[CR] รีวิวจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรบน-ล่าง Thai2Jaw

กระทู้รีวิว

สวัสดีค่ะ วันนี้ก็ครบ 9 เดือน ตั้งแต่ได้ทำการ จัดฟัน+ผ่าตัดขากรรไกรแล้ว เราเลยตั้งใจว่าจะมารีวิวประสบการณ์การจัดฟัน+การผ่าตัดขากรรไกร เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังตัดสินใจทำหรือมีปัญหาเดียวกันอยู่นะคะ

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า 10ปีที่แล้ว เราเคยจัดฟันมาแล้ว 1 รอบ รู้แค่ว่าตัวเองฟันล่างคร่อมฟันบน ซึ่งตอนนั้นทางคลินิกจัดฟันก็แจ้งแล้วว่า สามารถทำได้แต่ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้ดีเท่าที่ควร แต่ เราก็ตัดสินใจทำ เนื่องจากไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมาก

ผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ตามที่คุณหมอบอกเลยค่ะ ตัวเราเองก็ไม่ได้พอใจมาก แต่ก็อยู่แบบนี้มาเรื่อยๆ บางครั้งก็มีคนมาถามว่า นี่จัดฟันแล้วหรอ ฟันดูยังไม่เข้าที่เลย

สุดท้ายก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดค่ะ ก่อนหน้าที่จะมาจัดฟันอีกรอบ เราก็ได้ไปสอบถามการจัดฟัน ที่ โรงพยาบาลทันตกรรม มหาจักรีสิรินธร (ศาลายา) แต่ทางรพ.แจ้งว่า ตอนนี้คิวเต็มไม่สามารถรับคิวเพิ่มได้ ถ้าต้องการทำแนะนำให้ไปทำศัลยกรรมเสริมความงามแทน

จนมาปี 2562 ได้เข้ามาปรึกษา ที่โรงพยาบาลทันตกรรมคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (พญาไท) ทางจนท.ก็อธิบายระบบการเข้าคิว เราเลยเลือกเข้าคิวแบบ ระบบตอบแทน นอกเวลาค่ะ เพราะระยะเวลาในการรอเร็วกว่าในเวลา แต่ในเรื่องของราคาก็จะแพงกว่าในเวลา

หลังจากปรึกษาเสร็จก็รอคิววนไปค่ะ รอจนลืมว่าไปเข้าคิวไว้ จนวันหนึ่งมีไปรษณียบัตรจากทางรพส่งมาที่บ้านรู้สึกดีใจมากค่ะในที่สุดก็จะได้ทำแล้วแต่ถ้านับเวลารอจริงๆก็ประมาณ 1 ปีนะคะ ซึ่งเราคิดว่าเร็วเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าจะต้องรอนานกว่านี้

พอได้คิวแล้วก็ไปติดต่อทางรพเพื่อยืนยันว่าเราต้องการทำการรักษาจากนั้นก็ได้เข้าไปปรึกษากับทางคุณหมอจัดฟัน อาจารย์ก็ถามอีกทีว่าจะทำจริงๆหรอมันดูนิดเดียวเองแต่สำหรับตัวเราเองมันไม่นิดเดียวเลยค่ะเวลาถ่ายรูปรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เลยบอกกับอาจารย์ไปว่า ต้องการทำค่ะ

ขั้นตอนการรักษา

เริ่มจากต้องใส่เครื่องมือขยายขากรรไกรล่างเพื่อขยายขากรรไกรให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด ทุกๆวันก็ต้องใช้เครื่องมือที่ทางคลินิกให้มาไข เพื่อทำการขยายขากรรไกรวันละ 1 รอบ ในกรณีของเรา เราทำแบบนี้ไปประมาณ 2 เดือนค่ะ จากนั้นก็ใส่เครื่องมือจัดฟันตามปกติ

ตัวอย่างเครื่องมือขยายขากรรไกร ขออนุญาตยืมรูปจาก google

หลังจากอ.เห็นว่าขากรรไกรอยู่ในที่ที่เหมาะสมแล้ว ก็เริ่มจัดฟันตามปกติ แต่เนื่องจาก เราเคยจัดฟันมาแล้ว ฟันเลยเข้าที่เร็วมาก อ.ถามว่าพร้อมผ่าตัดหรือยัง แต่เรายังไม่พร้อม ในหลายๆเรื่อง เลยขออ.เลื่อนมาเรื่อยๆ ระหว่างนี้ก็เปลี่ยนโอริงไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงวันผ่า อ. จะเปลี่ยนใส่แค่ลวด มาพันไขว้กันไว้ค่ะ

ในที่สุดปี 2565 ก็ได้คิวผ่าตัดแล้วค่ะ เป็นวันที่ 10 เมษายน 2565 เราเลือกผ่าหลังจากรับปริญญาเสร็จ เพราะถ้าผ่าก่อน กลัวจะลำบากในการใช้ชีวิต

ปัญหาเดิม ของเราคือ ขากรรไกรเอียง ทำให้หน้าเอียงมากๆ เวลาถ่ายรูปหน้าตรงนี่เห็นชัดเลย ตอนปรึกษากับคุณหมอนอกจากการแก้ไขขากรรไกรแล้วเราได้รีเควสเพิ่มเติมกับคุณหมอไปด้วยว่า อยากให้คุณหมอเหลามุมกรามให้ด้วยจะได้ไหม เพราะอยากหน้าเล็กกว่านี้นิดหนึ่ง คุณหมอก็ใจดีทำเพิ่มให้ ต้องขอบคุณมากๆค่ะ

ก่อนผ่าตัด ก็ต้องเตรียมตัวหลายอย่างเลยค่ะ มีนัดทำ ct scan เจาะเลือด พบแพทย์ผ่าตัด พิมพ์ฟัน พบวิสัญญีแพทย์

เราเลือกผ่าตัดที่รพวิมุต ห้องพักของทางรพสะอาดและสะดวกดีมาก

10เมษายน 2565 - วันผ่าตัด

ก่อนผ่าคุณหมอถามว่ากลัวไหม ตอบตามตรงว่าไม่กลัวเท่าไร เพราะมั่นใจในทีมแพทย์อยู่แล้ว ยังไงคุณหมอก็ต้องทำออกมาดีแน่นอน แต่ที่กลัวลึกๆ คือหลังตื่นจากการผ่าตัด เพราะคิดว่าน่าจะทรมาน

และใช่ค่ะ หลังจากตื่น รู้สึกคลื่นไส้ตลอดเวลา ง่วงนอน หายใจไม่ออก แต่คุณพยาบาลและพี่สาวที่มาเฝ้าดูแลดีมากๆ ทางรพจะมีเจลประคบเย็นให้ 2 คู่ค่ะ ต้องประคบเย็นตลอดเวลา แต่อาการหลังผ่าตัดไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไรนะคะ ระหว่างที่อยู่รพ ไม่รู้สึกปวดเลย คุณพยาบาลจะมาถามตลอดว่าปวดไหม แต่เราไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย

อาหารที่กินได้ในตอนแรกก็ก็จะเป็นอาหารเหลวใส วิธีการกินก็คือเอาไซริงฉีดเข้าปาก

เรานอนรพไป 4วัน สามคืนค่ะ ที่จริงคุณหมอให้ออกจากรพได้ในวันที่ 12 เมษา 65 แต่เราขออยู่ต่ออีกหนึ่งคืน ก่อนออกจากรพขอถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย ตอนนี้ก็คือพูดไม่ถนัดนะคะ หน้าก็ยังบวมมากๆ แต่คุณแม่บอกว่า มีแก้มก็น่ารักดีเหมือนกัน5555 และเนื่องจากออกรพในวันสงกรานต์พอดี ทางรพ มีดินสอพองเป็นของขวัญที่ระลึกด้วย

หลังกลับมาบ้าน ก็ทำทุกอย่างเหมือนตอนอยู่รพเลยค่ะ กินอาหารเหลวใส ทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังทานอาหาร พร้อมกับกินยาให้ครบตามที่คุณหมอสั่ง ก็คือ ช่วงเวลาพักฟื้น 1 สัปดาห์แรกเราไม่ทำอะไรเลยค่ะ นอกจาก กินข้าว กินยา ทำความสะอาดช่องปาก แล้วก็นอน วนลูปไปเรื่อยๆ ยอมรับว่าตอนนั้นก็รู้สึกเครียดเหมือนกันว่า เราทำให้ตัวเองทรมานแบบนี้ทำไม และก่อนหน้านี้ที่บอกไปว่าตอนอยู่รพ ไม่ปวดเลย แต่พอกลับบ้านเท่านั้น ก่อนจะนอน ปวดฟันมากค่ะ กินยาแก้ปวดแล้วก็ไม่หายปวด เลยต้องพยายามนอนให้หลับ จะได้ลืมความปวดไป

หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ คุณหมอนัดให้ไปพบติดตามอาการ คุณหมอบอก ฟันตรงมากเลย หมอก็กลัวอยู่ว่าฟันจะไม่ตรง เราคิดในใจกลัวไม่ตรงเหมือนกันค่ะคุณหมอ วันนี้คุณหมอดึงยางให้ใหม่ กับให้ไปเอกซเรย์ พร้อมกับให้วิตามินบี 12 มากินเพื่อรักษาเส้นประสาท

หลังจากผ่าตัดจะมีการติดตามอาการเรื่อยๆนะคะ พอคุณหมอผ่าตัดเห็นว่าจัดฟันต่อได้แล้ว เราค่อยไปทำการนัดกับคุณหมอจัดฟันเพื่อจัดฟันต่อให้เสร็จค่ะ

ใน 1สัปดาห์แรกของการผ่าตัดเราถ่ายรูปตัวเองไว้เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง สำหรับเราอาการบวมช้ำน้อย แล้วฟื้นตัวได้เร็วมากๆค่ะ

ครบ 1 เดือน หน้าก็ยังบวมอยู่ การกินก็ยังลำบากนิดหน่อย ส่วนตัวอยากกินปิ้งย่างตั้งแต่เดือนนี้แล้วค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าขอครบ 3เดือนก่อนนะ

เดือนที่ 3 ทุกอย่างเริ่มเข้าที่มากขึ้น แต่ก็ต้องฝึกการยิ้ม แล้วก็ต้องพยายามควบคุมริมฝีปากตัวเองด้วยค่ะ เพราะตอนนี้ปากเรายังชาอยู่ บางทีมีข้าวติดริมฝีปากยังไม่รู้สึกเลย แต่อาการชาแล้วแต่คนด้วยนะคะ

เดือนที่ 6 เราเหลือแค่อาการชาที่คางและริมฝีปากนิดหน่อย

เดือนที่ 9 แล้ว สำหรับเราตอนนี้แฮปปี้มากค่ะ อาการชาเหลือแค่ 20% แต่เรื่องชา เราไม่ซีเรียสอยู่แล้วเพราะทำใจตั้งแต่ก่อนผ่าแล้วว่าอาจจะมีชาบ้าง ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาในการใช้ชีวิต หลังจากนี้เวลาถ่ายรูปก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่า ถ่ายออกมามุมนี้จะดีไหม หน้าไม่เอียง คางไม่ยื่นแล้ว และที่คุณหมอเหลามุมกรามให้ ผลลัพธ์ก็ออกมาดีเช่นกันค่ะ

ความรู้สึกหลังจากผ่าตัดขากรรไกร

ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณทีมแพทย์ Thai2Jaw ผศ.ดร.นพ.ทพ.ณัฐพงศ์ สิรินทวัฒน์ ทพ.เวทัส ศักดิ์เดชยนต์ และ ทพ.ธนพล อริยะนันทกะ มากค่ะ หลังจากผ่าตัด หน้าไม่เอียง คางไม่ยื่น ไม่ต้องหามุมถ่ายรูปแล้วค่ะ ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้ง อาจารย์หมอก็ใจดีมากๆ ถึงจะเป็นเคสผ่าตัดที่ยากอยู่แล้ว แต่อาจารย์ก็ยังทำเพิ่มให้ตามที่ขอไป รวมถึงคุณหมอที่ทำการจัดฟันให้ คุณหมอ อิศราวดี วิเศษศิริ คุณหมอใส่ใจคนไข้มากๆเลยค่ะ รู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้ทำการรักษากับคุณหมอทั้งสี่ท่าน

สุดท้ายนี้ จากประสบการณ์ส่วนตัวของเรา อาการเจ็บปวดจะอยู่แค่ในช่วง 1 สัปดาห์แรกของการผ่าตัดเท่านั้น จะรู้สึกทรมาน เครียด เนื่องจากอาการเจ็บปวด และยังกินปกติไม่ได้ แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่หลังจาก 1 เดือน ทุกอย่างจะแฮปปี้มากค่ะ ไม่เสียดายเลยที่ทำการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร