🇹🇭🛑มาลาริน🛑🇹🇭 โควิดสป.ที่7ลดลง เผยเปิดประเทศ 6 เดือน คุมโควิด อยู่หมัด จับตาไม่ให้พลิกผัน ลุยฉีด LAAB ดูแลสูงอายุ

โควิด-19 รอบสัปดาห์ ตัวเลขลดต่อเนื่อง ป่วยใหม่เฉลี่ยวันละ 30 ตาย 1 ราย


โควิด-19 ประจำสัปดาห์ที่ 7 ไทยมีตัวเลขลดต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ติดเชื้อเฉลี่ยเหลือวันละ 29 คนและเสียชีวิต 1 ราย รวมถึงยอดผู้ป่วยอาการหนักต่ำกว่า 200 คน
 
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ ระบุว่า ข้อมูลของสัปดาห์ที่ 7 ปี 2566 ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ – 18 กุมภาพันธ์ 2566 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสม 203 คน เฉลี่ยวันละ 29 คน รวมสะสม 3,912 คน (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566) ขณะที่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 8 คน เฉลี่ยวันละ 1 คน รวมสะสม 233 คน (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566)  มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 78 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 51 คน



ส่วนจำนวนผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ วันที่ ฉีดวัคซีนสะสม 144,807,129 โดส แบ่งเป็น วัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,217,435 โดส คิดเป็น 82.26% เข็มที่ 2 จำนวน 53,707,315 โดส คิดเป็น 77.21% และตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไป จำนวน 33,882,379 โดส



ทั้งนี้หากเปรียบเทียบสถานการณ์การแพร่ระบาดตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากกราฟจะเห็นได้ว่าทั้งจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ยอดผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยส่วนมากยังพบผู้ป่วยรายใหม่ในจังหวัดกรุงเทพมหานครมากที่สุด ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบและผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจก็มีจำนวนลดลง

ดังนั้นแล้วการระบาดของโควิด-19 ใกล้ยุติลงแล้วหรือไม่? เหมือนเมื่อครั้งที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เราเองก็สามารถหยุดตัวเลขผู้ป่วยให้ต่ำลงได้ จนไม่เป็นที่น่ากังวลอีกต่อไป ด้วยอาวุธวัคซีน และการป้องกันตัวเองจากการหมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่างจากผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป

https://www.pptvhd36.com/health/news/2865

อนุทิน" เผยเปิดประเทศ 6 เดือน คุม "โควิด" อยู่หมัด จับตาไม่ให้พลิกผัน ลุยฉีด LAAB สถานดูแลสูงอายุ



อนุทิน" เผย 6 เดือนหลังเปิดประเทศ ยังคุม "โควิด" ได้ดี ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตลดลง สั่งมอนิเตอร์ไม่ให้เกิดเรื่องพลิกผัน ลุยฉีด LAAB ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยง รองรับปี 2566 ปีแห่งสุขภาพสูงวัย เพิ่มความปลอดภัย จัดเตรียมประมาณ 2.5 แสนโดส ฉีดไปแล้ว 5.7 หมื่นโดส รุกฉีดในศูนย์ดูแลสูงอายุเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก 70-80% พร้อมหนุนโรงเรียนแพทย์หากช่วยเปิดฉีดคนแก่

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเดอะซีนิเซนส์ เขตภาษีเจริญ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดกิจกรรม "ปกป้องกลุ่มเปราะบางเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน" ด้วยการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) เชิงรุกให้ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงสูง ว่า สธ.ประกาศปี 2566 เป็นปีสุขภาพสูงวัยไทย ให้เข้าถึงบริการสุขภาพรวดเร็วและทั่วถึง ให้มีชีวิตยืนยาวและคุณภาพ สธ.และกรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งโรงเรียนแพทย์ สถานพยาบาลรัฐและเอกชน ในการให้บริการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโดยการฉีด LAAB เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความปลอดภัย เพราะกลุ่มนี้ตอบสนองต่อวัคซีนโควิด 19 น้อยกว่าคนทั่วไป โดย LAAB ประสิทธิภาพสูงและผลข้างเคียงต่อผู้สูงอายุน้อย การเชิงรุกฉีดในสถานดูแลผู้สูงอายุโดยให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงใน รพ. จะเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เข้ามารับบริการหรือมารับการรักษา

LAAB เหมือนวัคซีนที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้รักษาผู้สูงอายุกรณีติดโควิด เพราะออกฤทธิ์เร็ว และยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยเป็นไฮบริด ปีนี้เราประกาศเป็นปีการดูแลสุขภาพผู้สูงวัยจึงต้องมาเร่งการฉีด LAAB ไปถึงผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ศูนย์ดูแลสูงอายุ สถานพยาบาลรัฐและเอกชนประสานมายังกรมควบคุมโรค เราก็จะจัดให้ ซึ่งรับบริการได้ฟรี เพราะรัฐบาลจัดสรรมาเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันแก่ผู้สูงวัย ตอนนี้เรามีประมาณ 2 แสนกว่าโดส ก็จะกระจายทั่วประเทศอย่างเท่าเทียม ใช้ไปแล้วประมาณ 5.7 หมื่นโดส เหลือเพียงพอให้บริการกลุ่มเสี่ยง หากผลการใช้ออกมามีประสิทธิภาพประสิทธิผลที่สูงในผู้สูงอายุก็สามารถจัดหาเพิ่มเติม" นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า ได้หารือคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ว่าเรามีการสต๊อก LAAB จำนวนหนึ่ง หากโรงเรียนแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ในเครือข่าย ต้องการ LAAB ไปให้บริการผู้สูงอายุ เราก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ตอนนี้วัคซีนพอ แต่คนไม่อยากฉีดแล้ว ก้ยังต้องเสริมความมั่นใจว่า ฉีดไว้ก่อนดีกว่าไม่ฉีด การที่เรารอดถึงทุกวันนี้ก็เพราะคนฉีดวัคซีนเราต้องสร้างความเข้าใจต่อไป

https://mgronline.com/qol/detail/9660000017636

ข่าวโควิดยังคงมีอยู่ค่ะ.....

ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ.....inloveรักเลิฟ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายสัปดาห์
ระหว่างวันที่ 12 - 18 กุมภาพันธ์ 2566
ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์)
จำนวน 203 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 29 ราย/วัน
ผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์)
จำนวน 8 ราย : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 1 ราย/วัน
---------------------
หายป่วยสะสม 3,912 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566)
เสียชีวิตสะสม 233 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566)
---------------------
ผู้ป่วยปอดอักเสบ 78 ราย
ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 51 ราย
https://www.facebook.com/thaimoph/posts/pfbid0znyqtP8xhf9r5NX5S3oPspi18WgEKh78HPTtkuaknXM5RiKEnRWEQagsCp5TxUnEl


ก.สาธารณสุข รับมอบวัคซีนไฟเซอร์ bivalent จำนวน 501,120 โดส จากเกาหลีใต้ ในโอกาสครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เกาหลี เตรียมจัดสรรให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร สิ้นเดือน ก.พ. นี้

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อม และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รับมอบวัคซีนโควิด 19 รุ่นใหม่ ไฟเซอร์ bivalent จำนวน 501,120 โดส จากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี โดยมี นาย มุน ซึงฮยอน (Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย นาย จอน โจยอง (Jeon Joyoung) อัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย และคณะ เป็นผู้แทนส่งมอบ

โดยสาธารณรัฐเกาหลีเคยสนับสนุนวัคซีนแอสตราเซนเนก้าให้กับไทยเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2564 จำนวน 470,000 โดส ช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตให้กับคนไทยและคนเกาหลีที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี สำหรับวัคซีนที่สนับสนุนเป็นครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ เป็นวัคซีนรุ่นใหม่ของไฟเซอร์ ชนิด bivalent ซึ่งจะเป็นล็อตแรกของประเทศไทยที่จะนำมาใช้สร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มเสี่ยงและประชาชน

“ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม ครอบคลุมประชากรมากกว่า 83% และฉีดเข็มกระตุ้นไปแล้ว 39% ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้กับภัยสุขภาพระดับโลก สำหรับการรับมอบวัคซีนในวันนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีที่ไม่ใช่เพียง 65 ปีเท่านั้น แต่จะเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดไป” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรคจะจัดสรรวัคซีนให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ตามสัดส่วนของประชากรแต่ละจังหวัดอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รวมทั้งจัดสรรให้กับเครือข่ายกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ (Uhosnet) กรมการแพทย์ และสภากาชาดไทย คาดว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนประมาณสิ้นเดือน กุมภาพันธ์นี้ กลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ bivalent เข็มกระตุ้น ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย อาสาสมัครสาธารณสุข กลุ่มเสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรง (กลุ่ม 608) รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
https://www.facebook.com/NBT2HDTV/posts/pfbid02gqDyqupdZ6aBq5uggLtsxtniM8uV3AdohisYfWDyPA2AF95aQwdTYp1xbCGAy62ml


สธ. รับมอบวัคซีน Pfizer รุ่นใหม่ “Bivalent” จาก เกาหลีใต้ กว่า 5 แสนโดส กระจายทั่วประเทศ สิ้นเดือน ก.พ.นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข รับมอบวัคซีนโควิด 19 รุ่นใหม่ ไฟเซอร์ bivalent จำนวน 501,120 โดส จากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี จากผลการศึกษาในช่วงปลายปี 2565 ในประเทศสหรัฐอเมริกาและองค์การอนามัยโลก มีข้อแนะนำให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ bivalent เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มขึ้นไป ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อแบบมีอาการได้ประมาณ 28-56% ความปลอดภัยไม่ต่างกับวัคซีนรุ่นแรกชนิด monovalent สามารถใช้ทั้งชนิด monovalent และ bivalent มาเป็นเข็มกระตุ้นได้ เนื่องจากผลในการป้องกันโรคไม่แตกต่างกัน โดยกรมควบคุมโรคจะจัดสรรวัคซีนให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ตามสัดส่วนของประชากรอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม คาดว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนประมาณสิ้นเดือน กุมภาพันธ์นี้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ bivalent เข็มกระตุ้น ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย อาสาสมัครสาธารณสุข กลุ่มเสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรง (กลุ่ม 608) รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง โดยต้องได้รับวัคซีนโควิด 19 มาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม จะฉีดเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 3 เดือน และเข็มที่ 4 ห่างจากเข็มที่ 3 อย่างน้อย 4 เดือน ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 มาแล้วและเคยติดเชื้อ จะฉีดหลังติดเชื้ออย่างน้อย 6 เดือน

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0UBLLJSYQBQTTNAbSUdtQQcEb7ZN4xfpMF2V8meB5zH62kHpSqkmJqNiG4yStinvDl


"นพ.ยง" ชี้ ภูมิจากการติดเชื้อโควิดหลังฉีดวัคซีน อยู่ได้นานกว่ารับวัคซีนอย่างเดียว เป็นเหตุให้โรคนี้มีแนวโน้มลดลง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเรื่อง "โควิด-19 ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อหลังได้รับวัคซีน จะอยู่ยาวนาน กว่าภูมิที่ได้รับวัคซีนอย่างเดียว เป็นเหตุให้โรคสงบลง”พร้อมระบุว่า

ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้ว 70-80% และส่วนใหญ่ก็ได้รับวัคซีนไปแล้ว มีข้อมูลค่อนข้างชัดเจนมากว่า ภูมิต้านทาน ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อหลังได้รับวัคซีนภูมิจะอยู่ในระดับสูงมาก และอยู่นานกว่า ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว และน่าจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ดีกว่า เช่นเดียวกันเมื่อเป็นเช่นนี้ ประชากรไทยส่วนใหญ่จึงมีภูมิต้านทานแบบลูกผสมในระดับสูงและอยู่นาน จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคนี้มีแนวโน้มลดน้อยลงในช่วงที่ผ่านมา (เพราะส่วนใหญ่ติดเชื้อไปแล้ว) การติดเชื้อในเด็กมีจำนวนมากที่เป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านทานขึ้นเห็นได้จากการตรวจเลือดในการศึกษาของเรา

ที่มา : Yong Poovorawan
https://web.facebook.com/NBT2HDTV/posts/pfbid0Wb84rcxpetoVL3eQVzwqDENXV9mRQ59kpnohuxjynbSHzPzLUaXDbSXCYV9ACuZwl


“นพ.ยง” ชี้โควิด-19 ที่ลดความรุนแรง คล้ายไข้หวัดใหญ่หรือโรคทางเดินหายใจ การใช้วัคซีนจะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ประชาชนลังเลจะใช้เข็มกระตุ้น ลดลงเหลือ 60% การใช้วัคซีนจะต่ำกว่าเป้าหมาย

ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/pfbid02uHDMsTHzXGMDiZHUUJEoSPVFk3MGEfE79dTZDUiqe5mNqV85bmGiQHesAfdNe48hl
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/pfbid02aZmucNd5JAWMEG7HtC3CkN9a2S1fwnnQJo2RL7oZDCtkMu3Hq7PpaDe4jScoeVqBl


ศูนย์สาธิตบริการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 7 ขอนแก่น ให้บริการฉีดวัคซีน LAAB ป้องกันโรคโควิด 19
https://web.facebook.com/thaimoph/posts/pfbid02wafm6MDgq41zu232FteD8gJFuWWtYeuoupC4ijjEvn5z7WGouQUqpi9skQz1ux1ol
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่