นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนพื้นที่ภาคใต้ ย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมความพร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ จนถึงวันที่ 11 ม.ค.นี้
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากการคาดการณ์สภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 6 - 8 มกราคม 2566 บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ จนถึงวันที่ 11 มกราคม 2566 โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส
นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว เตรียมความพร้อมทุกด้านและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำตาปี แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกำชับให้เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) รวมทั้งอ่างฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที ลดและป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
#ลุงตู่ #ลุงตู่ตูน
https://www.facebook.com/superLungtoo/
นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนพื้นที่ภาคใต้ ย้ำทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากการคาดการณ์สภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 6 - 8 มกราคม 2566 บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และมีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ จนถึงวันที่ 11 มกราคม 2566 โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส
นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว เตรียมความพร้อมทุกด้านและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำตาปี แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกำชับให้เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) รวมทั้งอ่างฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที ลดและป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
#ลุงตู่ #ลุงตู่ตูน
https://www.facebook.com/superLungtoo/