำมันเพิ่มเพราะที่ร้านใส่มาให้แค่ 1 ลิตรเท่านั้น ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าน้ำมันลิตรละเท่าไร จึงจัดไปเลย อ้าย 50K ได้น้ำมันมา 2.8 ลิตร เกือบเต็มถังเลย.. แว้นชมเมืองสะ 1 รอบ ก่อนข้ามสะพานแขวนมุ่งหน้าไปยัง จุดชมวิว "ผาเงิน"
 
 

 
เส้นทางไปผาเงินค่อนข้างง่าย ขับรถลงสะพานแขวน จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง จะพบป้ายทางเข้าขนาดใหญ่ ทางเข้าเป็นหินคลุก ทางที่เหมือนจะไม่ใช่ แต่จริงๆ แล้วคือทางนี้แหละ (เพราะผมขับเข้าไปแล้วออกมาเพราะคิดว่าไม่น่าใช่ทางเข้า แล้วสุดท้ายก็ต้องวนกลับมาเข้าทางนี้) จ่ายค่าผ่านประตู 10K/คน กายพร้อมใจพร้อมลุยสิครับ
 
เส้นทางไม่ชันมาก ระยะแรกเป็นขั้นบันได ใช้กำลังขาค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยความที่ผมวิ่งทุกวันเลยรู้สึกว่ายังไหวอยู่ ทางไปจุดชมวิวผาเงิน เอาจริงๆ คือไม่ได้โหดมาก เพราะมีความชันสลับกับทางลาดบ้าง แต่ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล เดินๆไป รู้สึกว่าเมื่อไรจะถึงเนี่ยผ่านมา 30 นาทีแล้วไม่ถึงสักที และแล้วก็ถึงทางแยก นั่นพอเรารังเรไปอีก ชุดชมวิวที่ 1 ไปทางซ้าย จุดชมวิวที่ 2 ไปทางขวา มีชาวต่างชาติ 2 คน ไปทางซ้าย ผมก็เอาวะตามไป ทางขึ้นคือชันมากเป็นขั้นบันได ที่มีคนทำเอาไว้ แต่ด้านบนคือสวยจริง เป็นลักษณะคล้ายสะพานสีแดงยาวให้เราได้ยืนชมบรรยากาศ *ผมลืมกดชัดเตอร์* และมีของขายด้านบนด้วย

 จุดชมวิวผาเงิน จุดที่ 1
ยังเหลือเวลา อีก 30 นาที ก่อนพระอาทิตย์ตก ผมเลยเดินต่อไปยังจุดชมวิวที่ 2 ซึ่งทางเดินเหมือนจุดๆ นี้ไม่ค่อยจะมีใครมา ใจนึงก็กลัวหลงทาง เพราะไม่มีเจอผู้คนหรือได้ยินเสียงของใครเลย การบอกเส้นทางก็มีเพียงลูกศรสีแดงเล็กบนก้อนหิน ที่เรือนรางสะเหลือเกิน แต่ผมก็ถึง.. ซึ่งต้องหาทางบีนขึ้นไปเอง บันไดไม้พังไปแล้ว ด้านบนจะเป็นศาลาพักที่ยังดูใหม่อยู่
 
จุดชมวิวผาเงิน จุดที่ 2
ผมนั่งพักอยู่ตรงจุดนี้สักครู่ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังเดินเหยีบหิน เลยจากจุดที่ผมอยู่ไปเล็กน้อย ผมจึงตัดสินใจเดินต่อไปยังจุดที่ 3 ตามลูกศรสีแดงเล็กๆ เช่นเคย และใช้ประสบการณ์เดินป่าที่พอมีติดตัวมาบ้างคอยสังเกตเส้นทาง เพราะบอกเลยว่า สมองตอนนั้นรังเร เส้นทางมาก ไม่รู้ว่าทางที่เราไปคือถูกหรือไม่ แต่สมองก็สั่งว่าไหนๆ มาแล้วก็ไปให้มันสุดทาง
 
ชื่อสินค้า:   วังเวียง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่