https://etipitaka.com/read/thai/20/113/
สวิฏฐสูตร
....
{..พระเถร 3 ท่าน...ได้สนทนากัน... แล้วให้เหตุผลว่าบุคคล 3 ประเภทนี้...ใครเลิศกว่ากับ
โดยที่...
พระสวิฏฐะ...ได้ตอบว่า "
สัทธาวิมุตตบุคคล ๑ "..
เหตุผล..คือ เพราะ
สัทธินทรีย์ของบุคคลนี้มีมาก....
พระมหาโกฏฐิตะ...ได้ตอบว่า "
กายสักขีบุคคล ๑ "..
เหตุผล..คือ เพรา
ะสมาธินทรีย์ของบุคคลนี้มีมาก...
พระสารีบุตร...ได้ตอบว่า "
ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ "..
เหตุผล..คือ เพราะ
ปัญญินทรีย์ ของบุคคลนี้มีมาก..
เมื่อเห็ไม่ตรงกัน... ก็เลยไปสอบถามพระศาสดา.. และพระองค์ทรงตอบว่า
}
พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า
ดูกรสารีบุตรการที่จะพยากรณ์ในข้อนี้โดยส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้
บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ดังนี้ ไม่ใช่จะทำได้โดยง่ายเลย
เพราะข้อนี้เป็นฐานะที่ จะมีได้ คือ
บุคคลผู้
สัทธาวิมุตตนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระ
อรหันต์
บุคคลผู้เป็น
กายสักขี ผู้เป็น
ทิฏฐิปัตตะ ก็พึงเป็นพระ
สกทาคามี หรือพระ
อนาคามี
ดูกรสารีบุตร การที่จะพยากรณ์ใน ข้อนี้โดยส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้
บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ดังนี้ ไม่ใช่จะทำได้โดยง่ายเลย
เพราะข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ
บุคคลผู้ทิฏฐิปัตตะ เป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อความ
เป็นพระอรหันต์
บุคคลผู้สัทธาวิมุตตเป็นพระ
สกทาคามี หรือพระ
อนาคามี
และแม้บุคคล ผู้
กายสักขีก็พึงเป็นพระ
สกทาคามี หรือพระ
อนาคามี
ดูกรสารีบุตร การที่จะพยากรณ์ในข้อนี้โดย ส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้
บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่าไม่ใช่จะทำได้โดย ง่ายเลย ฯ
จบสูตรที่ ๑
สรุป..
1. สำหรับพระศาสดา.. บุคคลผู้ที่เลิศสูงสุด..นั้น คือ พระอรหันต์..รองลงมา..คือ พระอนาคามี
และ..พระสกทาคามี พระโสดาบัน.. สุดท้ายที่..ธรรมานุสารี&สัทธานุสารี
2. คราวนี้... พระศาสดาท่านก็แบ่งอริยบุคคลเป็น 7 จำพวกเหมื่อนกันคือ...
https://etipitaka.com/read/thai/13/179/
- อุภโตภาควิมุตบุคคล ๑ คือ..พระอรหันต์ที่ได้อรูปสมาบัติ
- ปัญญาวิมุตบุคคล ๑ คือ..พระอรหันต์ที่หลุดพ้นด้วยปัญญา..ไม่ได้อรูปสมาบัติ
- กายสักขีบุคคล ๑ คือ..ผู้ที่ได้อรูปสมาบัติ..ซึ่งอาจจะเป็น....พระสกทาคามี ..หรือ..พระอนาคามี
- ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ คือ..ผู้ที่ไม่ได้อรูปสมาบัติ..ซึ่งอาจจะเป็น....พระสกทาคามี ..หรือ..พระอนาคามี
- สัทธาวิมุตบุคคล ๑ คือ..ผู้ที่ไม่ได้อรูปสมาบัติ..ที่เป็น..พระโสดาบัน..
- ธัมมานุสารีบุคคล ๑
- สัทธานุสารีบุคคล ๑.
3. พระสารีบุตรท่านเป็นผู้เลิศในทางปัญญา..ท่านก็ชอบใจ " ปัญญาวิมุติบุคคล "..
ส่งนท่านอื่น..ก็คงเป็นไปตามความเห็นของท่าน...
ส่วนพระศาสดาท่าน..เรียงตาม บุรุส 4 คู่ 8 บุรุส.. ซึ่งก็เรียงตามอินทรีย์๕..นั่นเอง
สัตว์:..ผู้อริยสาวก-ผู้สกทาคามี..ตอนที่ 12 :...กายสักขีบุคคล ๑ ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ สัทธาวิมุตตบุคคล ๑
https://etipitaka.com/read/thai/20/113/
สวิฏฐสูตร
....
{..พระเถร 3 ท่าน...ได้สนทนากัน... แล้วให้เหตุผลว่าบุคคล 3 ประเภทนี้...ใครเลิศกว่ากับ
โดยที่...
พระสวิฏฐะ...ได้ตอบว่า " สัทธาวิมุตตบุคคล ๑ "..
เหตุผล..คือ เพราะสัทธินทรีย์ของบุคคลนี้มีมาก....
พระมหาโกฏฐิตะ...ได้ตอบว่า " กายสักขีบุคคล ๑ "..
เหตุผล..คือ เพราะสมาธินทรีย์ของบุคคลนี้มีมาก...
พระสารีบุตร...ได้ตอบว่า " ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ "..
เหตุผล..คือ เพราะปัญญินทรีย์ ของบุคคลนี้มีมาก..
เมื่อเห็ไม่ตรงกัน... ก็เลยไปสอบถามพระศาสดา.. และพระองค์ทรงตอบว่า
}
พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า
ดูกรสารีบุตรการที่จะพยากรณ์ในข้อนี้โดยส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้
บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ดังนี้ ไม่ใช่จะทำได้โดยง่ายเลย
เพราะข้อนี้เป็นฐานะที่ จะมีได้ คือ
บุคคลผู้สัทธาวิมุตตนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์
บุคคลผู้เป็นกายสักขี ผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ ก็พึงเป็นพระสกทาคามี หรือพระอนาคามี
ดูกรสารีบุตร การที่จะพยากรณ์ใน ข้อนี้โดยส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้
บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่า ดังนี้ ไม่ใช่จะทำได้โดยง่ายเลย
เพราะข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ
บุคคลผู้ทิฏฐิปัตตะ เป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อความเป็นพระอรหันต์
บุคคลผู้สัทธาวิมุตตเป็นพระสกทาคามี หรือพระอนาคามี
และแม้บุคคล ผู้กายสักขีก็พึงเป็นพระสกทาคามี หรือพระอนาคามี
ดูกรสารีบุตร การที่จะพยากรณ์ในข้อนี้โดย ส่วนเดียวว่า บรรดาบุคคล ๓ จำพวกนี้
บุคคลนี้เป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่าไม่ใช่จะทำได้โดย ง่ายเลย ฯ
จบสูตรที่ ๑
สรุป..
1. สำหรับพระศาสดา.. บุคคลผู้ที่เลิศสูงสุด..นั้น คือ พระอรหันต์..รองลงมา..คือ พระอนาคามี
และ..พระสกทาคามี พระโสดาบัน.. สุดท้ายที่..ธรรมานุสารี&สัทธานุสารี
2. คราวนี้... พระศาสดาท่านก็แบ่งอริยบุคคลเป็น 7 จำพวกเหมื่อนกันคือ...
https://etipitaka.com/read/thai/13/179/
- อุภโตภาควิมุตบุคคล ๑ คือ..พระอรหันต์ที่ได้อรูปสมาบัติ
- ปัญญาวิมุตบุคคล ๑ คือ..พระอรหันต์ที่หลุดพ้นด้วยปัญญา..ไม่ได้อรูปสมาบัติ
- กายสักขีบุคคล ๑ คือ..ผู้ที่ได้อรูปสมาบัติ..ซึ่งอาจจะเป็น....พระสกทาคามี ..หรือ..พระอนาคามี
- ทิฏฐิปัตตบุคคล ๑ คือ..ผู้ที่ไม่ได้อรูปสมาบัติ..ซึ่งอาจจะเป็น....พระสกทาคามี ..หรือ..พระอนาคามี
- สัทธาวิมุตบุคคล ๑ คือ..ผู้ที่ไม่ได้อรูปสมาบัติ..ที่เป็น..พระโสดาบัน..
- ธัมมานุสารีบุคคล ๑
- สัทธานุสารีบุคคล ๑.
3. พระสารีบุตรท่านเป็นผู้เลิศในทางปัญญา..ท่านก็ชอบใจ " ปัญญาวิมุติบุคคล "..
ส่งนท่านอื่น..ก็คงเป็นไปตามความเห็นของท่าน...
ส่วนพระศาสดาท่าน..เรียงตาม บุรุส 4 คู่ 8 บุรุส.. ซึ่งก็เรียงตามอินทรีย์๕..นั่นเอง