JJNY : 5in1 งามไส้รับปีใหม่!│ยุทธการกระชากหน้ากากคนดี│“อดีตผู้ว่ารฟท.”ชี้แพงไป│‘พปชร.’ส่อกระเพื่อม│ไต้หวันเตรียมแจกเงิน

กระทู้ข่าว

สภาผู้แทน พรรคเพื่อไทย ข่าวเศรษฐกิจ พรรคการเมือง ข่าวต่างประเทศ

งามไส้รับปีใหม่! สภาล่มจนได้ ครูแก้ว สุดยื้อ องค์ประชุมไม่ครบ ลงมติกม.กัญชา
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7444359

ครูแก้ว สุดยื้อ ไม่รอดสภาล่มรับปีใหม่ ระหว่างลงมติมาตรา 11 ร่างพ.ร.บ.กัญชา มีสมาชิกเสียบบัตรลงมติแค่ 204 คน ไม่ครบองค์ประชุม

วันที่ 4 ม.ค.2566 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างกัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ.… ในช่วงบ่าย ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเข้าสู่การโหวตมาตรา 11 ที่กมธ.เสนอให้ตัดข้อความทิ้งทั้งมาตรา ก็ยังเกิดปัญหา เสียเวลารอสมาชิกเนิ่นนาน กระทั่งส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนทักท้วงขอให้ปิดประชุม เพราะสมาชิกอยู่กันไม่ครบ

โดยนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอให้ถอนร่างพ.ร.บ.กัญชา ออกไปก่อน อย่ามาถ่วงเวลาแบบนี้ เพราะความไม่พร้อมสูงมาก เสียเวลาที่ต้องรอ ดูแล้วยังไงกฎหมายก็ไม่ผ่าน ถ้าจะผ่าน องค์ประชุมคงครบไปนานแล้ว แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้มาเป็นเดือนแล้ว ควรให้ถอนไปก่อน

ขณะที่นายศุภชัย พยายามยื้อเวลาให้รอไปเรื่อยๆ เพราะที่ผ่านมานายชวน หลีกภัย ประธานสภา เคยรอสมาชิกครบองค์ประชุมนาน 53 นาทีมาแล้ว ขอความร่วมมือกันให้อดทนกัน กระทั่งครบ 35 นาที มีสมาชิกมาครบองค์ประชุม แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาเสียบบัตรลงมติมาตราดังกล่าว กลับมีสมาชิกเสียบบัตรลงคะแนนแค่ 204 คนเท่านั้น ซึ่งองค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งคือจำนวน 218 คน ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม นายศุภชัย จึงสั่งปิดประชุมเวลา 15.05 น. ถึงเป็นเหตุการณ์องค์ประชุมล่มรับปีใหม่ 2566 ที่เปิดประชุมนัดแรกก็สภาล่มทันที

ยุทธการกระชากหน้ากากคนดี เริ่มแล้ว! 'เพื่อไทย' เรียกตรวจการบ้าน ถล่มรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7444262

ยุทธการกระชากหน้ากากคนดีเริ่มแล้ว! “เพื่อไทย” เรียกตรวจการบ้านถล่มรัฐบาล เผย พรรคค้านร่วมตรวจอาทิตย์หน้า เผย เจอแน่ทุจริตป้าย สถานีกลางบางซื่อ

4 ม.ค. 65 – ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าประชุมวิป 3 ฝ่ายว่า

เวลาที่เหลือ 2 เดือน จะมีกฎหมายใดบ้างที่เราควรเร่งรัด และควรจะเป็นนโยบายพิเศษ เพราะยังมีกฎหมายหลายฉบับ ที่ค้างคาและน่าเสียดาย จึงอยากเรื่องฉบับที่เป็นประโยชน์มากที่สุดให้ทัน

เมื่อถามถึง การเตรียมตัวเปิด อภิปรายญัตติทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายสุทิน กล่าวว่า เตรียมตัวมานานแล้ว เราจึงแบ่งกันทำการบ้าน กรอบเนื้อหาชัดเจนแบ่งกันจบแล้ว สร้างหนัง สร้างสตอรี่กันจบ ก็แบ่งบทกันไปเล่น

ตอนนี้ทุกคนก็ไปซ้อมบท ใครที่รับหัวข้อไปแล้วก็ไปหารายละเอียดและหาข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดีที่สุด โดยในส่วนของพรรค พท.เราจะประชุมเพื่อตรวจการบ้านในเวลา 15.00 น. ส่วนพรรคอื่นก็เข้าใจว่าตรวจการบ้านเช่นกัน ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะรวมกันทั้ง 6 พรรคเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย

เมื่อถามว่า จะมุ่งเป้าการอภิปรายไปที่ประเด็นอะไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า เราจะมุ่งตรวจที่ 4 ปีที่ผ่านมา อะไรที่รัฐบาลน่าจะทำแล้วไม่ทำ ทำไมถึงไม่ทำและอะไรที่ทำแล้วล้มเหลว เวลาที่เหลืออยู่ควรจะแก้ไขอย่างไร โดยเฉพาะนโยบายที่เคยแถลงไว้ ถ้าทำไม่ได้เลย และไม่ได้ทำ คุณจะรับผิดชอบต่อสภาประชาชนอย่างไร

ขณะที่ปัญหาเรื่องการทุจริตนั้นมีอยู่แล้ว เพราะอยู่ในนโยบายการปราบปรามการทุจริต ทั้งเรื่องความล้มเหลวในการใช้งบประมาณ ใช้งบประมาณไปในทางที่ผิด ไม่เกิดผล ซ้ำร้ายยังเกิดหนี้

เมื่อถามว่า การอภิปรายจะมีเรื่องใหม่ๆ ที่สังคมสนใจ เช่น เรื่องป้ายสถานีกลางบางซื่อหรือไม่ นายสุทิน กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้อยู่ในกลุ่มนโยบายที่เคยมีการแถลงไว้ว่าจะมีการปราบปรามการทุจริต แล้วทำไมจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ และจำนวนตัวเลขถึงเยอะ เราจะไม่ปล่อย เราจะซักถาม

เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีอยู่จะทำให้ถึงขั้นว้าวจนส่งผลต่อรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่เซอร์ไพรส์ แต่เมื่ออภิปรายภาพรวม จะได้รู้ว่าคุณล้มเหลวจริงๆ ใน 4 ปีที่สูญเสียโอกาสชัดเจน ซึ่งเมื่ออภิปรายขยายความแล้ว ภาพออกมาประชาชนจะเสียดาย 4 ปี ที่ผ่านมา ก็เหมือนกับที่ใส่หน้ากากมา 4 ปี เราจะถอดให้เห็นว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร

“อดีตผู้ว่ารฟท.” ชี้ 33 ล.เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ แพงไป ถามทำไมเพิ่งทำทั้งที่เป็นเรื่องด่วน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3756426

“อดีตผู้ว่ารฟท.” ชี้ 33 ล.เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ แพงไป ถามทำไมเพิ่งทำทั้งที่เป็นเรื่องด่วน

จากกรณีที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ใช้วิธีจัดจ้างแบบพิเศษหรือแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อจ้าง บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นผู้ดำเนินการในวงเงิน 33 ล้านบาท จนเกิดเป็นวิพากย์วิจารณ์ในสังคมว่า ราคาดังกล่าวแพงเกินไป และต่อมา รฟท.ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนหลายฝ่ายยังข้องใจกันอยู่

ล่าสุด รายการ Wake up thailand ซึ่งออกอากาศทางไทยรัฐทีวี ได้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวกับ นายประภัสร์ จงสงวน สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีต ผู้ว่าการ รฟท.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าแพงเกินไปหรือไม่

โดยนายประภัสร์ กล่าวว่า ราคาดังกล่าวอาจจะแพงเกินไป โดยเฉพาะค่าสถาปัตยกรรมวงเงินถึง 24 ล้านบาท ค่าทำตัวหนังสือแต่ละตัวแพงขนาดนั้นเลยหรือ อีกทั้งได้มีการติดตั้งป้ายมาแล้วครั้งหนึ่งที่สถานีแห่งนี้ในตอนที่สร้างแล้วเสร็จ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้รับเหมารายนั้นมาดูราคาการติดตั้งป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อป้ายแรก ตกลงราคากันไว้เท่าไหร่ ซึ่งการติดตั้งป้ายแบบ Curtain Wall แบบป้ายสถานีกลางบางซื่อ ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ ใช้การออกแบบติดตั้งผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด เป็นการเพิ่มตัวอักษรจากชื่อเดิม เพราะคำว่า “สถานีกลาง” ไม่ต้องทำใหม่ ส่วนการติดตั้งไม่ยาก เป็นป้ายแบบเดียวกันกับป้ายสนามบินสุวรรณภูมิ

อย่างไรก็ตาม นายประภัสร์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นด้วย โดยระบุว่า

1. มีการพระราชทานชื่อ มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 หัวจดหมายระบุ “ด่วนที่สุด” ซึ่งโดยปกติด่วนที่สุด คือต้องดำเนินการไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่เหตุใดจึงมีการเร่งดำเนินการในเดือนธันวาคม 2565 ผ่านวิธีการประมูลแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งวิธีการนี้เพิ่งมีขึ้นหลังการรัฐประหาร 2557 โดยรัฐสามารถเลือกได้ว่าจะว้าจ้างบริษัท โดยไม่มีคู่แข่งในการประมูล

2. การชี้แจงของ รฟท. เป็นการชี้แจงที่ผิดปกติหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นการชี้แจงโดยตรงจากฝ่ายก่อสร้าง ซึ่งหากตนยังเป็นผู้ว่า รฟท. สิ่งแรกที่จะดำเนินการคือ จะออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ และเปิดเอกสารค่าใช้จ่ายต่อสาธารณชน เพื่อคลายข้อสงสัยของสังคม

‘พปชร.’ ส่อกระเพื่อม ปมแกนนำข้างตัว ‘บิ๊กป้อม’ กุมอำนาจทำสมาชิกเอือม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3756322

‘พปชร.’ ส่อกระเพื่อม ปมแกนนำข้างตัว ‘บิ๊กป้อม’ กุมอำนาจทำสมาชิกเอือม จับตา หลังประชุมใหญ่พปชร.เลือดไหลอีก

เมื่อวันที่ 4 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถึงการเตรียมประชุมใหญ่พรรคพปชร.ในเดือนม.ค.นี้ เพื่อปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง โดยก่อนหน้านี้มีแกนนำบางคน เสนอจะให้กรรมการบริหารพรรค ที่เป็น ส.ส.เขต ลาออก เปิดทางให้บุคลากรคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่ ในขณะที่กรรมการที่เป็น ส.ส.จะได้ลงพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ แต่ปรากฏว่า แนวคิดดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคบางส่วน เนื่องจากเห็นว่าแกนนำคนดังกล่าวพูดไปโดยที่กรรมการบริหารบางคนไม่ได้คิดเช่นนั้นด้วย เป็นการคิดเองเออเอง และต้องถามว่าคนที่พูดเป็นใคร เพราะแกนนำบางคนก็ต้องการเป็นทั้งกรรมการบริหาร และส.ส.เขต ไปพร้อมกัน เพื่อที่จะมีปากเสียงในการขับเคลื่อนงาน และเป็นเครดิตไปบอกกับคนในพื้นที่ของตัวเองได้ ทั้งนี้ต้องจับตามองว่าหลังการประชุมใหญ่ของพรรคแล้ว นอกจากนั้นแนวคิดนี้กลุ่มสามมิตร ไม่เห็นด้วย โดยจะรอดูว่ากลุ่มสามมิตรจะได้เป็นกรรมการบริหารพรรคกี่คน ก่อนจะกำหนดท่าทีอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา สมาชิกพรรคหลายคน ไม่พอใจกับการตัดสินใจของแกนนำบางส่วน ทั้งนายวิรัช รัตนเศรษฐ รวมถึงบุคคลใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จึงทำให้ประเมินกันว่าหลังการประชุมใหญ่พรรค และมีการปรับโครงสร้างพรรค จะมีสมาชิกพรรคลาออกอีก และอาจมีแรงกระเพื่อมภายในพรรคเกิดขึ้นได้ เนื่องจากเวลาเกิดปัญหาขึ้นและสมาชิกพรรคแจ้งให้ พล.อ.ประวิตร รับทราบถึงความไม่พอใจหรือปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพรรค แต่ปรากฎว่าไม่ได้รับการแต่ผลปรากฏว่าพล.อ.ประวิตร ไม่ได้ให้ความชัดเจนทำให้สมาชิกไม่อยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในพรรค