เกิ่น ประเด็นคือ ญาติฝั่งพ่อเรา เขาชอบเอาเราไปด่า ไปนินทา เสียๆ หายๆ เคยทะเลาะกันครั้งใหญ่ จนเรา เลือกออกมาจากจุดๆ นั้นยอมออกไปอยู่ที่อื่น เพื่อตัดปัญหา และล่าสุด คือ พี่สาวเราเอง ซึ่งอันนี้ เซอร์ไพรส์ หนักมาก ปกติเรากับพี่เรา จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ตอนเขามีครอบครัวแรก เขาดูเป็นคนมีความสุขมาก ครอบครัวเขาอบอุ่นมาก ไม่เคยแม้แต่จะทะเลาะกันเลย สักครั้งเดียว พอเขามีปัญหาชีวิต เราก็คอยเคียงข้างมาตลอด ทะเลาะกับสามี เราก็รับรู้ และอยู่ข้างเขาตลอด พอเขาเลิกรากันไป พี่เราก็มีครอบครัวใหม่ ซึ่งครอบครัวใหม่เขา ค่อนข้างไม่ค่อยอู้ฟู่สักเท่าไหร่ จะทะเลาะกันบ่อย มีอะเรื่องอะไรเขาก็จะมาขอให้เราพาไปแจ้งความบ้าง พาไปรับลูกกลับบ้าง เวลาเขามีปัญหากัน ซึ่งเราจะคอยซัพพอร์ตเขาตลอด แต่ชีวิตเขาก็เริ่มมีปัญหาขึ้น เรื่อย ๆ จนกระทั่งพอเขาได้รับรู้ว่าสามีเก่าเขา มีเงินมีทอง และมีภรรยาใหม่ เขากลับโทษทุกสิ่งว่า คนนั้นคนนี้ทำให้เขาเป็นแบบนี้ แล้วเขาก็เริ่มไปลามปามเมียใหม่ของสามีเก่าเขา เขามักไม่พอใจและมักบ่นกับเราว่า เขาเคยพูดใส่สามีใหม่เขาว่า เขาไม่น่าทิ้งสามีเขามาเลยไม่งั้นเขาสบายไปแล้ว จากนั้นเขาก็เริ่มโทษทุกคน เริ่มมองคนในแง่ลบ ๆ มันเลยทำให้เราเหมือนจะกลายเป็นแบบเขา ขอเกิ่นต้นเรื่องเท่านี้ และมาต่อที่เรื่องเราว่าทำไมเราถึงทะเลาะกันกับพี่
เรามีครอบครัวที่ดี หรือที่เรียกว่า ผัวเดียวเมียเดียว แต่ถามว่าก็มีทะเลาะกันแหละตามประสาผัวเมีย แต่เราเป็นคู่ที่พอทะเลาะกัน เราจะเงียบแล้วสักพักเราจะหันหน้าเข้าคุยกันเพื่อไม่ให้มันบานปลายไปมากกว่านี้ เราเลยได้ครองคู่กันยาวนาน และมีครอบครัวที่มีความสุขอยู่พอสมควร (ก็ยังมีทะเลาะกันแหละ) แต่เวลาเรามีอะไรเรามักจะไปเล่าให้พี่เราฟัง เพราะเขาคือคนที่เราไว้ใจที่สุดเขาคือพี่เรา เวลาเรามีเรื่องดีดีเราก็เล่าให้พ่อ กับพี่ฟัง เช่น แฟนเราตั้งบริษัทเองแล้ว ครอบครัวเรามีเงินแล้ว หรือเราทะเลาะกับแฟนหนักนั้นนี่ คือทุกเรื่องเรามักจะคุยกันเสมอ จนกระทั่งเราไปซื้อที่ ที่ที่พี่เราแนะนำในซอยที่เขาแนะนำด้วยนะ สรุปพอเราซื้อได้ ด้วยเงินสด ของแฟนเรา ที่เราเลือกซื้อเพราะเราอยากอยู่ใกล้ ๆพี่เรา พ่อเรา ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น พอกำลังจะเซ็นสัญญา เราก็อยากให้พ่อกับพี่ไปด้วย แต่พอไปถึงมีแต่พ่อที่ไป ส่วนพี่เราเก็บตัวเงียบเรียกก็ไม่ขานรับ เราเลยออกมา แบบไม่ได้คิดไรนึกว่าเขาหลับ เราก็เลยส่งรูปส่งสัญญาไปให้พี่เราดูเขากลับเมินแล้วพูดไปเรื่องอื่น อ่าเราก็ไม่คิดไรอีก แต่สักพักเขาเริ่มมาจี้จุดเรา จำได้ไหมว่าเราไม่ถูกกับญาติฝั่งพ่อ เขาก็จี้ว่า น้องคนนั้นจะรับปริญญา เขาได้ชวนไหม เราก็เริ่มสัยแล้วว่าเขาจะชวนเราได้ไง ในเมื่อเราไม่ได้สนิทกับเด็กในซอยคนนั้น และน้องมันก็คนละรุ่นคนละเจน กันเรา ไม่เคยมีไลน์ไม่เคยมีเฟสกันเลย เราก็ตอบไปว่าเขาจะมาชวนทำไมเราไม่ได้สนิทกัน สักพัก เราก็ไปดูที่อยู่เราเลยส่งภาพที่ที่เราซื้อไปให้พี่สาวดู แล้วเราก็บอกว่านี่นี่ มาดูที่เราน้องไหม น้องอยากอวด (คำนี้ปกติ ก็เคยพูดนะ แบบพูดแบบน่ารัก ๆ อ่ะ เข้าใจไหม ) เขาก็พูดปัดขึ้นมาว่าเขาไม่อยากไป ในนั้นโจทเขาเยอะ ทั้ง ๆ ที่วันที่ไปดูที่วันแรก เขาเป็นคนแนะนำเราเองและขับรถพาไปเองเลย และเขายังบอกอีกว่า อยากได้ที่ให้นี้เหมือนกันเพราะถนนปูนเข้าแล้ว เราก็บอกไปว่า อ่าว โจทเยอะหรอแล้วก็บอกว่าอยากได้ที่ตรงนี้ ข้าก็นึกว่าเองอยากได้ (คืออันนี้พูดแบบที่พูดคุยตามประสาพี่น้องกันเลยนะ คือเราคุยกันอย่างนี้เลย) สักพักเขาก็ใส่อารมณ์มาเต็มเลย บอกว่า นึงว่ากูอิจฉาหรอ ดูถูกกูมากเลยนะ ดูคำพูดสิ (มาแบบนี้เลย ใครงงไหม แต่เรา โคตรงง )จากนั้นก็ทะเลาะกันค่ะ เพราะเราก็บอกเอ้ยไม่ได้คิดไรเลยนะ ก็พูดให้ฟังเหมือนที่เคยพูดเคยให้ดูเลย ทำไมวันนี้ถึงมาคิดได้ขนาดนี้ เขาก็เลยบอกเราว่าไม่เชื่อลองเอาไปให้คนอื่นดูว่าคำพูดมันดูถูกกูหาว่ากูอิจฉา ไหม เราก็เลยแคปข้อความไปให้คนอื่นลองอ่านดู แล้วไม่บอกว่าที่คุยด้วยคือใคร สรุปเขาก็ตอบกลับมาว่า ก็ไม่มีไรนะ ก็เป็นบทสนทนาทั่วไปนิ ไม่มีนัยยะ อะไร แต่ดูคนนั้นจะอิจฉาน้องนะ (เนี้ย ตามนี้เลย) ทะเลาะกันหนักมากค่ะตอนนี้ไม่มีความเชื่อใจกันอีกแล้ว เขาขุดเรื่องเก่า ๆ ที่เราเคยคุยกันมาบั่นทอนจิตใจเรา ชอบมาพูดว่าเราไม่เอาใคร เราเลยงง และกำลังทบทวนอยู่ว่า จะขอตัดเลยได้ไหม เราเบื่อเรื่องพวกนี้ มาก ๆ เราอยากจิตใจสูงกว่านี้ อยากเป็นคนที่ไม่ต้องมาคิดอะไรไร้สาระพวกนี้จังค่ะ เเต่ติดตรงที่เรายังต้องเข้าไปหาพ่อ อยู่ เราไม่อยากเจอหน้าพี่เราเลย คือ ในเราสบายไปหมดแล้ว เพราะเราให้ใจเขาไปทั้งใจ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ เราไม่เหลือใจให้พี่เราอีกแล้ว กลับมาคุยกัน ใจเราก็ไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ เราเลยคิดว่า ถ้าสิ้นบุญพ่อไปแล้ว เราจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดกับเราแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว
ปล. เราก็เป็นคนนิสัยเสียนะ คือ เราไม่ค่อยแคร์ใครที่ทำร้ายจิตใจเรา และเราชอบตัดเลย เราเป็นคนแบบนี้ สิ่งที่เราแคร์คือ คนในครอบครัวเรา สามี ลูก 2 คน และ ตอนนี้ก็เหลือ แค่พ่อเราแล้ว
ผิดไหม ที่เราไม่เอาญาติพี่น้องตัวเอง เพราะทางด้านนิสัยที่ต่างกัน และทัศนคติ ที่ไม่ตรงกัน
เรามีครอบครัวที่ดี หรือที่เรียกว่า ผัวเดียวเมียเดียว แต่ถามว่าก็มีทะเลาะกันแหละตามประสาผัวเมีย แต่เราเป็นคู่ที่พอทะเลาะกัน เราจะเงียบแล้วสักพักเราจะหันหน้าเข้าคุยกันเพื่อไม่ให้มันบานปลายไปมากกว่านี้ เราเลยได้ครองคู่กันยาวนาน และมีครอบครัวที่มีความสุขอยู่พอสมควร (ก็ยังมีทะเลาะกันแหละ) แต่เวลาเรามีอะไรเรามักจะไปเล่าให้พี่เราฟัง เพราะเขาคือคนที่เราไว้ใจที่สุดเขาคือพี่เรา เวลาเรามีเรื่องดีดีเราก็เล่าให้พ่อ กับพี่ฟัง เช่น แฟนเราตั้งบริษัทเองแล้ว ครอบครัวเรามีเงินแล้ว หรือเราทะเลาะกับแฟนหนักนั้นนี่ คือทุกเรื่องเรามักจะคุยกันเสมอ จนกระทั่งเราไปซื้อที่ ที่ที่พี่เราแนะนำในซอยที่เขาแนะนำด้วยนะ สรุปพอเราซื้อได้ ด้วยเงินสด ของแฟนเรา ที่เราเลือกซื้อเพราะเราอยากอยู่ใกล้ ๆพี่เรา พ่อเรา ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น พอกำลังจะเซ็นสัญญา เราก็อยากให้พ่อกับพี่ไปด้วย แต่พอไปถึงมีแต่พ่อที่ไป ส่วนพี่เราเก็บตัวเงียบเรียกก็ไม่ขานรับ เราเลยออกมา แบบไม่ได้คิดไรนึกว่าเขาหลับ เราก็เลยส่งรูปส่งสัญญาไปให้พี่เราดูเขากลับเมินแล้วพูดไปเรื่องอื่น อ่าเราก็ไม่คิดไรอีก แต่สักพักเขาเริ่มมาจี้จุดเรา จำได้ไหมว่าเราไม่ถูกกับญาติฝั่งพ่อ เขาก็จี้ว่า น้องคนนั้นจะรับปริญญา เขาได้ชวนไหม เราก็เริ่มสัยแล้วว่าเขาจะชวนเราได้ไง ในเมื่อเราไม่ได้สนิทกับเด็กในซอยคนนั้น และน้องมันก็คนละรุ่นคนละเจน กันเรา ไม่เคยมีไลน์ไม่เคยมีเฟสกันเลย เราก็ตอบไปว่าเขาจะมาชวนทำไมเราไม่ได้สนิทกัน สักพัก เราก็ไปดูที่อยู่เราเลยส่งภาพที่ที่เราซื้อไปให้พี่สาวดู แล้วเราก็บอกว่านี่นี่ มาดูที่เราน้องไหม น้องอยากอวด (คำนี้ปกติ ก็เคยพูดนะ แบบพูดแบบน่ารัก ๆ อ่ะ เข้าใจไหม ) เขาก็พูดปัดขึ้นมาว่าเขาไม่อยากไป ในนั้นโจทเขาเยอะ ทั้ง ๆ ที่วันที่ไปดูที่วันแรก เขาเป็นคนแนะนำเราเองและขับรถพาไปเองเลย และเขายังบอกอีกว่า อยากได้ที่ให้นี้เหมือนกันเพราะถนนปูนเข้าแล้ว เราก็บอกไปว่า อ่าว โจทเยอะหรอแล้วก็บอกว่าอยากได้ที่ตรงนี้ ข้าก็นึกว่าเองอยากได้ (คืออันนี้พูดแบบที่พูดคุยตามประสาพี่น้องกันเลยนะ คือเราคุยกันอย่างนี้เลย) สักพักเขาก็ใส่อารมณ์มาเต็มเลย บอกว่า นึงว่ากูอิจฉาหรอ ดูถูกกูมากเลยนะ ดูคำพูดสิ (มาแบบนี้เลย ใครงงไหม แต่เรา โคตรงง )จากนั้นก็ทะเลาะกันค่ะ เพราะเราก็บอกเอ้ยไม่ได้คิดไรเลยนะ ก็พูดให้ฟังเหมือนที่เคยพูดเคยให้ดูเลย ทำไมวันนี้ถึงมาคิดได้ขนาดนี้ เขาก็เลยบอกเราว่าไม่เชื่อลองเอาไปให้คนอื่นดูว่าคำพูดมันดูถูกกูหาว่ากูอิจฉา ไหม เราก็เลยแคปข้อความไปให้คนอื่นลองอ่านดู แล้วไม่บอกว่าที่คุยด้วยคือใคร สรุปเขาก็ตอบกลับมาว่า ก็ไม่มีไรนะ ก็เป็นบทสนทนาทั่วไปนิ ไม่มีนัยยะ อะไร แต่ดูคนนั้นจะอิจฉาน้องนะ (เนี้ย ตามนี้เลย) ทะเลาะกันหนักมากค่ะตอนนี้ไม่มีความเชื่อใจกันอีกแล้ว เขาขุดเรื่องเก่า ๆ ที่เราเคยคุยกันมาบั่นทอนจิตใจเรา ชอบมาพูดว่าเราไม่เอาใคร เราเลยงง และกำลังทบทวนอยู่ว่า จะขอตัดเลยได้ไหม เราเบื่อเรื่องพวกนี้ มาก ๆ เราอยากจิตใจสูงกว่านี้ อยากเป็นคนที่ไม่ต้องมาคิดอะไรไร้สาระพวกนี้จังค่ะ เเต่ติดตรงที่เรายังต้องเข้าไปหาพ่อ อยู่ เราไม่อยากเจอหน้าพี่เราเลย คือ ในเราสบายไปหมดแล้ว เพราะเราให้ใจเขาไปทั้งใจ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ เราไม่เหลือใจให้พี่เราอีกแล้ว กลับมาคุยกัน ใจเราก็ไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ เราเลยคิดว่า ถ้าสิ้นบุญพ่อไปแล้ว เราจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดกับเราแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว
ปล. เราก็เป็นคนนิสัยเสียนะ คือ เราไม่ค่อยแคร์ใครที่ทำร้ายจิตใจเรา และเราชอบตัดเลย เราเป็นคนแบบนี้ สิ่งที่เราแคร์คือ คนในครอบครัวเรา สามี ลูก 2 คน และ ตอนนี้ก็เหลือ แค่พ่อเราแล้ว