คือเราพึ่งเขียนนิยายมาได้3ตอน ก็โอเค แต่พอถึงตอนที่4เราก็เริ่มไม่มั่นใจว่านักอ่านจะอ่านรู้เรื่องไหม คือเราอ่านวนไปวนมาตั้งแต่ต้นจนจบมันก็ยังติดๆขัดๆอยู่น่ะค่ะ และเราเป็นนักเขียนมือใหม่(รึเปล่าหว่า?)แล้วเราตั้งใจทำเรื่องนี้มาก วางพล็อตให้เสร็จสรรพ(ปกติ2เรื่องที่ผ่านมาเราไม่ได้วางพล็อต คือนึกอะไรได้ก็เขียนเอา) แต่เรื่องนี้เราคาดหวังกับมันมากเพราะเราเอาข้อด้อยของตัวเองที่ทำได้ไม่ดีพอมาปรับแต่ง พยายามให้เรื่องนี้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ปัจจุบันเรื่องนี้ยังไม่ปล่อยให้อ่านเพราะเราตั้งมั่นไว้ว่าจะเขียนให้จบก่อน และ1ตอนมีมากกว่า1หนื่นตัวอักษร ใช้เวลาเขียน1ตอนต่อ14วัน
สิ่งที่อยากให้วิจารณ์ หรือจะวิจารณ์นอกจากนี้ก็ได้นะคะ
— ภาษา
—ความลื่นไหลในการอ่าน
อย่างที่รู้ๆกันว่า1ตอนมันยาวมาก เราเลยจะตัดมาให้อ่าน(ตอนที่4ยังแต่งไม่เสร็จและเป็นตอนที่อยากได้คำแนะนำมากที่สุด)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"อ่าฮะ สรุปแล้วเธอเป็นผู้ช่วยที่หมอนั่นส่งมาจริงๆใช่ไหม?" ไลเนสที่นั่งขัดสมาธิอยู่ปลายเตียงก็กำลังพูดกับฟลอรัสที่กำลังนั่งอยู่บนหมอนใบใหญ่
"อืม จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว อันที่จริงเพราะฉันอยากจะเป็นผู้ช่วยของเธอ ฉันเลยขอเขามาน่ะ"
"แล้วเพราะอะไรล่ะ?"
"ก็...ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก" ดวงตาสีเขียวมรกตไม่เพียงแต่ไม่ยอมสบตากับไลเนสเพียงเท่านั้น ยังมีท่าทีที่เหมือนจะบ่ายเบี่ยงคำถาม ไลเนสจึงทำได้เพียงแค่ถอนหายใจแล้วเปลี่ยนคำถามในทันใด
"แล้วผู้ช่วยทุกคนต้องตัวเล็กแบบนี้เลยรึเปล่า?"
"เอ่อ...ก็เท่าที่ฉันเห็นและได้เรียนรู้มาก็เหมือนจะตัวเล็กแบบนี้กันทุกคนนะ"
"แล้วเธอรู้อะไรบ้าง? รู้ไหมว่าทำไม..." ไลเนสหยุดชะงักกับคำพูดของตนได้เพียงไม่นานก็กลืนคำพูดนั้นลงคอไปในทันที ใบหน้าที่ก้มตํ่าก็กำลังจ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตาสีเขียวมรกตพลางขมวดคิ้วทั้งสองข้างราวกับกำลังเคร่งเครียดกับบางสิ่ง
"เธอรู้จักผมไหม?"
"แน่นอน ฉันรู้จักเธอ"
"ถ้าอย่างนั้นเธอก็ตอบได้ว่าตอนนี้ผมอยู่ในช่วงเวลาไหน อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต"
"เอ เรื่องนั้นมันก็ตอบยากเหมือนกันนะ ไม่สิ...เอาเป็นว่า ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงเรื่องนี้ ถ้าเธออยากรู้ก็ควรไปถามเขาตรงๆจะดีกว่านะ"
ดวงตาสีนํ้าเงินได้แต่จ้องมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของภูตจิ๋วตัวน้อยที่นั่งยิ้มร่าให้กับตน ดวงตาสีเขียวมรกตและเส้นผมสีชมพูที่ยาวประบ่าโดดเด่นเสียยิ่งกว่าชุดกระโปรงสีขาวเรียบๆที่ภูตจิ๋วได้สวมใส่ ในครานี้ไลเนสเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเอ่ยปากพูด ตนจึงล้มตัวลงนอนเพื่อให้ผ่านพ้นยามวิกาล "นอนเถอะ" ไลเนสพูดเพียงแค่นั้นก็พลันหลับตาลงแล้วทิ้งฟลอรัสให้อยู่กับความสงสัยที่ว่าไลเนสวางผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กและหมอนใบใหญ่ไว้บนลิ้นชัก ฟลอรัสจึงตั้งคำถามขณะที่ไลเนสนอนหันหลังให้กับตน
"นี่อะไร?"
"หมอนไง หรือเธออยากจะนอนบนพื้นแข็งๆก็ตามสบาย"
ด้วยการกระทำที่ไม่คาดคิดของไลเนสก็กลับทำให้ฟลอรัสยิ้มแก้มแทบปริ อะไรกัน ก็เป็นเด็กที่น่ารักดีออก ด้วยความคิดเช่นนั้นฟลอรัสจึงได้หลับใหลไปพร้อมกับความสุขที่เอ่อล้น เพียงแต่ไม่นานในยามที่นกน้อยร้องขับขานก็กลับมีภูตจิ๋วมานั่งบ่นพึมพำให้นกน้อยข้างกายของตนฟัง
"รีจ เห็นนั่นไหม เธอกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอกโดยที่มีพ่อบ้านคนนั้นเป็นคนดูแล แต่ฉันที่เป็นผู้ช่วยกลับไม่ได้ไปด้วย" ฟลอรัสทำหน้ามุ่ยในขณะที่นั่งมองไลเนสอยู่นอกระเบียง
"แถมหลังจากมื้อเช้าเธอก็เข้ามาในห้องแล้วบอกกับฉันว่า วันนี้ผมจะออกไปข้างนอกอาจจะนานหน่อยเพราะเป็นครั้งแรก แต่เธอคงรอได้ใช่ไหม?" นํ้าเสียงของหญิงสาวที่พยายามเลียนเสียงให้เหมือนกับเสียงของเด็กชายไม่พอ ยังเอาใบไม้มาคลุมร่างกายของตนประหนึ่งว่าตนกำลังแสดงท่าทีของเด็กชายในตอนนั้นที่กำลังถอดเสื้อนอกของตนออกอย่างเร่งรีบ
"ฉันที่กำลังสงสัยว่าเธอจะออกไปข้างนอกได้ยังไงก็ท่านเคานต์น่ะเป็นห่วงลูกชายของตัวเองจะตายไป แล้วเธอก็เล่าต่อ ทีแรกน่ะ เขาก็ยืนกรานว่าจะไม่ให้ไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดทบทวนใหม่แล้วก็เปลี่ยใจไปเสียดื้อๆ และผมก็ได้ออกไปเดินเล่นนอกคฤหาสน์ แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องไปกับโอเดอร์"
"เพราะงั้นฉันเลยถูกทิ้งให้อยู่กับเธอไง รีจ แต่ก่อนที่เธอจะไปก็สัญญากับฉันแล้วนะว่าจะซื้อของฝากมาให้ แถมฉันยังสามารถมองดูเธอได้จากข้างบน แล้วเธอล่ะ รีจ จะไปที่ไหนต่องั้นเหรอ?" ฟลอรัสที่นั่งแกว่งขาบนกิ่งไม้ได้หันไปหาเจ้านกน้อยพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ แต่หารู้ไม่ว่าพอเจ้านกน้อยส่งเสียงร้องจิ๊บ จิ๊บก็พุ่งตรงเข้ามาจิกตนในทันที แม้ฟลอรัสจะหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ทำให้ตนเสียขวัญไม่ใช่น้อย "ปะ...เป็นอะไรไปน่ะ รีจ ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอยังดีๆอยู่เลยนะ รีจ!" ฟลอรัสถึงกลับกรีดร้องเมื่อเจ้านกน้อยพุ่งเข้าหาตนด้วยความรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงร้องจิ๊บ จิ๊บตลอดทาง
ในยามบ่ายไลเนสได้เดินเตร็ดเตร่ไปทั่วตลาด หากพบเจอสิ่งที่น่าสนใจก็อาจซื้อติดไม้ติดมือมาด้วย แต่ในขณะที่ตนกำลังเพลิดเพลินไปกับสิ่งของเหล่านั้นสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นคนหนึ่งคนที่ทำตัวราวกับคนน่าสงสัยได้เดินเข้าไปในตรอก ทำตัวเด่นขนาดนั้น ก็ยังไม่มีใครสังเกตุเห็นอีกงั้นเหรอ? แต่คนคนนั้นก็กลับอยู่ในสายตาของไลเนสเพียงไม่นานตนก็ให้ความสนใจกับสิ่งอื่น หรือจะเป็นเพราะแถวนี้มันเกิดเหตุชุลมุนหว่า
เสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้คนก็ยิ่งหนาหูเมื่อทางสัญจรของผู้คนกลายเป็นสังเวียนของการต่อสู้ เหตุเกิดเพราะคนสองคนที่ทะเลาะกันในร้านเหล้ามาชกต่อยกันกลางถนนเนี่ยนะ? และด้วยเหตุนี้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปผ่านมาจึงเริ่มที่จะแออัด ไลเนสที่เห็นว่าท่าไม่ดีจึงคิดจะเดินไปหาพ่อบ้านที่อยู่ห่างกันไม่ไกล แต่ก็กลับถูกความรักอิสระของตนเข้าเล่นงาน เมื่อตนเพลิดเพลินไปกับสิ่งแปลกใหม่มากเสียจนเดินห่างจากพ่อบ้านมาไกลอย่างไม่รู้ตัว เพียงแต่ไม่นานร่างกายของไลเนสก็ราวกับไหลไปตามฝูงชน มารู้ตัวอีกทีตนก็ถูกชนให้ล้มก้นจํ้ามํ่าอยู่ภายในตรอก
โถ่เอ๊ย อุตส่าห์จะไม่หาเรื่องใส่ตัวอยู่แล้วเชียว แต่กลิ่นนี้มัน...เลือด! ไลเนสที่สูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก็กลับได้กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในอากาศ แม้ตนจะรีบหันหลังกลับไปในทันทีก็ไม่ทันกาล ฝ่ามือขนาดใหญ่ได้พุ่งเข้ามาปิดปากของตนด้วยความรวดเร็ว จนแผ่นหลังของเด็กชายกระแทกเข้ากับกระจกใสที่สามารถมองเห็นผู้คนพลุกพล่านได้จากอีกฝั่ง
ช่วยวิจารณ์นิยายหน่อยค่ะ (เป็นนิยายแอคชั่นแฟนตาซีนะคะ)
ปัจจุบันเรื่องนี้ยังไม่ปล่อยให้อ่านเพราะเราตั้งมั่นไว้ว่าจะเขียนให้จบก่อน และ1ตอนมีมากกว่า1หนื่นตัวอักษร ใช้เวลาเขียน1ตอนต่อ14วัน
สิ่งที่อยากให้วิจารณ์ หรือจะวิจารณ์นอกจากนี้ก็ได้นะคะ
— ภาษา
—ความลื่นไหลในการอ่าน
อย่างที่รู้ๆกันว่า1ตอนมันยาวมาก เราเลยจะตัดมาให้อ่าน(ตอนที่4ยังแต่งไม่เสร็จและเป็นตอนที่อยากได้คำแนะนำมากที่สุด)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้