นี่หรือคือ mindset ของการให้บริการของบริษัท mobile operator / internet provider รายใหญ่ สีแดง ที่นับวันยิ่งแย่ลงๆ

เบื้องต้นผมแจ้งไว้ก่อนเลยผมเคยใช้ทั้งอินเตอร์เน็ต / เครือข่ายโทรศัพ / รวมถึงทั้งบริการทีวีของค่ายนี้ด้วย ตั้งแต่สมัยก่อนราวๆปี 2000 ปลายๆ สมัยยังเป็นจานดาวเทียมอยู่ หรือเป็น cable TV และยังไม่มีอินเตอร์เน็ต Fibre เหมือนในปัจจุบัน และใช้มาตลอด ตอนแรกก็ไม่คิดจะย้ายไปใหน แต่เจอแบบนี้คงแบบขยาดไปอีกนาน ขอลาขาดกันที

เหตุเกิดตั้งแต่ราวๆ 4 ปีก่อน ที่ผมย้ายบ้าน แล้วตอนนั้นต้องย้ายอินเตอร์เน็ตด้วยอะไรด้วย ก็ทำการแจ้งทาง call center ให้ย้ายอินเตอร์เน็ตไปบ้านใหม่ โดยยกเลิกสัญญาอันเก่า และไปติดตั้งที่ใหม่ สมัยนั้นผมยังจำได้อยู่ว่ายังมีจนท.มารับของให้ที่บ้าน (ในขณะที่ปีหลังๆมานี่ไม่มีแล้ว ต้องยกของไปศูนย์ใหญ่เอง ไม่รู้เจ้าอื่นเป็นเหมือนกันไหม แต่เท่าที่คุยๆกับเพื่อนดู เจ้าสีเขียวก็เป็น ไม่รู้ว่าเจ้าอื่นเป็นมั้ย) เขาก็รับของไปทั้งหมด และติดตั้งอินเตอร์เน็ตที่บ้านใหม่เรียบร้อย แต่สุดท้ายแล้วตรงปลายทางสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เกิดค่าใช้จ่ายขึ้น โดยทางบริษัทอ้างว่า ผมไม่ได้คืนอุปกรณ์ที่ทางบริษัทติดตั้งให้ตั้งแต่ตอนแรกไปทั้งหมด อ้าว? แต่ก็ไม่เป็นไร มันเป็นค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก ราวๆ 1-2 พัน อันนี้ผมก็จ่ายตามรอบบิลเพื่อปิดไอดีเก่าไป ถึงจะหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากให้ประวัติมันดูไม่ดีหรือมีอะไรมาตามเช็คบิลทีหลังเหมือนกัน

หลังจากย้ายมาบ้านใหม่ และติดสัญญากับ provider เจ้านี้ถึงราวๆ 2 ปี! ใช่ครับ สองปี (ช่วงนั้นเป็นช่วงที่อินเตอร์เน็ต Fibre ความเร็วราวๆ 1gbps มาใหม่ๆ + เข้าใจว่าเกิดความแข่งขันกันสูง อาจจะทำให้ต้องมีการยื้อลูกค้าไว้ให้อยู่ด้วยกันนานๆก่อน) ในระหว่างสองปีนั้น ผมได้ข้อเสนอให้เปลี่ยน router ฟรีหนึ่งรอบ และผมก็รับมาแบบไม่ได้คิดอะไรเพราะมันได้เน็ตเพิ่มด้วยอะไรยังไง และใช้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาหมดสัญญาสองปี

ตอนนั้นเห็นโปรค่ายอื่นมันดูดีกว่าและมีความเร็วเยอะกว่า แถมสัญญานตรงที่ติดตั้งตรงบ้านใหม่ บอกตรงๆและยอมรับเลย .... ไม่ค่อยจะดีเท่าใหร่ ทั้งที่ใช้ๆงานอยู่ หลุดบ่อย รวมถึงการที่ว่าต้องใช้งานต่อเนื่องอย่างเล่นๆเกมอยู่ แล้วจู่ๆสัญญานต้องรีเซ็ตตอนราวๆตี 1 ของทุกวัน (ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเวลานั้น) และต้องการจะใช้ Fixed IP ในการทำงานด้วย (เพราะตอนนั้นเริ่มทำงานที่บ้านและจะต้อง Remote เข้า office ทางที่ดีควรจะ whitelist ip ของทางบ้านไว้จะเป็นการง่ายกว่าโดยไม่ต้องใช้ VPN หรือต้องมานั่งยุ่งยาก setup ต่างๆนาๆ) แต่ทาง provider ไม่สามารถจัดการให้ได้ตอนนั้น โดยอ้างว่าสำหรับ Fibre และ IP v4 นั้นไม่สามารถใช้ Fixed IP ได้ ผมเลยพยายามย้ายออก เพราะต้องการย้ายไปหาเจ้าใหม่ที่มี Fixed IP เลยไปทำการยกเลิก แต่ใช่ครับ ผมยกเลิกไม่ได้ รอบแรกผมโทรไปยกเลิกเหมือนเดิมเลย แต่จนท.บอกว่าให้ยกของไปที่ true shop ผมก็ได้แต่เอะใจว่าแต่ก่อนมันไม่ใช่แบบนี้นี่ แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็ขนๆของไป เก็บทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ แต่แต่ถ้าจำไม่ผิดผมลืมหยิบปลั๊กจ่ายไฟของอะไรสักอย่างไป เขาเลยตีว่าผมไม่ได้มีของนั้นมาคืนไปให้ ให้ผมกลับไปก่อน แล้วเดี๋ยวจะให้จนท.มาตามเก็บอีกทีนึง (อ้าว ทีอย่างงี้จะมาตามเก็บให้ก็ได้นี่หน่า แล้วทำไมไม่ส่งมาตั้งแต่แรก?)

แต่มันยังมีปัญหาตรงที่ เขาบอกว่าผมยังติดสัญญาอยู่ ผมก็เลยเอะใจตรงที่ เอ้ะตอนแรกบอกไว้ว่าแค่สองปีนี่ เขาบอกว่าผมยังติดสัญญากับ router ที่เขามาติดตั้งให้ใหม่ เหมือนกลายเป็นยกเลิกอันเก่า และเปิดอันใหม่ เท่ากับผมต้องรออีกหนึ่งปี เพื่อให้มันครบสัญญา ตอนนั้นผมหงุดหงิดมาก มาถึงที่แล้วแต่สุดท้ายจบไม่ได้ ทั้งพนง.ตรงร้านก็เครียด เพราะเขาก็ทำอะไรมากไม่ได้ ในส่วนนี้ผมก็เข้าใจ นั่งตึงๆกันอยู่สักพัก พนง.เขาเสนอมาว่างั้นตรงนี้ต่อเสนอเป็นส่วนลด 50% ก่อนมั้ยคะ ให้หมดสัญญา แล้วค่อยยกเลิกตอนครบสัญญาก็ได้ (แต่ไม่ได้แจ้งถึงเงื่อนไขใดๆเพิ่มเติม แจ้งแค่ว่าต้องต่อส่วนลดทุกๆหกเดือน) ประจวบเหมาะกับตอนนั้นผมมีอีกที่นึงที่ยังไม่มีเน็ตแต่อยากให้มีอินเตอร์เน็ตพอดี ผมเลยเลือกข้อเสนอนี้ไป 

ที่อยู่ที่กล่าวถึงการติดตั้งอินเตอร์เน็ตไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ติดตั้งกันเสร็จบลาๆ แต่ผมเอะใจตรงที่ ในแพคเกจเขียนไว้ว่า มีตัวเกี่ยวกับ IPTV ด้วย แต่ตรงปลายทางที่ดูการติดตั้งและตรวจสอบดูเขาก็บอกว่าไม่ได้มีของอันน้นมาให้ด้วยนะ มีมาแค่ติดอินเตอร์เน็ตเฉยๆ (ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันหายไปใหนอะไรยังไง) ก็ใช้ๆไป พยายามใช้ให้ครบสัญญา และใช้ๆไป จู่ๆก็มีบิลขึ้นมาใน App และพอผมโทรไปสอบถามว่านี่คือค่าใช้จ่ายอะไร ตั้ง 3-4 พัน จนท.แจ้งกลับมาว่า เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากทางลูกค้าไม่ได้คืนอุปกรณ์ให้กับทางช็อปค่ะ ผมถึงกับงง เพราะสิ่งที่จนท.ตรงช็อปบอกคือไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวให้จนท.ไปรับอีกรอบนึงแทน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆคือ ไม่มีใครมารับอะไรทั้งนั้นจากทางบ้านผมเลย สุดท้ายจนท.แจ้งว่า ผมต้องเอาอุปกรณ์ดังกล่าวไปคืนเองภายหลัง ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ถึงจะหายไป แล้วทำไมไม่แจ้งตั้งแต่แรก? ทำไมการสื่อสารภายในกันเองในระหว่างแต่ระฝ่ายมันเหมือนแบบมีอะไรตกหล่นไปตลอด ? ไม่มีอะไรไว้ใจได้สักอย่าง

ระยะเวลาผ่านมาสักระยะนึง  ผมจะติดต่อยกเลิกอีกรอบ เหตุการเพิ่งเกิดสดๆ ล่าสุดผมโทรเข้า Call center ไม่มีให้คุยกับจนท.แล้ว ระบบจะกดเป็นวนไปวนมาทั้งหมด ไม่มีหัวข้อให้ติดหรือคุยเพื่อขอบริการหลังการขายใดๆทั้งนั้น สุดท้ายลองเข้าแอปและพยายามติดต่อจนท.ผ่านแอปแทน จนท.แจ้งว่ายังคงยกเลิกไม่ได้ เพราะติดสัญญาอยู่ ผมเลยถามว่าสัญญาอะไร ทางจนท. ตอบกลับมาว่ามีสัญญาโปรโมชั่นส่วนลด อ้าว คืออะไร ตอนแรกที่แนะนำบอกให้รับเป็นส่วนลดไปก่อน ไม่ได้บอกนี่ว่าจะมีสัญญาติดมาเพิ่ม ? การไม่แจ้งลูกค้าถึงข้อผูกมัดอย่างงี้ จงใจเจตนาอะไรรึเปล่า?  สรุปก็คือยังยกเลิกไม่ได้ แต่ไม่ได้แจ้งว่าส่วนลดนั้นมีค่าสัญญาผูกมัดมาด้วย 

ล่าสุดคือโทรคุยตกลงกันกับที่อยู่อีกที่นึงเรียบร้อยแล้วว่าเดี๋ยวเก็บอุปกรณ์และเตรียมตัวไปติดต่อที่ศูนย์บริการอีกรอบ รอบนี้ไม่สนเรื่องค่าสัญญาอะไรแล้ว จะเสียก็เสีย เพราะมันสุดจะทนแล้ว พอกันที กับการเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ตอนแรกว่าจะเหลือแค่เบอร์โทรศัพ ยกเลิกอินเตอร์เน็ต เพราะเบอร์ที่ใช้มา ก็คือใช้มาหลักเกือบสิบปีแล้ว แถมเป็นเบอร์มงคลที่พ่อซื้อให้ด้วย + สัญญานที่ตจว. ของค่ายนี้ค่อนข้างโอเค ตอนนี้เริ่มลังเลว่าจะปิดเบอร์ดีหรือเปล่า เพราะเริ่มรู้สึกขยาดกับความยุ่งยากในการเปลี่ยนแปลงหรือจะทำอะไรยังไงก็ติดสัญญาไปหมด 

บทเรียนที่ได้หลังจากอยู่กับ provider / operator นี้มาร่วม 20 ปี ใช้ตั้งแต่สมัยยังเป็นแค่นร. ใช้แบบเติมเงิน จนยันใช้บริการอื่นๆเป็นอินเตอร์เน็ตบ้าน และ cable tv จนถึงปัจจุบัน
- สิ่งที่ได้คือคำทุกสิ่งทุกอย่างมักมีอะไรซ่อนอยู่เสมอ และถ้าคุณไม่รู้ทั้งหมด เขาจะใช้สิ่งที่คุณไม่รู้หรือไม่ได้แจ้งตั้งแต่แรก เพราะคุณผิดเองที่คุณไม่ได้ถาม ซึ่งเอาจริงๆผมก็ยอมรับเองว่าผมไว้ใจและเชื่อใจกับ operator และ provider เจ้านี้ ถึงจะได้ยินเรื่องแย่ๆมาหลายรอบแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าใหร่เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับเราจริงๆ
- ช่วงหลังๆเมื่อเทียบกับตอนแรกๆแล้ว ข้อเสนอหรือส่วนลดพิเศษต่างๆนาๆ แทบไม่มีให้กับลูกค้าเลย มีแต่โทรทวงค่าใช้จ่ายเท่านั้น ไม่ก็จะมาง้อให้อยู่ต่อตอนที่ตัวเองกำลังเสียผลประโยชน์เท่านั้น ตลกร้ายดี ตอนอยู่ไม่คิดจะแคร์ พอตอนจะไปก็เพิ่งจะเห็นความสำคัญ
-"บางครั้งเราก็ต้องโหดร้ายกับคนอื่นบ้าง จะเป็นพ่อพระตลอดเวลาไม่ได้ เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด เราจะใจดีกับทุกคนและปล่อยๆให้ทุกอย่างผ่านไปโดยที่ว่าทุกคนจะเอาแต่ผลประโยชน์จากเรา มันแฟร์แล้วเหรอลองถามตัวเองดู" ผมเคยโดนพ่อผมสอนไว้ราวๆนี้ ตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจ จนกระทั่งเริ่มทำงานเองและต้องจ่ายเรื่องพวกนี้เอง และต้องเจอส่วนที่น่าปวดหัวและ mindset ที่เรียกว่าได้ว่าเน่าเฟะของการให้บริการของ provider / operator เพราะเท่าที่คุยๆดูมากับเพื่อนหรือคนรู้จักที่ใช้ค่ายอื่นๆ ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใหร่ ไม่เคยเห็นหัวเราจนกระทั่งเราจะไป แทนที่จะสู้กันด้วยการบริการให้ได้ความอุ่นใจจนเราติดใจในบริการของแต่ละค่าย 

ผมอดพูดถึงไม่ได้จริงๆ สุดท้ายแล้วจะเกิดการควบรวมเกิดขึ้นทั้งของฝั่งอินเตอร์เน็ตเอง หรือแม้กระทั่งของค่ายโทรศัพมือถือเอง สุดท้ายตัวเลือกก็จะน้อยลง ผมล่ะมองภาพไม่ออกจริงๆว่ามันจะมีการแข่งขันสูงขึ้นยังไง บริการอาจจะห่วยกว่าเดิมหรือแย่กว่าเดิมลงไปอีก เพราะสุดท้ายแล้ว คุณก็เป็นแค่ลูกค้า ที่ไม่มีตัวน้อยลง ต้องจำใจยอมๆไป ไม่งั้นก็ไม่ต้องใช้ เพราะคุณไม่มีตัวเลือก และเขาไม่คิดจะแคร์คุณอยู่แล้ว เขาสนแค่ว่าจะทำกำไรยังไงให้ได้มากที่สุด

สุดท้ายนี้ หวังว่ากระทู้นี้นอกจากเป็นที่ระบาย ของตัวผมเอง มันจะยังเป็นบทเรียนและที่เตือนภัยสำหรับหลายๆคนที่จะใช้บริการของค่ายมือถือหรือค่ายอินเตอร์เน็ตต่างๆ ว่าทุกอย่าง มักมีอะไรอยู่เบื้องหลังเสมอ หรือจะเป็นที่มาแชร์ประสบการณ์ที่เจอมากับเจ้าอื่นๆ อาจจะเรียกตรงๆเลยก็ได้ แต่ตรงนี้ผมขอเรียกแบบเลี่ยงๆแล้วกัน

ปล. เดี๋ยวผมมาอัพเดทอีกทีถ้ายกเลิกได้แล้ว เบื้องต้นกำลังคิดว่าจะระงับการใช้งานไม่ให้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นก่อน เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ไม่แน่ใจว่าจะว่างไปยกเลิกเมื่อใหร่ และไม่อยากจะให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว หัวจะปวด Facepalm

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่