ฌอน บูรณะหิรัญ เป็น Asperger's Syndrome จริงไหม ? แล้วจริงๆ Asperger สามารถให้ข้อคิด สร้างแรงบันดาลใจได้ไหม ?

ฌอน บูรณะหิรัญ เป็น Asperger's Syndrome จริงไหม ? แล้วจริงๆ คนที่เป็น Asperger สามารถทำคอนเทนต์ให้ข้อคิด สอนคน สร้างแรงบันดาลใจได้ไหม ?
.
 ด้วยความที่คุณฌอนเป็นบุคคลสาธารณะจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกใจหากว่าใครจะสนใจหรือวิจารณ์ ซึ่งหนึ่งในคนที่เคยถูกถามว่าคุณฌอนเป็น Asperger จริงไหนั้นก็คือผมเอง วันนี้ผมจะมาวิเคราะห์ให้ฟังครับ แต่ทั้งนี้ต้องพูดก่อนว่าเราจะวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีและจากความคิดเห็นส่วนตัวเองผม
.

.
 ถ้าย้อนเวลากลับไปประมาณตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ได้มีนักพูดแรงบันดาลใจคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศไทย จากทางคลิปวิดีโอนั้นก็คือ คุณฌอน บูรณะหิรัญ และในเวลาต่อมา คุณฌอนได้ไปออกรายการ Woody World เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว และได้ประกาศบอกสู่สาธารณะว่าตัวเองเป็น ภาวะโรค Asperger's Syndrome ทำให้เกิดคำถามกับหลายๆ คนว่า ฌอนเป็น Asperger's Syndrome จริงไหม?
.
.
 ถ้าถามว่าคุณฌอนเป็น Asperger จริงไหม ? คำตอบนี้ผมก็คงจะไม่สามารถตอบได้แบบฟันธง คนที่ตอบได้จริงๆ นั้นก็คือจิตแพทย์ที่วินิจฉัยเขา ซึ่งฌอนก็ได้พูดเองว่าเขามีใบว่าถูกวินิจฉัยว่าเป็น Asperger ตั้งแต่เด็กๆ แต่สิ่งที่ผมสังเกตุได้ผมก็พอจะมองออกเหมือนกันว่าคุณฌอน น่าจะเป็น Asperger จริงๆ แต่เป็นเพียงเล็กน้อยและถูกฝึกมาแล้ว ถามว่าผมเห็นจากอะไร ?
.
1. จากสิ่งที่สังเกตุได้
.
 ถ้าจากที่เห็นในคลิปจะเห็นได้ว่าคุณฌอนติดการใช้เสียงโมโนโทน แม้แต่เวลาพยายามพูดเล่น เลียนเสียง แซว ก็ยังเป็นโมโนโทน รวมไปถึงคุณฌอนแถบจะไม่มีการแสดงสีหน้าอารมณ์เลย หน้านิ่งมาก การพูดของคุณฌอนก็ดูจะไม่ตรงตามไวยากรณ์ซะทีเดียว ถึงแม้จะเป็นภาษาแม่อย่างภาษาอังกฤษก็ตาม และสุดท้ายเราจะเห็นได้เลยว่าหลายๆ ครั้งที่คุณฌอนเล่นมุข งเราดูก็พอมองออกว่ามันเป็นมุขที่เกิดจากการฝึกเล่นมากกว่าเล่นโดยธรรมชาติ ทั้งเวลา จังหวะ ภาษาน้ำเสียงที่ใช้ มันดูไม่ค่อยตรงกับสถานะการณ์ นี้ยังไม่รวมสิ่งที่คุณฌอนได้บอกประวัติในหนังสือว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมตั้งแต่ การแต่งตัว เคยพูดตรงเกิน เคยฉีกหน้าคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เราสังเกตได้จากสื่อมันก็คืออาการของ Asperger ทั้งสิ้น
.
 และตัวผมเคยเจอคุณฌอนตัวจริง 2 ครั้ง ซึ่งอาการที่เราเห็นในคลิปจะยิ่งเห็นชัดขึ้นเพราะในคลิปมันตัดต่อได้ รวมไปถึงเวลาคุณฌอนพูดสดยาวๆ หลายๆ ครั้งก็พูดติดๆ ขัด มีปัญหาเรื่องการพูด จนหลายๆ คนบอกว่าคุณฌอนพูดสดไม่รู้เรื่องเหมือนพูดในคลิป
.
.
 จากข้อมูลทั้งหมดที่เรามองเห็นก็พอจะบอกได้ว่า ถึงแม้ว่าคุณฌอนจะไม่บอกว่าเป็น แต่ถ้าคนที่มองออก ผมว่าก็น่าจะพอมองออกอยู่ อย่างผมและอาจารย์ที่สอนจิตวิทยาผมเขาก็มองออกก่อนที่คุณฌอนจะประกาศตัวซะอีก
.
.
2. ความไม่สมเหตุสมผล เพราะประกาศตัวไปมีโอกาสเสียมากกว่าดี
.
 อีกประเด็นที่ผมอยากจะพูดก็คือ ผมว่ามันไม่สมเหตุสมผลกับการที่จะมาประกาศตัวว่าตัวเองเป็น Asperger เพราะนอกจากเป็นโรคที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักแล้วมันยังเป็นโรคที่ขาดเกี่ยวกับทักษะสังคม ในขนาดที่ภาพลักษณ์คุณฌอนต้องการความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับสังคมสูง ผมจึงมองว่าการโกหกว่าเป็นโรคนี้ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นแทบจะไม่มีข้อดีเลย เอาเป็นว่าผมว่าสิ่งที่คุณฌอนมีโอกาสจะได้รับ มันจะเกิดมุมมอง 2 สิ่งนี้
.
  - ภาพลักษณ์ของคุณฌอนในสายตาสังคม
 ณ วันที่ประกาศว่าเป็นโรคนี้นั้น คุณฌอน เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับสังคมแนวจิตวิทยา เป็นไลฟ์โค้ชในสายตาผู้คน (จริงๆ เขาไม่ได้เป็นไลฟ์โค้ช คนไปเรียกเขาเอง) ซึ่งเขาต้องใช้ความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับสังคมสูงมาก เพื่อที่จะให้คำแนะนำ เหนี่ยวนำ สอน ให้ข้อคิด เกี่ยวกับสังคมให้กับประชาชน แต่การที่คุณฌอนมาประกาศว่าเป็นโรคนี้ ถ้าคนที่ไม่เข้าใจก็อาจเกิดคำถามได้ว่า “ตัวเองมีปัญหาเรื่องสังคม แล้วจะมาสอนเรื่องสังคมกับคนปกติได้อย่างไร ?” ซึ่งมันเสี่ยงทำให้ความน่าเชื่อถือน้อยลง อารมณ์ประมาณว่าตัวเองก็ยังมีปัญหา แล้วจะมาให้ข้อคิดเกี่ยวกับปัญหาของสังคม มันจะเชื่อได้ไหม ? (แต่จริงๆ ไม่เกี่ยวกับนะครับ)
.
.
  - ความสงสารในสายตาคนไทยบางคนคือการลดคุณค่าผู้อื่น
.
 สิ่งหนึ่งที่สังคมไทยเป็นจำนวนไม่น้อยเป็นก็คือ “คนไทยขี้สงสาร” หากว่ารู้ว่าคุณฌอนไม่ได้ปกติ (แล้วยิ่ง Asperger ในประเทศไทยจัดให้อยู่ในความพิการประเภทออทิสติกด้วย) คนไทยก็จะเกิดอาการสงสารได้ ประเด็นก็คือการสงสารในที่นี้คือการ “ลดคุณค่าคนนั้น” เห็นได้ชัดว่าคนไทยหลายคนเมื่อเห็นคนพิการ เด็กพิเศษ เราก็จะสงสารว่าเขาไม่ปกติเหมือนเรา โดยมักจะเห็นว่าเขาทำอะไรได้น้อยกว่าคนปกติในหลายๆ ด้าน ดังนั้นเขาทำงาน เรียน ได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว โดยที่ไม่คิดเลยว่าเขาก็อาจทำงานได้ดีเหมือนคนปกติก็ได้หากมีโอกาสพอ
.
 หรือเวลาคนไทยทำบุญ กลุ่มคนพิการ เด็กพิเศษ ก็จะมีโอกาสได้รับการทำบุญมากกว่าคนปกติ เหตุผลก็เพราะว่าในสายตาคนไทยจะมองว่าคนกลุ่มนี้ดูขาดโอกาส น่าสงสาร มีไม่ครบ จนไปถึง รู้สึกสมเพศ ดูต่ำต้อยกว่าคนปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้คนไทยรู้สึกสงสารคนกลุ่มนี้มากกว่าคนปกติ โดยต้นเหตุทั้งหมดที่พูดมานั้นที่ทำให้เกิดความรู้สึกสงสารนั้นก็คือ “การมองว่าเด็กพิเศษดูคุณค่าต่ำกว่าเด็กปกติ”
.
 ในขณะที่ต่ำแหน่งที่คุณฌอนอยู่นั้นต้องการ “คุณค่าสูงมาก” เพราะคุณฌอนกำลังทำคอนเทนต์สอนคน การที่เราจะยอมให้ใครมาสอนเราแปลว่าคุณค่าคนนั้นต้องสูงกว่าเรา ไม่งั้นเราคงไม่ฟังเขา นั้นหมายความว่าคุณฌอนต้องมีภาษีและคุณค่าสูงกว่าคนทั่วๆ ไปในสังคม ซึ่งการที่คุณฌอนบอกว่าเป็น Asperger ความเสี่ยงที่จะเสียคุณค่าก็มีไม่ใช่น้อยๆ เลย
.
.
 เพราะฉะนั้นจากข้อมูลทั้งหมดผมจึงสรุปได้ว่า มันดูไม่มีเหตุผลเลยที่คุณฌอนจะบอกว่าตัวเองเป็น Asperger ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นจริง เพราะผลเสียอาจมากกว่าผลดี
.
แล้วทำไมคุณฌอนถึงบอกว่าตัวเองเป็น Asperger ?
.
 คำตอบก็คือ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ   แต่ผมให้ข้อสังเกตุอยู่อย่างหนึ่งว่า คุณฌอนเลือกที่จะบอกในวันที่มีชื่อเสียงแล้ว ซึ่งมันหมายความว่าคนได้ยอมรับเขาไปแล้ว ถ้าบอกตอนแรกคุณฌอนอาจมาไม่ได้ขนาดนี้ก็ได้ แต่ผมว่ามันก็เป็นข้อดีอีกอย่างนะ การที่คุณฌอนบอกนั้นก็ทำให้คนในสังคมเห็นได้ว่าคนที่เป็น Asperger ก็สามารถทำอะไรได้เหมือนคนทั่วๆ ไป และคนก็สามารถยอมรับได้เหมือนกัน
...................................
แล้วจริงๆ คนที่เป็น Asperger สามารถทำคอนเทนต์ให้ข้อคิด สอนคน สร้างแรงบันดาลใจได้ไหม ?
.
.
 คำตอบก็คือ “ทำได้ครับ” ในต่างประเทศก็มีกันอยู่หลายคนจากเท่าที่ผมทราบ แต่ในประเทศไทยอาจมีไม่เยอะ ผมมองว่าถึงแม้ว่าคุณจะขาดทักษะสังคม แต่ถ้าคุณรู้จุดเด่นของตัวเอง และรู้ว่าอะไรที่เป็นข้อจำกัดก็ไม่ต้องไปใช้มันในส่วนนั้นก็จบ ผมว่าเราจะทำอะไรมันก็ทำได้หมดทุกอย่างถ้าเราเข้าใจตัวเอง เช่น เราอาจมาสายให้ข้อมูล เขียนบทความก็ได้ แต่หากว่ามาสาย ต้องให้รับคำปรึกษา เป็นวิทยากรพูดสด การสร้างกิจกรรม สิ่งเหล่านี้อาจต้องใช้ทักษะสังคมสูง เราก็อย่าไปทำในส่วนนี้ก็แค่นั้นเองครับ
.
.
 แล้วเอาจริงๆ คนกลุ่มนี้มักจะมีเรื่องดีๆ มาแชร์กันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องหรือเขียนเพราะ “มันคิดไม่เหมือนคนอื่น” คนกลุ่มนี้มักจะเป็นเหมือนกับปลาที่อยู่นอกตู้ปลา ที่กำลังมองปลาที่อยู่ในตู้ปลาทำตัวเหมือนๆ กันเป็นสังคมปลาอยู่ นั้นก็เพราะว่าคนกลุ่มนี้มักจะไม่ทำและมีมุมมองเกี่ยวกับสังคมแตกต่างออกไปจากคนปกติที่ทักษะสังคมปกติและเลือกทำตามทุกอย่างตามระบบสังคมมนุษย์ปกติ !
.
.
* กลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ (Asperger's Syndrome) คือกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติทางการทำงานของระบบประสาทและสมอง ที่มีความบกพร่องในเรื่องของการสื่อสารและการเข้าใจผู้อื่น บกพร่องในเรื่องทักษะสังคมและ Common sense มีพฤติกรรมทำอะไรซ้ำๆ หมกมุ่นแต่เรื่องที่ตัวเองสนใจ และขาดความยึดหยุ่นในบางด้านของการใช้ชีวิต ซึ่งปัจจุบัน Asperger's Syndrome จัดให้อยู่ในกลุ่มของ Autism Spectrum Disorder (ASD)
 
สามารถติดตามและพูดคุยกับผมได้ที่เพจ : P สุรเชษฐ์ ฆังนิมิตร
ช่อง Youtube : P สุรเชษฐ์ ฆังนิมิตร 

#ออทิสติก #AutismSpectrumDisorder #เรื่องออทิสติกโดยPสุรเชษฐ์ #Asperger #แอสเพอร์เกอร์ #จิตวิทยา #ฌอนบูรณะหิรัญ
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่