ผิดมากไหม คนไม่ดี ที่รู้ตัวช้า แต่ว่าสิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมา ก็แย่ไม่แพ้กัน

กระทู้สนทนา
อยากจะมาถามความคิดเห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในพันทิพ ว่าถ้าตัวเองเป็นแบบนี้ หรือเจอเหตุการณ์แบบนี้ จะรู้สึกยังไง
โดยเรื่องที่ผมจะเล่าต่อจากนี้ มันเกิดขึ้นจากที่ผมเป็นคนทำ และก็เป็นผลต่อเนื่อง จนผมเองก็ถูกกระทำ จะแบ่งเป็น 3 PART

PART-1 ชีวิตคู่ของผม
ย้อนไปเมื่อปี 2557 ผมได้ตัดสินใจ แต่งงานกับผู้หญิงคนนึง หลักจากที่รู้จักกันมาได้3-4เดือน เพราะคิดว่า
เค้าคือคนที่ลงตัว แล้วผมก็พร้อมสำหรับการแต่งงาน ทั้งหน้าที่ การงาน ทรัพย์สิน หลังจากแต่งงานไปได้ซัก2ปี
ผมก็เริ่มรู้ตัวว่า ผมไม่ได้เป็นคนที่ซื่อสัตย์ คือแอบมีไปคุยกับคนอื่นบ้าง   จนแฟนผมจับได้ ก็อยากจะขอเลิก
แต่ผมขอโอกาส ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เค้าก็ใจอ่อน ก็คบกันต่อ     หลังจากนั้น เราก็ใช้ชีวิตคู่กันต่อ
โดยตอนแรก พยายามที่จะมีลูก จนไปถึงขั้นตอนวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงล้มเลิกความคิดที่จะมีลูกอีก
ถือว่าได้พยายามเต็มที่แล้ว ก็ใช้เวลาหลังจากนั้นต่อ จนผ่านมาอีกหลายปี  ผมยังคงมีความคิดที่อยากจะคุย
กับผู้หญิงคนอื่นเหมือนเดิม คือกับแฟน ผมไม่ได้มีความคิดที่จะอยากพัฒนา ความสัมพันธ์ต่อ หรือเรียกว่า
หมด passion  ความคิดแรกเลย คือผมอยากกลับมาใช้ชีวิตคนเดียว ส่วนเรื่องที่จะไปเริ่มต้นกับใครคนใหม่หรือเปล่า
ผมยังไม่ได้คิดตรงนั้น ระหว่างที่คิด ผมก็มีไปเจอคนอื่นบ้าง    แต่ส่วนมากจะเจอไม่กี่ครั้ง แล้วก็เปลี่ยนคน
ผมก็เลยอยากหาโอกาส บอกกับแฟนผมตรงๆ ว่าผมอยากลับมาใช้ชีวิตคนเดียว  ระหว่างที่ใช้ชีวิตด้วยกัน
ผมดูแลเค้าอย่างดี ให้อยู่บ้าน โดยไม่ต้องทำงาน มีเงินใช้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากไปเที่ยวไหนก็พาไป
แต่การที่ผมแว้บไปเจอใคร ผมจะจัดการเวลาของผมเอง โดยไม่ให้เค้ารู้ ผมรู้ตัว ว่าผมทำผิดต่อเค้า จนกระทั่ง

เมื่อปลายปีที่แล้ว (เข้าสู่ PART-2)
ผมได้ไปรู้จักน้องผู้หญิงคนนึง ที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ จากที่ผมสามารถช่วยเหลือเค้าเรื่องเงิน ส่วนเค้าตอบแทนผมด้วยตัว
จริงๆมันก็คงจะเหมือนครั้งที่ผ่านๆมาๆ ก็คือคงเจอกันไม่กี่ครั้งแล้วก็จบ แต่ปรากฏว่า พอคุยกันบ่อยขึ้น เจอกันบ่อยขึ้น
กลับกลายเป็นว่า เค้าบอกว่าชอบผมมาก อยากให้ผมดูแลเค้าไปนานๆ ผมเองก็รู้สึกชอบเค้ามากขึ้นเหมือนกัน ก็เลยทุ่มเทให้ทุกอย่าง
ซัพพอร์ตเค้าทุกอย่าง ชนิดที่ว่า ก็คงหาคนที่จะทุ่มเทอะไรให้กับเค้าได้ยาก แต่เค้าเคยบอกผมทีหลังนะ ว่าทำไมจะไม่มี
เรื่องที่เข้ากันได้ดีที่สุด คือเรื่องบนเตียง  ก็คุยกันมาเรื่อยๆ แต่ระหว่างที่คุยกัน เค้าเป็นคนที่ชอบเงียบหายไปทีนึงหลายๆชั่วโมง
จนบางทีผมก็สงสัยว่าเค้าอยู่กับใครรึป่าว มีเวลาที่จำกัดรึป่าว ทุกครั้งที่ถาม เค้าจะบอกว่า ไม่มีอะไร ผมคิดมากไปเอง
บางทีเค้าก็หลับยาว คือผมสงสัยมาก ก็จะถามเค้าบ่อยขึ้น จนเค้าเริ่มอึดอัด เริ่มรำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ จนเค้าหาว่าผมเป็นโรคจิต
ตามส่องดูเค้าตลอด ในทุกช่องทาง ทั้งเฟซบุ๊ค ไอจี ติ๊กต่อก จนเค้ารู้สึกว่าเค้าเหมือนถูกจับตามองตลอดเวลา ระหว่างนั้น
ผมสงสัยพฤติกรรม ระหว่างเค้า กับเพื่อนผู้ชายที่สนิทคนนึงตลอด เคยถามเค้าว่า มีอะไรพิเศษรึป่าว เค้าก็บอกว่า ไม่มีอะไร
ช่วงเวลาที่ผมรู้จักเค้า ผมก็มีแว้บไปเจอน้องคนเดิมที่เคยรู้จักกัน เคยช่วยเหลือกันมาก่อน อยู่2ครั้ง พอเค้ารู้ เค้ามีอาการไม่พอใจ
แต่ว่าไม่ได้รุนแรงถึงขั้นโกรธ เค้าบอกว่า เค้าเข้าใจผม ก็เคลียร์ตรงนั้นไป  จนกระทั่ง หลังปีใหม่ ช่วงเค้าขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่
กับเพื่อนๆ(โดยที่ก็มีเพื่อนผู้ชายคนนั้นที่ผมสงสัยมาตลอดไปด้วย)  ตอนนั้นผมกับเค้าทะเลาะกันหนักมาก เพราะเค้าแทบจะไม่มีเวลา
คุยกับผมเลย  ปกติแล้วเวลาที่เราเจอหน้ากัน เรามีความสุขดี แต่พอเวลาที่ห่างกัน เค้ามักจะทำตัวมีพิรุธ จนผมอดที่จะสงสัยไม่ได้
จนครั้งนี้ มันหนักสุด จนเค้าขอเวลา ไม่คุยกับผม3วัน จนกว่าเค้าจะเที่ยวที่เชียงใหม่เสร็จ  ก็ครบตามที่เค้าขอ เราก็กลับมาคุยกัน
ทำความเข้าใจกันกับเรื่องความสัมพันธ์ของเราต่อไป มาถึงตอนนั้น ผมก็ยังคงหาจังหวะ ที่จะบอกแฟนคนที่แต่งงานว่าผมไม่เหมือนเดิม
ผมกับน้องคนนั้น มันมีเรื่องนึง ที่ไม่ว่ายังไง ผมก็ยังคาใจมาตลอด คือเค้ามีไอจี2อัน อันนึงเปิดสาธารณะ อีกอันปิดเป็นส่วนตัว
ผมพยายามที่จะขอฟอลเค้าในอันที่เป็นส่วนตัว แต่เค้าก็ไม่เคยคิดที่จะรับ แล้วบอกกับผมว่า มันเป็นพื้นที่เซฟโซนสำหรับเค้า
เค้าอยากให้ผมรู้จักเค้า แค่ที่เค้าอยากให้รู้จักก็พอ   ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมสงสัยอย่างหนักมาตลอด

PART-3 แตกหัก พังทลาย
จนกระทั่ง เมื่อวันที่13 กุมภา ที่ผ่านมา ผมได้มีเวลาอยู่กับเค้า จนตอนที่เค้าหลับ ผมเลยแอบหยิบโทรศัพท์เค้ามาปลดล๊อครหัส
ที่ผมแอบจำได้ ซึ่งผมรู้ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่มันเป็นวิธีเดียว ที่จะรู้สิ่งที่เค้าซ่อนไว้ทั้งหมด ผมรีบเข้าไปดูไอจีที่เค้าเซ็ตส่วนตัวไว้
ก็พบว่า เค้าลงสตอรี่ กับเพื่อนผู้ชายคนที่ผมเคยสงสัยมาตลอด เป็นสตอรี่ ที่คนเป็นแฟนเค้าทำกันทุกอย่าง ชนิดที่ว่าผมกับเค้า
ไม่เคยมีถ่ายรูปคู่อะไรแบบนั้นเลย ซึ่งเค้าทั้งคู่ดูมีความสุขกันมาก อารมณ์ผมตอนนั้น คือเสียใจจนไม่รู้จะบรรยายยังไงกับสิ่งที่เค้าทำ
ผมร้องไห้และถามเค้าว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ เค้าตอบกลับมาคำแรก มันก็ไม่ต่างจากที่พี่ทำกับแฟนพี่นั่นแหละ ผมนี่ใจหายแว้บ
คือกับแฟนผม ผมรู้ใจตัวเองอยู่แล้วว่า อีกไม่นาน ผมจะกลับมาอยู่คนเดียว แต่สิ่งที่เค้าทำกับผมน่ะ ไหนบอกว่ารักผมอยากให้ผม
ดูแลเค้าไปนานๆ แต่พอคุยกันต่อมากๆเข้า เค้าแก้ตัวว่า กับผู้ชายคนนั้น มันเป็นความสัมพันธ์แบบแกล้งๆ แกล้งว่าเป็นแฟนกัน
ส่วนกับผม เค้าอยากจะมีผมในชีวิตจริง ผมก็ไม่รู้ว่า ทุกท่านอ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อในสิ่งที่เค้าพูดมั๊ยครับ  สุดท้าย พอคุยกันจนหมด
เค้าหลับไป ส่วนผมได้แต่นั่งคอตก เสียใจกับสิ่งที่เค้ากับผม  จนตอนบ่าย ผมขับรถไปส่งเค้าที่บ้าน และกลับมาเจอแฟน ก็ทำตัวปกติ
แฟนผมถามขึ้นมาว่า ไปซื้อของชิ้นนึงให้ใครมา ผมก็เลยบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แฟนผมเค้าก็อึ้งๆอยู่แต่เค้าไม่ได้โมโห
โกรธ หรือมีปฏิกิริยาที่จะทะเลาะกันใหญ่โต เค้าบอกว่า เค้าสังเกตมานานแล้ว ที่ผมเปลี่ยนไป เค้าทำใจมาระยะนึงแล้ว เพียงแค่
ยังไม่เคยฟังจากปากผม แต่เค้าก็คงอยู่ต่อไม่ไหว ส่วนผมเอง ผมก็บอกเค้าตรงๆว่า ผมอยากกลับมาอยู่คนเดียวซักพักแล้ว
ถึงจะไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกคนเข้ามา ผมก็คงยังจะบอกลากับเค้าอยู่ดี เราเคลียร์กันจบในวันนั้น เราลดสถานะจากคู่รักมาเป็นคนที่อยู่บ้านเดียวกัน
ผมบอกเค้าว่า อยู่เท่าที่เค้าอยากจะอยู่ จนกว่าเค้าจะคิดออกว่า เค้าจะทำยังไงต่อไป ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องของผู้หญิงที่หลอกผม เค้าบอกว่า เค้าขอเวลาอีก3วัน เพื่อเคลียร์ตัวเอง ทบทวนความรู้สึกตัวเอง ให้ผมยังไม่ต้องคุยกับเค้าต่อ
แต่ผ่านไปแค่วันที่2 ผมอึดอัด จนทนไม่ไหว ผมไม่ได้คุยกับเค้านะ ผมยังให้เวลาเค้า แต่ผมเลือกที่จะส่งข้อความไปคุยกับผู้ชายโดยตรง
ผมเริ่มต้นประโยคว่า ในเมื่อชอบกันขนาดนั้น ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆ ทำไมไม่ไปคบกันเปิดเผยไปเลย ผมพร้ิมจะหลีกทางให้ ถ้าตัวผู้หญิงมีความสุข
เค้าตอบกลับมาเพียงว่า ผมนี่แหละเห็นแก่ตัว ไม่เคลียร์ตัวเองให้ดี จนเค้าไม่ต้องการที่จะรอ  แล้วผู้ชายคนที่เป็นเพื่อนมันก็ชอบผู้หญิง
มันทำตัวเองให้เป็นที่พักใจ เป็นความสบายใจให้ผู้หญิง เวลาที่มีปัญหาทะเลาะกับผม มันว่าผมว่า ผมเห็นแก่ตัว ผมชอบพูดให้ตัวเองดูดี
แต่สุดท้ายผมก็ยังไม่ได้เคลียร์ตัวเองให้ผู้หญิงเห็น  ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องให้เรื่องมันซับซ้อน โดยที่ต้องเอาคนอีกคนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้พยายามเคลียร์ตัวเอง แต่ว่า มันต้องใช้เวลา และหาโอกาสที่จะคุย  พอผู้หญิงรู้ว่าผมส่งข้อความคุยกับผู้ชายโดยตรง
เค้าโกรธมาก เค้าด่าว่าผมล้ำเส้น เค้าขอเวลาเคลียร์ ทำไมผมไม่ให้เค้า  พอวันรุ่งขึ้น ผมก็แอบไปรู้ว่าเค้ายังคงไปเที่ยว ยังใช้เวลากับผู้ชายคนนี้
แม้จะไม่ได้ไปกัน2ต่อ2 แต่เค้ามีเพื่อนผู้หญิงอีกคนด้วย แต่สำหรับผม การขอเวลาเคลียร์ มันก็ไม่ควรจะอยู่กับอีกฝ่ายอย่างแฮปปี้มีความสุขรึป่าว
แล้วผมล่ะ ผมโดนกีดกัน ออกห่าง ไม่ให้คุย ติดต่อ เป็นเวลา3วัน  จนตอนค่ำ ผมเห็นเค้าลงสตอรี่ที่ลานโบว์ลิ่ง ผมขับรถออกจากบ้าน
กะจะไปเจอเค้า เพื่อคุยให้ทุกอย่างมันจบ แต่ว่าไม่เจอ ผมก็เลยโทรหา พอรับเค้ารับสาย เค้าก็หัวเสีย ด่าผมทุกอย่างว่าไม่ให้เวลาตามที่เค้าขอ
ว่าเรามีความต่างทางด้านความคิด ทางด้านอายุ ต่างกันจนเกินไป ไม่เคยเข้าใจเค้าเลย ทั้งที่ปากบอกว่าเข้าใจ แล้วก็วางสายไป ไม่คุยกับผมอีก
แล้วก็บล๊อคช่องทางการติดต่อ ทุกช่องทาง

มาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าคุณเป็นผม คุณจะทำยังไงกับเหตุการณ์ครั้งนี้  ตัวผมเอง มีคำตอบในใจอยู่แล้ว
ถ้าสงสัยรายละเอียดตรงไหน สอบถามได้นะครับ เรื่องนี้รายละเอียดมันเยอะม่ก ผมพยายามสรุปมาหลักๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่