เรซิ่น คืออะไร?
คือสารที่ได้จากยางเหนียวของต้นไม้หรือจากการสังเคราะห์ขึ้นมา โดยจะเป็นพลาสติกเหลว
ที่ได้จากการสังเคราะห์ มีความหนืดข้นคง เป็นวัตถุไวไฟชนิดหนึ่ง คล้ายน้ำมันเครื่อง กลิ่นฉุน[โพลีเอสเตอร์เรซิ่น]
สามารถแข็งตัวด้วยความร้อนสูงการหดตัว 1-5% หลังเซทตัวเต็มที่ เรซิ่นสามารถหล่อขึ้นรูปทรงได้อิสระมากมาย
มีบทบาทต่อวงการอุตสาหกรรม ในชีวิตประจำวันของเราต้องเกี่ยวข้อกับพลาสติกไม่อย่างใดก็อย่างนึง

เรซิ่น คุณสมบัติ โพลีเอสเตอร์
เรซิ่น เป็นของเหลว สีใส มีความหนืดคล้ายน้ำมันเครื่อง
มีการหดตัว ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ อีพ็อกซี่ เรซิ่น ( Epoxy Resin )
ทนความร้อนได้ที่ประมาณ 120 ํ ( ระยะเวลาไม่นาน )
มีคุณสมบัติเป็นฉนวนทางไฟฟ้า สามารถนำไปใช้เคลือบเป็นฉนวนไฟฟ้าได้
โพลีเอสเตอร์แยกตามเนื้อเป็น 2 แบบ คือ
► Non-Promotion คือชนิดที่ยังไม่ผสมสารช่วยทำปฏิกิริยา ( โคบอลท์-ตัวม่วง )
ลักษณะเหลวข้นคล้ายน้ำมัน สีใสอมเหลืองอ่อน จุดเด่นคือมีอายุการเก็บยาวนานกว่าที่โปรโมทโคบอลท์ และยังสามารถประยุกต์สูตรได้อีกมากมาย เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบงานต่างๆ
► Promote คือชนิดที่ผสมสารทำปฏิกิริยามาแล้ว
ลักษณะของเนื้อจะเป็นของเหลวค้นคล้ายน้ำมันเครื่อง จะมีสีชมพูบานเย็นอ่อน เนื่องจากผสมโคบอลท์เรียบร้อย หากนำมาใช้งานสามารถเติมแค่สารเร่งปฏิกิริยา[ตัวเร่งแข็ง]ลงไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นส่วนหนึ่งของบทความนี้นะ >> : https://resinsjthailand.com/เรซิ่น-คืออะไร/
คุณสมบัติของโพลีเอสเตอร์เรซิ่น
1.) เป็นพลาสติกหล่อที่มีคุณสมบัติทั้งทางกายภาพ ทางไฟฟ้า และทางเคมี
2.) คุณสมบัติทางกายภาพ มีคุณสมบัติให้เนื้อแข็ง ใส เงา ทนอุณหภูมิสูงดี เมื่อเสริมแรง ผสานด้วยใยแก้ว จะได้ความแข็งแรงที่เพิ่มมากขึ้น มีความเบา แข็งแรงเหนียว ไม่เปราะ คุณสมบัติทางไฟฟ้า น้ำยามีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ครบถ้วน สามารถนำไปใช้เป็นฉนวนไฟฟ้า ( insulator ) ได้

ลักษณะการใช้งานของโพลีเอสเตอร์
น้ำยานำไปใช้งานได้มากมายหลายกลุ่มงาน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆที่นิยมใช้ในบ้านเรา ได้แก่
1.) กลุ่มงานหล่อ ( casting ) หล่อทึบ – หล่อใส – หล่อนิ่ม เช่นหล่อพระ หล่อของชำร่วย หล่อตุกตา หล่อกระดุม หล่อแก้วเทียม ฯลฯ
2.) กลุ่มงานเคลือบ ( laminate ) เช่นงานเคลือบกรอบรูปวิทยาศาสตร์ เคลือบโฟมขาว หุ้มคาร์บอนไฟเบอร์
3.) กลุ่มงานขึ้นรูปแบบ ( molding ) เช่นการผลิตงานไฟเบอร์กลาส หรือ FRP ( fiberglass reinforce plastic ) พลาสติกเสริมแรงด้วยใยแก้ว
อัตราส่วนการผสมเรซิ่น
อัตราการผสมเรซิ่น น้ำยาเรซิ่น 100% ผสมโคบอลท์ 0.1% ผสมตัวเร่งแข็ง 0.5-2-5%
ตย.การผสมเรซิ่น เช่น น้ำยาเรซิ่น 1กก. ผสมโคบอลท์ 1ก.(หรือซีซี) ผสมตัวเร่ง 2-4ก.+-
ใส่มากเร่งมากแห้งไวชิ้นงานเปราะไม่แข็งแรง หรือ อาจทำงานไม่ทัน ไล่ฟองไม่ทัน
องค์ประกอบที่มีผลต่อการแข็งตัวของเรซิ่น
1.) อุณหภูมิ อุณหภูมิสูงแข็งตัวเร็วกว่าอุณหภูมิต่ำ
2.) ปริมาณตัวเร่งฯ และ ตัวช่วยเร่งฯ ปริมาณที่มากแข็งตัวเร็วกว่าปริมาณที่น้อย
3.) ความชื้นหรือน้ำ ความชื้นสูงการแข็งตัวจะช้าลง ผิวงานขึ้นฝ้ามัว โดยปกติปริมาณน้ำจะต้องมีค่าไม่เกิน 0.05%
4.) ปริมาณออกซิเจน ออกซิเจนเป็นตัวป้องกันการแข็งตัว ถ้าปริมาณออกซิเจนสูง เช่นการกวนมากๆ นานๆ การแข็งตัวจะช้าลง
5.) ในขณะทำการหล่อ น้ำยาเรซิ่นจะมีกลิ่นฉุน ควรทำงานที่โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรทำที่ห้องทึบตัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นส่วนหนึ่งของบทความนี้น้า>> : https://resinsjthailand.com/เรซิ่น-คืออะไร/
เรซิ่น คืออะไร? สั้นๆ กระชับ กระทู้เดียวครบ
คือสารที่ได้จากยางเหนียวของต้นไม้หรือจากการสังเคราะห์ขึ้นมา โดยจะเป็นพลาสติกเหลว
ที่ได้จากการสังเคราะห์ มีความหนืดข้นคง เป็นวัตถุไวไฟชนิดหนึ่ง คล้ายน้ำมันเครื่อง กลิ่นฉุน[โพลีเอสเตอร์เรซิ่น]
สามารถแข็งตัวด้วยความร้อนสูงการหดตัว 1-5% หลังเซทตัวเต็มที่ เรซิ่นสามารถหล่อขึ้นรูปทรงได้อิสระมากมาย
มีบทบาทต่อวงการอุตสาหกรรม ในชีวิตประจำวันของเราต้องเกี่ยวข้อกับพลาสติกไม่อย่างใดก็อย่างนึง
เรซิ่น คุณสมบัติ โพลีเอสเตอร์
เรซิ่น เป็นของเหลว สีใส มีความหนืดคล้ายน้ำมันเครื่อง
มีการหดตัว ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ อีพ็อกซี่ เรซิ่น ( Epoxy Resin )
ทนความร้อนได้ที่ประมาณ 120 ํ ( ระยะเวลาไม่นาน )
มีคุณสมบัติเป็นฉนวนทางไฟฟ้า สามารถนำไปใช้เคลือบเป็นฉนวนไฟฟ้าได้
โพลีเอสเตอร์แยกตามเนื้อเป็น 2 แบบ คือ
► Non-Promotion คือชนิดที่ยังไม่ผสมสารช่วยทำปฏิกิริยา ( โคบอลท์-ตัวม่วง )
ลักษณะเหลวข้นคล้ายน้ำมัน สีใสอมเหลืองอ่อน จุดเด่นคือมีอายุการเก็บยาวนานกว่าที่โปรโมทโคบอลท์ และยังสามารถประยุกต์สูตรได้อีกมากมาย เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบงานต่างๆ
► Promote คือชนิดที่ผสมสารทำปฏิกิริยามาแล้ว
ลักษณะของเนื้อจะเป็นของเหลวค้นคล้ายน้ำมันเครื่อง จะมีสีชมพูบานเย็นอ่อน เนื่องจากผสมโคบอลท์เรียบร้อย หากนำมาใช้งานสามารถเติมแค่สารเร่งปฏิกิริยา[ตัวเร่งแข็ง]ลงไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คุณสมบัติของโพลีเอสเตอร์เรซิ่น
1.) เป็นพลาสติกหล่อที่มีคุณสมบัติทั้งทางกายภาพ ทางไฟฟ้า และทางเคมี
2.) คุณสมบัติทางกายภาพ มีคุณสมบัติให้เนื้อแข็ง ใส เงา ทนอุณหภูมิสูงดี เมื่อเสริมแรง ผสานด้วยใยแก้ว จะได้ความแข็งแรงที่เพิ่มมากขึ้น มีความเบา แข็งแรงเหนียว ไม่เปราะ คุณสมบัติทางไฟฟ้า น้ำยามีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ครบถ้วน สามารถนำไปใช้เป็นฉนวนไฟฟ้า ( insulator ) ได้
ลักษณะการใช้งานของโพลีเอสเตอร์
น้ำยานำไปใช้งานได้มากมายหลายกลุ่มงาน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆที่นิยมใช้ในบ้านเรา ได้แก่
1.) กลุ่มงานหล่อ ( casting ) หล่อทึบ – หล่อใส – หล่อนิ่ม เช่นหล่อพระ หล่อของชำร่วย หล่อตุกตา หล่อกระดุม หล่อแก้วเทียม ฯลฯ
2.) กลุ่มงานเคลือบ ( laminate ) เช่นงานเคลือบกรอบรูปวิทยาศาสตร์ เคลือบโฟมขาว หุ้มคาร์บอนไฟเบอร์
3.) กลุ่มงานขึ้นรูปแบบ ( molding ) เช่นการผลิตงานไฟเบอร์กลาส หรือ FRP ( fiberglass reinforce plastic ) พลาสติกเสริมแรงด้วยใยแก้ว
อัตราส่วนการผสมเรซิ่น
อัตราการผสมเรซิ่น น้ำยาเรซิ่น 100% ผสมโคบอลท์ 0.1% ผสมตัวเร่งแข็ง 0.5-2-5%
ตย.การผสมเรซิ่น เช่น น้ำยาเรซิ่น 1กก. ผสมโคบอลท์ 1ก.(หรือซีซี) ผสมตัวเร่ง 2-4ก.+-
ใส่มากเร่งมากแห้งไวชิ้นงานเปราะไม่แข็งแรง หรือ อาจทำงานไม่ทัน ไล่ฟองไม่ทัน
องค์ประกอบที่มีผลต่อการแข็งตัวของเรซิ่น
1.) อุณหภูมิ อุณหภูมิสูงแข็งตัวเร็วกว่าอุณหภูมิต่ำ
2.) ปริมาณตัวเร่งฯ และ ตัวช่วยเร่งฯ ปริมาณที่มากแข็งตัวเร็วกว่าปริมาณที่น้อย
3.) ความชื้นหรือน้ำ ความชื้นสูงการแข็งตัวจะช้าลง ผิวงานขึ้นฝ้ามัว โดยปกติปริมาณน้ำจะต้องมีค่าไม่เกิน 0.05%
4.) ปริมาณออกซิเจน ออกซิเจนเป็นตัวป้องกันการแข็งตัว ถ้าปริมาณออกซิเจนสูง เช่นการกวนมากๆ นานๆ การแข็งตัวจะช้าลง
5.) ในขณะทำการหล่อ น้ำยาเรซิ่นจะมีกลิ่นฉุน ควรทำงานที่โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรทำที่ห้องทึบตัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้