เครียดเรื่องบริษัทที่ทำงานอยู่มากครับ ไม่รู้จะจัดการกับตัวเองยังไง เรามาขอระบาย

ตอนนี้เราทำงานเป็นเจ้าหน้าที่หลังการขายอยู่บริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง รับเงินเดือนที่ 2.6 K ด้วยปริมาณงานและความรับผิดชอบก็สมกับเงินเดือน Work Life Balance ค่อนข้างโอเค ได้หยุด เสาร์-อาทิตย์ เราก็มีเวลาไปหาทำธุรกิจเล็กๆได้
เมื่อสิงหาคม หัวหน้าเราลาออก พร้อมทิ้งปัญหาไว้มหาศาล ผจก.จึงมาเสนอให้เรารับตำแหน่งนี้ ซึ่งเราปฏิเสธไปในครั้งแรก แต่บริษัทหารับสมัครคนมาทำไม่ได้ และเราก็ต้องรักษาการณ์แทน เราทำงานไม่ทันและงานมีปัญหามาก ผจก.จึงมาบอกกับเราว่าบริษัทหาคนแทนตำแหน่งเดิมเราได้เร็วกว่าและเสนอให้เรารับตำแหน่งหัวหน้า โดยตกลงเป็นวาจาว่าทดลองงาน 4 เดือน ครบแล้วประเมินผลงานจะปรับทั้งเงินเดือนและตำแหน่งทันทีเราจึงรับข้อเสนอนั้น แล้วก็ทำงานเต็มที่โดยคิดว่าเป็นโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานและหวังเงินเดือนที่สูงขึ้น
ตัดมาครบ 4 เดือน(ธันวาคม)ตามตกลงก็ไม่มีการเรียกประเมิน มีแต่บอกเป็นคำพูดว่าผ่านแล้วๆ ไม่มีการติดต่อจากฝ่ายบุคคลเรื่องปรับตำแหน่งอะไร
พอเข้าเดือนที่ 5 (มกราคม)เราต้องไปว่ายังไง ได้ความว่าบริษัทเปลี่ยนหัวหน้าฝ่ายบุคคลใหม่ เปลี่ยนนโยบายใหม่การปรับจะเริ่มประเมิน ม.ค.-ก.พ. ของทุกปีและจะมีประกาศ พร้อมปรับเงินในเดือน เมษา ซึ่งเราถามอีกว่าแบบนี้จะมีผลย้อนหลังให้ไหม ก็ได้คำตอบว่าไม่ เราคิดว่าที่ทำมาทั้งหมดมันเสียเปล่า
สถานการ์ณเราตอนนี้ ธุรกิจที่ทำก็ต้องหยุดเพราะวันธรรมดาก็กลับดึก เสาร์ต้องไปทำโอที วันอาทิตย์ทำสรุปงานอยู่บ้านเพื่อประชุมวันจันทร์ ทางบ้านเห็นเราเป็นแบบนี้ก็พูดในทำนองว่าจะทำงานหนักไปทำไมในเมื่อไม่ได้อะไร ถึงขั้นจะให้เราไปฟ้องกรมแรงงานเลย
คือเราหมดกำลังใจไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเจอคนในบ้าน อยากเอาแต่นอน ตอนนี้ต่อให้จะมาปรับอะไรให้คือเราไม่อยากได้แล้ว สิ่งที่เราอยากได้คือ Work Life Balance กลับมา
เราก็เริ่มมองหางานใหม่ไว้บ้างแล้วล่ะ ถ้ามีที่ไหนเรียกและข้อเสนอโอเค เราก็ไป

ขอบคุณนะที่เข้ามาอ่านที่เราระบายไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่