สวัสดีค่ะ เราจะขอมาแชร์การทำ Visa Schengen Italy ครั้งแรกของเราค่ะ เรามีแผนเดินทางไปเที่ยวเดือนเมษาใน 3 ประเทศของกลุ่ม schengen คือ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส เป็นเวลา 10 วัน ซึ่งเรา landing ที่อิตาลีเป็นประเทศแรก และอยู่อิตาลีนานที่สุด เราเลยต้องขอ visa schengen Italy ค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้เราค่อนข้างกังวลมาก เนื่องจากเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเรา passport คือใหม่กิ๊ง ไม่มีประวัติการเดินทางมาก่อน รวมถึงเงินในบัญชีมีไม่ถึง 100,000 บาท แต่ตอนนี้เรายื่นวีซ่าผ่านเรียบร้อยไปเมื่อเดือน มกราคม 2023 ที่ผ่านมาค่ะ
ตอนนี้วีซ่าอิตาลีใช้เวลารอไม่นานแล้วค่ะ ของเรารอแค่ 5 วันก็ได้เลยค่ะ แต่ถ้าเลือกที่จะไปรับเองที่ VFS ก็ประมาณ 3 วันก็ได้แล้ว แต่เราเลือกให้ส่ง EMS มาที่บ้านแทน
เราทำเรื่องขอวีซ่าล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนก่อนเดินทาง โดยเรายื่นวีซ่า ผ่าน VFS เนื่องจากเป็นครั้งแรกของเรา เราเลยใช้บริการเสริม Premium lounge ของทาง VFS ซึ่งมีค่าบริการเสริม 2,200.-/ท่าน ในบริการที่เราได้รับคือ บริการแจ้งเตือนข้อความผ่านเอสเอ็มเอส บริการขนส่งอีเอ็มเอส บริการถ่ายรูป และบริการถ่ายเอกสาร ในส่วนนี้เรามองว่าถ้าเราเตรียมเอกสารครบ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้บริการด้านนี้ค่ะ สามารถไปจองคิวที่เว็บ VFS และเดินทางไปทำเรื่องเองที่ ศูนย์ VFS ตามคิวนัดได้เลยโดยจะมีค่าทำวีซ่าตามที่ VFS แจ้งเลยค่ะ
เอกสารที่เราใช้ในการขอวีซ่าคือ
1. รูปถ่าย 2 ใบ เนื่องจากเราจ่ายค่าบริการเสริม 2,200. เราเลยไปถ่ายรูปที่ VFS
2. หนังสือเดินทางฉบบับจริง ต้องเหลืออายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 3 เดือนหลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศอื่นๆในกลุ่ม Schengen ต้องมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้า
3. สำเนาหนังสือเดินทาง(หน้าที่มีข้อมูลส่วนบุคคล) 2 ชุด
4. เอกสารการจองตั่วเครื่องบินไป-กลับ เราจองโดยเลือกที่จะเสียค่า Hold My Booking ไปก่อน เพื่อ print เอกสารออกมา แล้วค่อยไปจองจริงหลังจาก visa ผ่าน
5. ประกันการเดินทาง จะต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาในการเดินทางในกลุ่มประเทศ Schengen ความคุ้มครองขั้นต่ำ 30,000 ยูโร สำหรับค่ารักษาพยาบาลแบบฉุกเฉินในโรงพยาบาลหรือการส่งกลับประเทศ
6. หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม ส่วนนี้อันนี้เราต้องจองทุกวันที่พัก โดยเราลือกการจองที่สามารถ free cancel ได้ เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแผน แนะนำว่าเลือกที่พักที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน เพราะต่อให้ free cancel แต่อาจจะต้องรอ refund นาน
7. แผนการเดินทางโดยละเอียด (Travel Itinerary) อันนี้เราเขียน Date/Detail/Transportation/Country-City Stay/Hotel อธิบายทุกวันที่เราไปอยู่ใน แต่ละประเทศ
8. หลักฐานการจ้างงานและหลักฐานทางการเงิน
- หนังสือรับรองการทำงาน (ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน)
- Bank statement ย้อนหลัง 3 เดือน (แต่เราขอไป 6 เดือนค่ะ) เราใช้ทั้งบัญชีเงินเดือน และบัญชีเงินเก็บ โดยบัญชีเงินเดือนมีเงินติดบัญชีอยู่ ไม่ถึง 2,000 และบัญชีเงินเก็บมีประมาณ 80,000 กว่าบาท
- หนังสือรับรองบัญชี เราขอไปทั้งสองบัญชีเลย คือบัญชีเงินเดือน และบัญชีเงินเก็บ โดยต้องไปขอกับธนาคารซึ่งจะมีค่าบริการต่างกัน แล้วแต่ที่ธนาคารกำหนด
9. หนังสือแนะนำตัวภาษาอังกฤษ อันนี้เราเขียนแนะนำตัวเอง ซื่อ อาชีพ รายได้ บริษัท ต้องการไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เพราะอะไร กี่วัน แพลนเป็นยังไง
10. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า ส่วนนี้สามารถ download ได้จากเว็บ VFS และกรอกไปก่อนได้เลยค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปทำเรื่องที่ศูนย์ VFS ซึ่งอยู่ที่จามจุรีสแควร์ ตามเวลานัดเลยค่ะ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เจ้าหน้าที่จะเช็คเอกสาร แล้วก็จ่ายเงิน หลังจากนั้น รอผลที่บ้านได้เลย
เราขอมาแชร์ไว้เท่านี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ
ประสบการณ์ยื่น Visa Schengen Tourist ครั้งแรกแบบเงินเก็บในบัญชีมีไม่ถึง 100,000 บาท
ตอนนี้วีซ่าอิตาลีใช้เวลารอไม่นานแล้วค่ะ ของเรารอแค่ 5 วันก็ได้เลยค่ะ แต่ถ้าเลือกที่จะไปรับเองที่ VFS ก็ประมาณ 3 วันก็ได้แล้ว แต่เราเลือกให้ส่ง EMS มาที่บ้านแทน
เราทำเรื่องขอวีซ่าล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนก่อนเดินทาง โดยเรายื่นวีซ่า ผ่าน VFS เนื่องจากเป็นครั้งแรกของเรา เราเลยใช้บริการเสริม Premium lounge ของทาง VFS ซึ่งมีค่าบริการเสริม 2,200.-/ท่าน ในบริการที่เราได้รับคือ บริการแจ้งเตือนข้อความผ่านเอสเอ็มเอส บริการขนส่งอีเอ็มเอส บริการถ่ายรูป และบริการถ่ายเอกสาร ในส่วนนี้เรามองว่าถ้าเราเตรียมเอกสารครบ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้บริการด้านนี้ค่ะ สามารถไปจองคิวที่เว็บ VFS และเดินทางไปทำเรื่องเองที่ ศูนย์ VFS ตามคิวนัดได้เลยโดยจะมีค่าทำวีซ่าตามที่ VFS แจ้งเลยค่ะ
เอกสารที่เราใช้ในการขอวีซ่าคือ
1. รูปถ่าย 2 ใบ เนื่องจากเราจ่ายค่าบริการเสริม 2,200. เราเลยไปถ่ายรูปที่ VFS
2. หนังสือเดินทางฉบบับจริง ต้องเหลืออายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 3 เดือนหลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศอื่นๆในกลุ่ม Schengen ต้องมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้า
3. สำเนาหนังสือเดินทาง(หน้าที่มีข้อมูลส่วนบุคคล) 2 ชุด
4. เอกสารการจองตั่วเครื่องบินไป-กลับ เราจองโดยเลือกที่จะเสียค่า Hold My Booking ไปก่อน เพื่อ print เอกสารออกมา แล้วค่อยไปจองจริงหลังจาก visa ผ่าน
5. ประกันการเดินทาง จะต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาในการเดินทางในกลุ่มประเทศ Schengen ความคุ้มครองขั้นต่ำ 30,000 ยูโร สำหรับค่ารักษาพยาบาลแบบฉุกเฉินในโรงพยาบาลหรือการส่งกลับประเทศ
6. หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม ส่วนนี้อันนี้เราต้องจองทุกวันที่พัก โดยเราลือกการจองที่สามารถ free cancel ได้ เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแผน แนะนำว่าเลือกที่พักที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน เพราะต่อให้ free cancel แต่อาจจะต้องรอ refund นาน
7. แผนการเดินทางโดยละเอียด (Travel Itinerary) อันนี้เราเขียน Date/Detail/Transportation/Country-City Stay/Hotel อธิบายทุกวันที่เราไปอยู่ใน แต่ละประเทศ
8. หลักฐานการจ้างงานและหลักฐานทางการเงิน
- หนังสือรับรองการทำงาน (ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน)
- Bank statement ย้อนหลัง 3 เดือน (แต่เราขอไป 6 เดือนค่ะ) เราใช้ทั้งบัญชีเงินเดือน และบัญชีเงินเก็บ โดยบัญชีเงินเดือนมีเงินติดบัญชีอยู่ ไม่ถึง 2,000 และบัญชีเงินเก็บมีประมาณ 80,000 กว่าบาท
- หนังสือรับรองบัญชี เราขอไปทั้งสองบัญชีเลย คือบัญชีเงินเดือน และบัญชีเงินเก็บ โดยต้องไปขอกับธนาคารซึ่งจะมีค่าบริการต่างกัน แล้วแต่ที่ธนาคารกำหนด
9. หนังสือแนะนำตัวภาษาอังกฤษ อันนี้เราเขียนแนะนำตัวเอง ซื่อ อาชีพ รายได้ บริษัท ต้องการไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เพราะอะไร กี่วัน แพลนเป็นยังไง
10. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า ส่วนนี้สามารถ download ได้จากเว็บ VFS และกรอกไปก่อนได้เลยค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปทำเรื่องที่ศูนย์ VFS ซึ่งอยู่ที่จามจุรีสแควร์ ตามเวลานัดเลยค่ะ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เจ้าหน้าที่จะเช็คเอกสาร แล้วก็จ่ายเงิน หลังจากนั้น รอผลที่บ้านได้เลย
เราขอมาแชร์ไว้เท่านี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ