สาปแช่งคนด้วยความแค้นจะบาปไหม (ถูกบีบให้ลาออกจากราชการในวัยเลข 4)

สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้ง โดยยืมแอคเค้าหลานมา หากแท็กผิดห้องประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ

ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ  จขกท ได้สาปแช่งคนไปด้วยความแค้น แม้ตอนนี้ยังไม่หายแค้น แต่ไม่อยากมีเวรกรรมต่อกันอีก อยากให้จบกันแค่นี้ ถ้าเราถอนคำสาปแช่ง บาปนั้นจะยังอยู่มั้ยคะ

ขอเล่าที่มาที่ไปนิดนึงนะคะ จริงๆก็ อยากจะระบายด้วย
เรื่องมีอยู่ว่า จขกท เป็นข้าราชการในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องสีเทา จริงๆคือเรียกว่าดำเลยก็ได้
ไม่อยากจะลงรายละเอียด เพราะกระทบกระเทือนจิตใจพอสมควร ด้วยความที่ตัวเองไม่ยอมตามน้ำ จึงถูกกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ
ทั้งบีบให้ทำงานลำบาก ขัดขวางการทำงาน และอีกสารพัดวิธี ที่มันและพวกจะสรรหามาได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวิธีสกปรกทั้งสิ้น

จนวันนึงเกิดเหตุการณ์ที่ จขกท ทนไม่ไหวอีกแล้ว  เกิดความกดดันสะสมจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และตัดสินใจลาออกในที่สุด
ด้วยความที่ตอนนั้นอาการป่วยค่อนข้างหนัก  สภาวะจิตใจไม่มั่นคง จึงตัดสินใจออกโดยไม่ได้มีงานรองรับ 
(หากใครเคยป่วยเป็นโรคนี้ คงจะเข้าใจดีว่า ต่อให้มีเหตุผลมาร้อยแปดมารั้ง แต่เราจะรู้สึกไม่ไหวแล้ว อยากตายและหายไปเลย)

ฝ่ายคนที่คอยกลั่นแกล้ง ก็คือนายและพวกที่รวมหัวกันทำความชั่ว มีการไปโพสเฟสบุคซ้ำเติม ตอนนั้นด้วยความที่ยังไม่ถึงวันสุดท้ายของการทำงาน จขกท ยังต้องช่วยงานบางอย่างให้มัน ตอนนั้น  ทั้งแค้น ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด จึงสาปแช่งมันไป (ยังจำภาพตัวเองได้ติดตาว่าแค้นขนาดไหน) 
ด้วยความที่รู้ตัวว่าตอนนั้นแค้นมาก จึงรู้สึกว่าต่อให้ถอนคำพูดไปแล้ว เราจะยังบาปอยู่หรือเปล่า

ปล. ตอนนี้ จขกท รักษาอาการป่วยอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้ทำงาน ไม่มีสวัสดิการในการรักษาแล้ว เหมือนโลกนี้มันพังถล่มลงมา เงินเก็บก็ต้องนำออกมาใช้ จะพยายามเข้มแข็งให้เร็วที่สุด ก่อนที่เงินเก็บที่หามาได้จะหมดไป
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ส่วนตัวไม่เชื่อคำสาปแช่งครับ บางคนโดนคนแช่งทั้งประเทศยังสุขสบาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่