สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกพันทิปทุกท่าน
วันนี้หนูถิ่นจะมาอัพเดทการเรียน การทำงานพาร์ทไทม์ที่ประเทศฟินแลนด์ และท่องเที่ยวหลังสอบเสร็จค่ะ
ขอเท้าความนิดนึงค่ะ เผื่อเพื่อนสมาชิกท่านใดเพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องราวของหนูถิ่นเป็นครั้งแรก หนูถิ่นได้เขียนเล่าเรื่องราวไว้ว่าได้มาเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ประเทศฟินแลนด์หลังเกษียณการทำงานที่ประเทศไทยตอนอายุ 55 ปี ถ้าสมาชิกท่านใดยังไม่ได้อ่าน สามารถอ่านย้อนหลังตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้ค่ะ
https://pantip.com/topic/41372528
https://pantip.com/topic/41446525
https://pantip.com/topic/41556664
ตอนที่เขียนอยู่นี้ หนูถิ่นขึ้นปี 2 แล้วค่ะ ในปีแรก เทอมแรกสามเดือนครึ่ง หนูถิ่นเรียนออนไลน์ที่เมืองไทยค่ะ โดยผ่านโครงการเตรียมฟินแลนด์ กับทางฟลายอิ้งแบร์คลับ เริ่มเรียนเมื่อเดือนกันยายน 2021 เรียนจบโครงการเดือนธันวาคม 2021 บินมาเรียนต่อที่ฟินแลนด์ เมือง Kajaani เมื่อเดือนมกราคม 2022 ค่ะ เวลาผ่านไปไวมาก อยู่มาจะครบหนึ่งปีเต็มแล้ว
หลักสูตรปริญญาตรีการท่องเที่ยวที่หนูถิ่นเรียน หลักสูตร 3 ปีค่ะ จำนวนหน่วยกิตรวม 210 หน่วยกิต ตอนที่เรียนออนไลน์ที่เมืองไทย โอนหน่วยกิตมาได้ทั้งหมด 35 หน่วยกิต พอเทอมสองมาเรียนที่ฟินแลนด์ เก็บได้อีก 40 หน่วยกิต ตอนนี้รวมเก็บได้ทั้งหมดในปีหนึ่งเท่ากับ 75 หน่วยกิต หนูถิ่นตั้งเป้าไว้ว่าในหนึ่งปี ขั้นต่ำต้องเก็บให้ได้ 70 หน่วยกิต จึงจะสามารถเรียนจบได้ภายใน 3 ปี ปีแรกถือว่ายังอยู่ในเป้าที่ตั้งไว้ค่ะ
ที่ Kajaani University of Applied Sciences มีทุนการศึกษาสำหรับ International student ด้วยค่ะ ค่าเทอมต่อปีของที่นี่ ปีล่ะ 6,000 ยูโร แต่ถ้าเราสามารถเก็บได้ปีล่ะ 55 หน่วยกิต ปีต่อไป ทางมหาวิทยาลัยจะลดค่าเทอมให้ 50% และถ้าเราสามารถสอบวัดระดับภาษาฟินนิชได้อีก ก็จะได้ทุนอีก 50% เท่ากับว่าไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเลยในปีต่อไป
แต่พอดีหนูถิ่นมาเริ่มเรียนที่นี่เป็นเทอม 2 มาเริ่มกลางปีการศึกษา ที่นี่เทอมหนึ่ง เขาจะเริ่มการเรียนการสอนปลายเดือนสิงหาคม ส่วนเทอมที่สอง จะเริ่มประมาณต้นเดือนมกราคมค่ะ
หน่วยกิตที่โอนมาจากตอนเรียนออนไลน์ เขาไม่ได้เอามานับในการให้ทุนการศึกษา เขาจะมีกฎว่า ถ้าเราเริ่มมาเรียนกลางปีเหมือนหนูถิ่น คือเริ่มเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม เราจะต้องเก็บให้ได้ 30 หน่วย ปีต่อไปจึงจะได้ทุนการศึกษา 50%
โชคดีที่หนูถิ่นทำได้ 40 หน่วยกิต ในปีที่สองของการศึกษา หนูถิ่นเลยจ่ายค่าเทอมเพียง 3,000 ยูโรค่ะ เรื่องสอบวัดระดับภาษา คงไม่สามารถ หนูถิ่นขอผ่านเลยดีกว่า ทีแรกก่อนมาเรียนที่นี่ก็ตั้งใจอยากได้ทุนการศึกษาทั้งสองส่วน จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม พอได้มาเรียนจริง ไม่ค่อยจะมีเวลาเลย ไหนจะต้องทบทวนเรื่องเรียน ทำ Presentation แต่ล่ะวิชาอีก ไหนจะต้องไปทำงานพาร์ทไทม์อีก ได้ลดค่าเทอม 50% ก็โอเคแล้ว ทำเท่าที่เราไหวดีกว่าค่ะ
สรุปว่าหนูถิ่นลงทะเบียนเรียนปี 2 เทอม 1 10 วิชา 50 หน่วยกิต ลองเรียนไปได้หนึ่งเดือน ต้องยอมตัดทิ้งไป 2 วิชา เหลือ 8 วิชาดีกว่า พอขึ้นปีสอง มีงานแต่ล่ะวิชาต้องทำส่งอาจารย์เยอะมาก และยังมี Presentation อีก สู้ไม่ไหวจริง ๆ แต่ล่ะวิชาก็จะให้เขียนงานส่งในรูปแบบ Essay, Learning diary และ Academic report ยังมีงานเล็กงานน้อยแต่ล่ะสัปดาห์อีก เยอะมากให้เขียนทีนึง ก็จะเอาเป็นสิบหน้า ไหนจะต้องทำงานพาร์ทไทม์หารายได้อีก มันหนักจริง ๆ แต่สุดท้ายสู้ ๆ ไป เทอมนี้ก็เก็บได้อีก 40 หน่วยกิต คิดว่าเทอมต่อไป จะลงทะเบียนเรียนน้อยกว่านี้ เอาสัก 6 วิชาก็พอ
อยากชิลด์ ๆ บ้าง
ขอลงรูปหอพักในบริเวณมหาวิทยาลัย ช่วงฤดูหนาวมาให้ดูค่ะ หิมะตกแล้ว อุณหภูมิตอนนี้ประมาณติดลบ 10 องศา
ส่วนเรื่องการทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ หนูถิ่นดูตารางเรียนปี 2 แล้ว คิดว่าสามารถเพิ่มเวลาทำงานได้อีก เดิมทีหนูถิ่นทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่ปีการศึกษาใหม่นี้หนูถิ่นไปขออาเจ้เจ้าของร้านเพิ่มเวลาทำงานให้อีก 1 วัน ส่วนใหญ่จะเป็นวันอังคารหรือวันศุกร์ เป็นงานกะบ่ายหลังเลิกเรียน ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์เดิมทำกะเช้า ก็ขอเปลี่ยนเป็นกะบ่ายทั้งหมด เพราะงานกะบ่ายจะได้ชั่วโมงทำงานเยอะกว่าค่ะ
ทำงานที่นี่ก็ดี พอมีรายได้จ่ายค่าหอพัก ค่าอาหาร และค่าเทอมที่ต้องจ่ายปีต่อไป โชคดีที่ได้ทำงานที่นี่ คิดว่าสามารถทำงานที่นี่ได้จนเรียนจบเลย งานที่ร้าน ตอนนี้หนูถิ่นก็ทำได้เกือบจะครบทุกอย่างแล้ว นายจ้างใจดียกจักรยานให้ 1 คันไว้ใช้ขี่ไปไหนมาไหนได้ แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวต้องเปลี่ยนล้อให้เป็น winter tire ซึ่งค่าแรงเปลี่ยนล้อแพง หนูถิ่นเลยซื้อจักรยานมือสองอีก 1 คันที่เป็นยางสำหรับฤดูหนาวไว้ใช้ขี่ไปทำงาน ราคา 75 ยูโร เขาลดให้เพราะเป็นนักเรียน
ประสบการณ์ในการขี่จักรยานบนพื้นหิมะก็ยากอยู่นะ ถ้าเขามากวาดหิมะก็จะขี่ง่ายหน่อย แต่ช่วงที่มีหิมะเยอะ ๆ ขี่ยากมาก เพื่อนที่ทำงานที่เป็นคนฟินนิช เขาบอกว่าตกก็ไม่เจ็บ เพราะพื้นหิมะมันนุ่ม แต่หนูถิ่นขอไม่ตกดีกว่า ขี่ตอนหิมะตก หิมะเข้าปาก ได้กินหิมะแบบไม่ตั้งใจเลย
ช่วงที่เขียนอยู่นี่ อยู่ระหว่างปิดเทอมหนึ่งเดือน เพราะเพิ่งสอบปีสอง เทอมหนึ่งเสร็จ เลยพอมีเวลาว่าง ตั้งแต่มาอยู่ที่ฟินแลนด์ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยค่ะ เพราะติดเรียนและทำงาน อาศัยช่วงคริสต์มาสร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่ทำงานปิด เลยได้นั่งเรือไปเที่ยวที่สต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน ใจจริงอยากไปหลายวัน แต่ต้องกลับมาทำงาน และช่วงวันคริสต์มาส บริษัทเรือไม่เดินเรือช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม เลยต้องรีบกลับมาก่อนให้ทันทำงาน แต่ได้แวะพักเที่ยวที่เมือง Turku ประเทศฟินแลนด์ 2 คืนค่ะ เดี๋ยวมีเวลาค่อยหาทางไปเที่ยวใหม่ เป็นนักเรียนตอนวัยเกษียณก็ดีไปอีกแบบ นั่งรถไฟในฟินแลนด์ได้ลดราคาค่าตั๋วประมาณ 30% คุ้มสุด ๆ
ขอลงรูปวิวที่ไปเที่ยวมาให้ชมกันค่ะ
Stockholm, Sweden ได้ไปเที่ยว Skansen,Vasa Museum, Gamla Stan,
โรงแรมเรือที่ Stockholm พัก 1 คืน
Gamla Stan
วิวสวย ๆ ที่เมือง Turku, Finland ค่ะ
อีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะเปิดเทอม เทอมที่สองของปี 2 เรียนถึงประมาณเดือนพฤษภาคม 2023 ก็จะได้ปิดเทอมยาว 3 เดือนช่วงซัมเมอร์ค่ะ รอคอยช่วงซัมเมอร์ เพราะมีอะไรให้ทำเยอะมาก และจะหาโอกาสไปเที่ยวใกล้ ๆ ถ้ามีเวลา แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
REVIEW: ชีวิตนักเรียนนอกในวัยเกษียณ อัพเดทการเรียน การทำงานพาร์ทไทม์ และท่องเที่ยวหลังสอบเสร็จ
วันนี้หนูถิ่นจะมาอัพเดทการเรียน การทำงานพาร์ทไทม์ที่ประเทศฟินแลนด์ และท่องเที่ยวหลังสอบเสร็จค่ะ
ขอเท้าความนิดนึงค่ะ เผื่อเพื่อนสมาชิกท่านใดเพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องราวของหนูถิ่นเป็นครั้งแรก หนูถิ่นได้เขียนเล่าเรื่องราวไว้ว่าได้มาเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ประเทศฟินแลนด์หลังเกษียณการทำงานที่ประเทศไทยตอนอายุ 55 ปี ถ้าสมาชิกท่านใดยังไม่ได้อ่าน สามารถอ่านย้อนหลังตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้ค่ะ
https://pantip.com/topic/41372528
https://pantip.com/topic/41446525
https://pantip.com/topic/41556664
ตอนที่เขียนอยู่นี้ หนูถิ่นขึ้นปี 2 แล้วค่ะ ในปีแรก เทอมแรกสามเดือนครึ่ง หนูถิ่นเรียนออนไลน์ที่เมืองไทยค่ะ โดยผ่านโครงการเตรียมฟินแลนด์ กับทางฟลายอิ้งแบร์คลับ เริ่มเรียนเมื่อเดือนกันยายน 2021 เรียนจบโครงการเดือนธันวาคม 2021 บินมาเรียนต่อที่ฟินแลนด์ เมือง Kajaani เมื่อเดือนมกราคม 2022 ค่ะ เวลาผ่านไปไวมาก อยู่มาจะครบหนึ่งปีเต็มแล้ว
หลักสูตรปริญญาตรีการท่องเที่ยวที่หนูถิ่นเรียน หลักสูตร 3 ปีค่ะ จำนวนหน่วยกิตรวม 210 หน่วยกิต ตอนที่เรียนออนไลน์ที่เมืองไทย โอนหน่วยกิตมาได้ทั้งหมด 35 หน่วยกิต พอเทอมสองมาเรียนที่ฟินแลนด์ เก็บได้อีก 40 หน่วยกิต ตอนนี้รวมเก็บได้ทั้งหมดในปีหนึ่งเท่ากับ 75 หน่วยกิต หนูถิ่นตั้งเป้าไว้ว่าในหนึ่งปี ขั้นต่ำต้องเก็บให้ได้ 70 หน่วยกิต จึงจะสามารถเรียนจบได้ภายใน 3 ปี ปีแรกถือว่ายังอยู่ในเป้าที่ตั้งไว้ค่ะ
ที่ Kajaani University of Applied Sciences มีทุนการศึกษาสำหรับ International student ด้วยค่ะ ค่าเทอมต่อปีของที่นี่ ปีล่ะ 6,000 ยูโร แต่ถ้าเราสามารถเก็บได้ปีล่ะ 55 หน่วยกิต ปีต่อไป ทางมหาวิทยาลัยจะลดค่าเทอมให้ 50% และถ้าเราสามารถสอบวัดระดับภาษาฟินนิชได้อีก ก็จะได้ทุนอีก 50% เท่ากับว่าไม่ต้องจ่ายค่าเทอมเลยในปีต่อไป
แต่พอดีหนูถิ่นมาเริ่มเรียนที่นี่เป็นเทอม 2 มาเริ่มกลางปีการศึกษา ที่นี่เทอมหนึ่ง เขาจะเริ่มการเรียนการสอนปลายเดือนสิงหาคม ส่วนเทอมที่สอง จะเริ่มประมาณต้นเดือนมกราคมค่ะ
หน่วยกิตที่โอนมาจากตอนเรียนออนไลน์ เขาไม่ได้เอามานับในการให้ทุนการศึกษา เขาจะมีกฎว่า ถ้าเราเริ่มมาเรียนกลางปีเหมือนหนูถิ่น คือเริ่มเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม เราจะต้องเก็บให้ได้ 30 หน่วย ปีต่อไปจึงจะได้ทุนการศึกษา 50%
โชคดีที่หนูถิ่นทำได้ 40 หน่วยกิต ในปีที่สองของการศึกษา หนูถิ่นเลยจ่ายค่าเทอมเพียง 3,000 ยูโรค่ะ เรื่องสอบวัดระดับภาษา คงไม่สามารถ หนูถิ่นขอผ่านเลยดีกว่า ทีแรกก่อนมาเรียนที่นี่ก็ตั้งใจอยากได้ทุนการศึกษาทั้งสองส่วน จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม พอได้มาเรียนจริง ไม่ค่อยจะมีเวลาเลย ไหนจะต้องทบทวนเรื่องเรียน ทำ Presentation แต่ล่ะวิชาอีก ไหนจะต้องไปทำงานพาร์ทไทม์อีก ได้ลดค่าเทอม 50% ก็โอเคแล้ว ทำเท่าที่เราไหวดีกว่าค่ะ
สรุปว่าหนูถิ่นลงทะเบียนเรียนปี 2 เทอม 1 10 วิชา 50 หน่วยกิต ลองเรียนไปได้หนึ่งเดือน ต้องยอมตัดทิ้งไป 2 วิชา เหลือ 8 วิชาดีกว่า พอขึ้นปีสอง มีงานแต่ล่ะวิชาต้องทำส่งอาจารย์เยอะมาก และยังมี Presentation อีก สู้ไม่ไหวจริง ๆ แต่ล่ะวิชาก็จะให้เขียนงานส่งในรูปแบบ Essay, Learning diary และ Academic report ยังมีงานเล็กงานน้อยแต่ล่ะสัปดาห์อีก เยอะมากให้เขียนทีนึง ก็จะเอาเป็นสิบหน้า ไหนจะต้องทำงานพาร์ทไทม์หารายได้อีก มันหนักจริง ๆ แต่สุดท้ายสู้ ๆ ไป เทอมนี้ก็เก็บได้อีก 40 หน่วยกิต คิดว่าเทอมต่อไป จะลงทะเบียนเรียนน้อยกว่านี้ เอาสัก 6 วิชาก็พอ
อยากชิลด์ ๆ บ้าง
ขอลงรูปหอพักในบริเวณมหาวิทยาลัย ช่วงฤดูหนาวมาให้ดูค่ะ หิมะตกแล้ว อุณหภูมิตอนนี้ประมาณติดลบ 10 องศา
ส่วนเรื่องการทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ หนูถิ่นดูตารางเรียนปี 2 แล้ว คิดว่าสามารถเพิ่มเวลาทำงานได้อีก เดิมทีหนูถิ่นทำงานเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่ปีการศึกษาใหม่นี้หนูถิ่นไปขออาเจ้เจ้าของร้านเพิ่มเวลาทำงานให้อีก 1 วัน ส่วนใหญ่จะเป็นวันอังคารหรือวันศุกร์ เป็นงานกะบ่ายหลังเลิกเรียน ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์เดิมทำกะเช้า ก็ขอเปลี่ยนเป็นกะบ่ายทั้งหมด เพราะงานกะบ่ายจะได้ชั่วโมงทำงานเยอะกว่าค่ะ
ทำงานที่นี่ก็ดี พอมีรายได้จ่ายค่าหอพัก ค่าอาหาร และค่าเทอมที่ต้องจ่ายปีต่อไป โชคดีที่ได้ทำงานที่นี่ คิดว่าสามารถทำงานที่นี่ได้จนเรียนจบเลย งานที่ร้าน ตอนนี้หนูถิ่นก็ทำได้เกือบจะครบทุกอย่างแล้ว นายจ้างใจดียกจักรยานให้ 1 คันไว้ใช้ขี่ไปไหนมาไหนได้ แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวต้องเปลี่ยนล้อให้เป็น winter tire ซึ่งค่าแรงเปลี่ยนล้อแพง หนูถิ่นเลยซื้อจักรยานมือสองอีก 1 คันที่เป็นยางสำหรับฤดูหนาวไว้ใช้ขี่ไปทำงาน ราคา 75 ยูโร เขาลดให้เพราะเป็นนักเรียน
ประสบการณ์ในการขี่จักรยานบนพื้นหิมะก็ยากอยู่นะ ถ้าเขามากวาดหิมะก็จะขี่ง่ายหน่อย แต่ช่วงที่มีหิมะเยอะ ๆ ขี่ยากมาก เพื่อนที่ทำงานที่เป็นคนฟินนิช เขาบอกว่าตกก็ไม่เจ็บ เพราะพื้นหิมะมันนุ่ม แต่หนูถิ่นขอไม่ตกดีกว่า ขี่ตอนหิมะตก หิมะเข้าปาก ได้กินหิมะแบบไม่ตั้งใจเลย
ช่วงที่เขียนอยู่นี่ อยู่ระหว่างปิดเทอมหนึ่งเดือน เพราะเพิ่งสอบปีสอง เทอมหนึ่งเสร็จ เลยพอมีเวลาว่าง ตั้งแต่มาอยู่ที่ฟินแลนด์ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยค่ะ เพราะติดเรียนและทำงาน อาศัยช่วงคริสต์มาสร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่ทำงานปิด เลยได้นั่งเรือไปเที่ยวที่สต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน ใจจริงอยากไปหลายวัน แต่ต้องกลับมาทำงาน และช่วงวันคริสต์มาส บริษัทเรือไม่เดินเรือช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม เลยต้องรีบกลับมาก่อนให้ทันทำงาน แต่ได้แวะพักเที่ยวที่เมือง Turku ประเทศฟินแลนด์ 2 คืนค่ะ เดี๋ยวมีเวลาค่อยหาทางไปเที่ยวใหม่ เป็นนักเรียนตอนวัยเกษียณก็ดีไปอีกแบบ นั่งรถไฟในฟินแลนด์ได้ลดราคาค่าตั๋วประมาณ 30% คุ้มสุด ๆ
ขอลงรูปวิวที่ไปเที่ยวมาให้ชมกันค่ะ
Stockholm, Sweden ได้ไปเที่ยว Skansen,Vasa Museum, Gamla Stan,
โรงแรมเรือที่ Stockholm พัก 1 คืน
Gamla Stan
วิวสวย ๆ ที่เมือง Turku, Finland ค่ะ
อีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะเปิดเทอม เทอมที่สองของปี 2 เรียนถึงประมาณเดือนพฤษภาคม 2023 ก็จะได้ปิดเทอมยาว 3 เดือนช่วงซัมเมอร์ค่ะ รอคอยช่วงซัมเมอร์ เพราะมีอะไรให้ทำเยอะมาก และจะหาโอกาสไปเที่ยวใกล้ ๆ ถ้ามีเวลา แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ