เบื้องหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557

เหตุผล
วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ทหารแจกใบปลิวให้ประชาชนที่สัญจรย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื้อหาระบุเหตุผลที่ คสช. ยึดอำนาจ ดังนี้
มีความขัดแย้งทางความคิดการเมืองอย่างรุนแรงจนถึงระดับครอบครัวคนไทย การใช้อำนาจการปกครองแบบเดิมไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและการกระทำผิด แนวทางการเลือกตั้งในรูปแบบเดิมมีการต่อต้านอย่างกว้างขวาง ถ้าปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาวุ่นวายไม่รู้จบ การชุมนุมทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทำให้ประชาชนแตกความสามัคคี

ปัญหาทุจริต การบังคับใช้กฎหมายต่อปัญหาข้างต้น บังคับใช้ไม่ได้ทุกกลุ่ม ทำให้เกิดความหวาดระแวง เกลียดชังกันในหมู่ประชาชนเป็นวงกว้าง มีการยุยงปลุกปั่นให้ใช้ความรุนแรง การบริหารราชการแผ่นดินไม่สามารถกระทำได้อย่างเด็ดขาด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติ และความทุกข์ของประชาชน ความผิดต่อ...

การปลุกระดมมวลชนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ มีการจัดตั้งและใช้กองกำลังติดอาวุธ

คณะรัฐประหารให้คำมั่นว่า จะกวาดล้างการฉ้อราษฎร์บังหลวง ลดความตึงเครียดทางการเมือง เปลี่ยนสภาพเศรษฐกิจไทย แก้ไขปัญหาระบบการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานของไทย และการจัดสรรงบประมาณของรัฐอย่าเสมอภาคตามภูมิภาคต่าง ๆ 

กองทัพสถาปนาตนเป็นผู้ปกครองโดยส่งเสริมสถานภาพ ขอบเขตอำนาจ งบประมาณและกำลังคน นอกจากนี้ยังเพิ่มภาวะครอบงำตามกลไกรัฐธรรมนูญโดยลดอิทธิพลของพรรคการเมืองและประชาสังคม วิสัยทัศน์ของผู้นำคณะรัฐประหารนั้นมองว่ารัฐประหารเป็นไปเพื่อพิทักษ์อำนาจและผลประโยชน์ที่สั่นคลอนเนื่องจากสามปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยการสืบ... ปัจจัยพรรคการเมืองฝ่ายทักษิณ ที่ชนะการเลือกตั้งทุกครั้งนับแต่ปี 2544 และการถือกำเนิดของการเมืองมวลชน ผู้นำคณะรัฐประหารยังมุ่งจัดอำนาจกองทัพ ตั้งมั่นในระบบการเมืองไทยระยะยาวโดยรวบโครงสร้างของรัฐเข้าสู่ศูนย์กลาง นับว่าแตกต่างจากรูปแบบการแบ่งปันอำนาจระหว่างกองทัพกับนักธุรกิจในสมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่เรียก "ประชาธิปไตยครึ่งใบ"

นักวิชาการอเมริกัน ดับเบิลยู. สก็อต ทอมป์สัน ให้ความเห็นว่าการสนับสนุนกองทัพรัฐประหารในครั้งนี้อาจเป็นทางรอดของประชาธิปไตยไทย โดยอ้างว่าทักษิณ ชินวัตร จะทำให้ประชาธิปไตยไทยตายลง และอย่างน้อยกองทัพยังรักษาความสงบในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตย

พาพันขยัน

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง

และมีการประท้วงต่อต้านการเสนอกฎหมายร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย

เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 ภายหลัง สุเทพตั้งคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตั้ง "สภาประชาชน" ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพื่อดูแลการปฏิรูปการเมือง

กลุ่มนิยมรัฐบาล รวมทั้ง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดชุมนุมเช่นกัน

มีความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก


ในเดือนธันวาคม 2556 ยิ่งลักษณ์ยุบสภาผู้แทนราษฎรและกำหนดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 การเลือกตั้งไม่เสร็จสมบูรณ์ในวันนั้นเพราะถูกผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลขัดขวาง ศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนการเลือกตั้ง

ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ให้ยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีที่มีมติย้ายข้าราชการระดับสูงซึ่งเป็นที่โต้เถียงในปี 2554 พ้นจากตำแหน่ง

ภาพจากข่าว https://www.thaich8.com/news_detail/89734

รัฐมนตรีที่เหลืออยู่เลือกนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ปฏิบัติราชการนายกรัฐมนตรีแทนยิ่งลักษณ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่